AAS Harley-Davidson® of Bangkok ชวนลูกค้าขี่รถเข้าร่วมงาน Motor Expo 2017 พร้อมเชิญสื่อมวลชนและลูกค้าร่วมทดสอบขับขี่รถโมเดลปี 2018 ในตระกูล Softail อย่าง Harley-Davidson® Heritage Classic™

บริษัท แบงค็อก ไรเดอร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของรถจักรยานยนต์ระดับตำนานอย่าง ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน จัดกิจกรรมพาลูกค้าขี่รถฮาร์เล่ย์ฯ เข้าร่วมงาน Motor Expo 2017 พร้อมเชิญสื่อมวลชนและลูกค้าเข้าร่วมทดสอบขับขี่ Harley-Davidson® (ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน®) โมเดลใหม่ปี 2018 ในตระกูล Softail® อย่าง Heritage Classic™ ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight® V-Twin สไตล์ Blacked-out เป็นเครื่องยนต์อันทรงพลังที่สามารถตอบสนองการขับขี่ได้อย่างลงตัว โดยในเวอร์ชั่น 2018 จะดีไซน์เฟรมแบบใหม่ที่มีน้ำหนักที่เบาและยังคงความแข็งแรงเอาไว้ พร้อมระบบไฟหน้าแบบ LED ที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นบนท้องถนนในเมืองได้อย่างสมบูรณ์แบบ

นอกจากกิจกรรมทดสอบ MY18 Heritage Classic™ แล้ว ทาง AAS Harley-Davidson® of Bangkok ยังได้จัดกิจกรรมพาลูกค้าขี่รถฮาร์เล่ย์ฯ เข้าร่วมงาน Motor Expo 2017 นำขบวนโดย คุณนิรันดร สิมาสฤษฏ์ General Manager จาก AAS Harley-Davidson® of Bangkok ในวันพุธที่ 6 ธันวาคม 2560

รายละเอียดเพิ่มเติม
Heritage Classic™ เปิดตัวครั้งแรกในปี 1986 ด้วยเครื่องยนต์ วีทวิน ตระกูล Evolution ความจุ 82 CU IN. (คิวบิค นิ้ว) หรือ 1,340 ซีซี เอกลักษณ์ของรุ่นนี้คือ Windshild ขนาดใหญ่ช่วยตัดลมและลดอาการเมื่อยล้า ขณะเดินทางไกล รวมไปถึงไฟหน้า 3 ดวงและล้อซี่ลวดที่รุ่นปัจจุบันยังเอกลักษณ์นี้ไว้อย่างไม่เสื่อมคลาย***

จัดปายยยย!! Vespa เปิดตัวรถแบบพลังงานไฟฟ้าอย่าง “Elettrica” แล้วพร้อมชาร์จภายใน 4 ชั่วโมง

ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้วนั้นแบรนด์รถอย่าง Vespa ก็ได้เกริ่นๆ ถึงรถแบบพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบของพวกเขา (all-electric scooter) และในวันนี้ในที่สุดนั้นค่ายรถชื่อดังจากประเทศอิตาลีก็ได้ตัดสินใจแล้วในการเปิดตัวรถแบบ “Vespa Elettrica” ในงานใหญ่อย่าง Milan Motorcycle Show

โดยล่าสุดนั้นทาง Piaggio ผู้ก่อตั้งแบรนด์รถอย่าง Vespa ก็ได้ทำการยืนยันแล้วว่ารถแบบ “Elettrica” รุ่นใหม่ของพวกเขาจะมีสเป็คการขับเคลื่อนทั้งสิ้น 62 ไมล์ (ประมาณ 100 กิโลเมตร) โดยใช้ระยะเวลาการชาร์จพลังงานทั้งสิ้น 4 ชั่วโมงในการชาร์จพลังงานเต็มหนึ่งครั้งซึ่งเป็นสเป็คของแบตเตอรี่ที่ดีมากที่สุดรุ่นหนึ่งในชั่วโมงนี้

สำหรับในส่วนของแบตเตอรี่สำหรับรถแบบ “Vespa Piaggio” รุ่นล่าสุดนั้นจะทำการชาร์จพลังงานได้ที่ประมาณ 1,000 Cycle (รอบ) โดยประมาณ นอกจากนี้ยังลดการใช้พลังงานลงจากเดิมประมาณถึง 80% ด้วยกันในภาพรวม ส่งผลให้มันมีประสิทธิภาพในการทำงานที่มากขึ้นกว่าเดิมและมีอัตราการประหยัดที่ดีกว่าเดิมเช่นเดียวกัน

เท่านั้นยังไม่พอมันยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย เช่น ระบบหน้าจอสัมผัสขนาด 4.3 นิ้วทางด้านหน้าปัดรถในแบบ TFT จอสีซึ่งช่วยบอกความเร็ว, ระยะการเดินทาง, อัตราการประหยัดน้ำมัน และส่วนประกอบอื่นๆอย่างครบครัน นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมต่อในระยยบลูทูธ (Bluetooth), ระบบข้อความ SMS และรองรับการรับสายโทรศัพท์ขณะขับรถ

โดยรถแบบ Vespa Elettrica นั้นจะเริ่มทยอยเปิดตัวในโชว์รูม และมีรุ่นแต่งแบบ Vespa Elettrica X อีกด้วยที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน + มอเตอร์ไฟฟ้าขนาดใหญ่

ส่อง Triumph Girl พร้อมชมบูธ Triumph Motorcycles ใน Motor Expo 2017

ผ่านมาแล้วครึ่งทางกับงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34 หรือ มอเตอร์เอ็กซ์โป 2017 ทีปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 – วันที่ 11 ธันวาคม 2560 ณ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี โดยทุกๆ ปี จะมีทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ชั้นนำมาแสดงและนำเสนอรถรุ่นใหม่ๆ รวมทั้งนำเสนอโปรโมชั่นแรงๆ มากมายตลอดทั้งงาน

และในปีนี้ก็เช่นกัน ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์สัญชาติอังกฤษ ก็ได้เข้าร่วมงานพร้อมเนรมิตบูธขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ภายใต้คอนเซปต์ Premium British Lifestyle พร้อมขนทัพรถมอเตอร์ไซค์ร่วม 30 คัน มาโชว์ เรียกว่านำทุกรุ่นที่ขายในเมืองไทย มาให้สาวกได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด และที่สำคัญคือการเปิดตัวครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิกของ 2 รถมอเตอร์ไซค์ตระกูลแอดเวนเจอร์แอนด์ทัวร์ริ่งที่ทุกคนเฝ้ารอคอย ได้แก่ ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์อาร์ที (ALL NEW Tiger 800 XRT) และ ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์ซีเอ (ALL NEW Tiger 800 XCA) โฉมใหม่ล่าสุด ที่ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงครั้งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นโครงรถเละเครื่องยนต์ที่ได้รับการอัพเกรดมากกว่า 200 รายการ และระบบขับเคลื่อนที่ยอดเยี่ยมขึ้น เพื่อส่งมอบความสะดวกสบาย ตลอดจนสมรรถนะในการขับขี่แบบออฟโรดที่ดียิ่งขึ้น เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของทุกการผจญภัยกว่าที่เคย มาให้ยลโฉมและจับจองกันเป็นเจ้าของกันถึงภายในงาน

ภายในบูธมีรถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์ทุกรุ่นมาโชว์ ไม่ว่าจะเป็นตระกูลโมเดิรน์คลาสสิกอย่าง บอนเนวิลล์ที 100 บอนเนวิลล์ ที 100 แบล็ค บอนเนวิลล์ ที 120 บอนเนวิลล์ ที 120 แบล็ค สตรีท ทวิน ทรักซ์ตัน อาร์ บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ และสตรีท สแครมเบลอร์ รวมถึง 2 รุ่นใหม่ของตระกูลทีเพิ่งเปิดตัวไปอย่างสดๆ ร้อนๆ เช่นกัน ก็คือ บอบเนวิลล์ บอบเบอร์ แบล็ค และ บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์

รวมถึงตระกูล Naked Roadsters อย่างรุ่น สตรีท ทริปเปิล อาร์เอส (Street Triple RS) ก็พร้อมให้สาวกจับจองเป็นเจ้าของด้วยข้อเสนอสุดพิเศษเฉพาะภายในงานนี้เท่านั้น และอีกไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดในบูธไทรอัมพ์ก็คือการสัมผัสเครื่องยนต์ต้นแบบไทรอัมพ์ตัวจริงที่ผลิตเพื่อใช้ในการแข่งขันรายการ Moto 2 ในฤดูกาล 2019 ซึ่งถือเป็นเครื่องยนต์ 3 สูบแบบเดียวกับที่ติดตั้งอยู่บน รุ่น สตรีท ทริปเปิล อาร์เอส อีกด้วย

นอกจากโซนรถที่มีให้ชมกันร่วม 30 คันแล้ว ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ยังได้เนรมิตโซนเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดที่ขนมาให้เลือกชมและซื้อกันอย่างจุใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เสื้อยืด เสื้อแจ็คเก็ต ถุงมือ หมวก กระเป๋า ฯลฯ พร้อมส่วนลดพิเศษ 15 – 30 เปอร์เซ็นต์ เฉพาะซื้อในภายงานนี้เท่านั้น

ปิดท้ายด้วยโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าที่สนใจซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์ รับข้อเสนอพิเศษมากมาย อาทิ ฟรีประกันภัยชั้น 1 ดอกเบี้ยพิเศษ ดาวน์ต่ำเริ่มต้น 10 เปอร์เซ็นต์ ผ่อนนานสูงสุด 60 เดือน พร้อมรับฟรี ค่า พ.ร.บ. และค่าจดทะเบียน ฯลฯ ยิ่งไปกว่านั้นพิเศษสุดๆ สำหรับลูกค้าที่จองรถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์ทุกรุ่นทุกคันภายในงานเท่านั้น รับฟรีทันที! Triumph Helmet Bag Limited Edition กลับบ้านกันไปเลย

โดยผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บูธไทรอัมพ์ G05 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 11 ธันวาคม 2560

Ducati Multistrada 1200 Enduro Pro 2018 “สายลุยตัวโหดในโหมดพิเศษ”

Ducati Multistrada 1200 Enduro Pro 2018

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ 2 สูบ L-twin

ระบบระบายความร้อน : ด้วยน้ำ

ความจุเครื่องยนต์ : 1,198 ซีซี.

จากกระบอกสูบ x ระยะชัก เท่ากับ  :  106 x 67.9 มม.

กำลังอัดสูงสุด : 152 แรงม้า ที่ 9,500 รอบ/นาที

แรงบิด : 128 นิวตัน-เมตร ที่ 7,500 รอบ/นาที

ระบบการจ่ายเชื้อเพลิง : ด้วยระบบหัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์

ขนานเรือนลลิ้นเร่ง : 56 มม.

ชุดเกียร์ : แบบธรรมดา 6 สปีด

ระบบคลัทช์ : แบบเปียกสั่งงานด้วยไฮดรอลิค

สตาร์ทเครื่องยนต์ : ด้วยระบบไฟฟ้า

ระบบขับเคลื่อน : ด้วยโซ่/สเตอร์

ระบบอิเล็คทรอนิคส์ : ระบบเบรค ABS Cornering ที่จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในเวลาที่ราอยู่ในโค้ง DTC หรือ Ducati Tracion Control ระบบช่วยป้องกันล้อหมุนฟรีได้ 8 ระดับ ระบบ DWC (Ducati Wheelie Control) ระบบป้องกันล้อหน้ายก DCL : Ducati Cornering Light ระบบไฟหน้านำทางขณะเข้าโค้ง และ DSS หรือระบบ Ducati Skyhook System ที่จะทำงานร่วมกับระบบกันสะเทือนหน้าทำให้ตัวรถทำให้ตัวรถมีระยะการยุบและการคืนตัวได้ถึง 200 มม. รวมไปถึงระบบ VHC : Vehicle Hold Control ระบบควบคุมการทรงตัวของรถในทางลาดชัน และระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (Hill-Start Assist)

โหมดการขับขี่ : มีด้วยกันทั้งหมด 4 โหมด Sport, Touring, Urban และ Enduro

ชิลด์หน้า : แบบปรับได้

ไฟหน้า : เป็นแบบ Full LED มาพร้อมฟังก์ชัน Ducati Cornering Light

ไฟท้าย : เป็น LED

แฮนด์ : บาร์ยกสูง 50 มม. มีการติดตั้งการ์ดแฮนด์พร้อมไฟเลี้ยวในตัว

มาตรวัด : เป็นแบบจอสี TFT ขนาด 5 นิ้ว ปรับเซ้ทรูปแบบการแสดงผลได้ 4 แบบ Core, Full, Track, Off Road พร้อมระบบเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน

เบาะนั่ง : เป็นสีทูโทนสีทราย-ดำ

ด้านท้าย : มีมือจับหลัง

กุญแจ : Keyless แบบรถยนต์หรู

ท่อไอเสีย : ออกข้างรูปทรงใหม่ยกสูงขึ้น

สวิงอาร์ม : แบบคู่

ที่พักเท้า : ของผู้ขับขี่จะเป็นหนามสไตล์ลุย

อ๊อฟชันเสริม : ที่มีการติดตั้งเพิ่มเข้ามาเช่น แครชบาร์จาก TOURATECH, สปอตไลท์ LED คู่หน้า, วินด์ชีลด์ทรงตำ, ยางวิบากจาก PIRELLI SCORPION Rally และท่อไอเสียไททาเนียม TERMIGNONI

มิติตัวรถ
– ความสูงจากพื้นถึงเบาะนั่ง : 870 มม.
– ระยะห่างฐานล้อ : 1,594 มม.
– ความจุถังน้ำมัน : 30 ลิตร
– น้ำหนักรถ : 254 กิโลกรัม

ระบบกันสะเทือน
– หน้า เป็นแบบช็อคอับไฟฟ้าเทเลสโคปิคหัวกลับ ขนาด 48 มม. จาก SACHS สามารถปรับตั้งได้ ระยะการทำงาน 200 มม.
– หลัง เป็นแบบเดี่ยวไฟฟ้า จาก SACHS  ปรับตั้งได้ละเอียด ระยะยุบตัว 200 มม.

ระบบเบรค
– หน้าใช้เป็นแบบคู่ชนิดกึ่งให้ตัวได้ ขนาด 320 มม. คาลอเปอร์ BREMBO 4 ลูกสูบ
– หลังใช้เป็นแบบเดี่ยวขนาด 265 มม. คาลอเปอร์ BREMBO 2 ลูกสูบ พร้อมระบบ ABS

ล้อ/ยาง
– หน้า เป็นอะลูมิเนียมขึ้นด้วยซี่ลวดขนาด 3.00-19 นิ้ว รัดด้วยยาง PIRELLI Scorpion Rally ขนาด 120/70-19
– หลัง เป็นอะลูมิเนียมขึ้นด้วยซี่ลวดขนาด 4.50-17 นิ้ว รัดด้วยยาง PIRELLI Scorpion Rally ขนาด 170/60-17

DUCATI เป็นอีกหนึ่งค่ายรถระดับโลกจากอิตาลีที่พัฒนาโมเดลต่างๆ ได้อย่างลงตัวด้วยดีไซน์การออกแบบที่พิถีพิถันในทุกๆ ส่วน อีกทั้งยังเพิ่มความสะดวกสะบายในการเดินทาง และยังสามารถเลือกการขับขี่ในเส้นทางต่างๆ ได้เพียงแค่ปลายนิ้ว กับโมเดลล่าสุดของ Multistrada 1200 ในแนว Dual-purpose ซึ่งเราเห็นจนชินตาหลังจากปรากฏตัวเป็นครั้งแรกในปี 2010

ขอขอบคุณภาพจาก www.totalmotorcycle.com และ www.topspeed.com

GPX ค่ายรถมอเตอร์ไซค์สัญชาติไทย มาแรง ฮ็อตต่อเนื่อง คว้าอันดับ 1 ยอดจองรถมอเตอร์ไซค์ภายในงาน Motor Expo 2017 ถือเป็นการรักษาอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 !!

ปิดฉากกันไปแบบสดๆร้อนๆ กับงานมหกรรมยานยนต์ส่งท้ายปี Motor Expo 2017 ที่มีขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 – 11 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมานี้ งานนี้ค่ายรถมอเตอร์ไซค์ทั้งหลายต่างก็ขนทั้งรถและโปรโมชั่นมาประชันกันเต็มที่ เพื่อเอาใจเหล่าไบค์เกอร์ แต่ที่น่าจับตามองกันมาตั้งแต่ต้นงาน ก็คือค่ายรถมอเตอร์ไซค์สัญชาติไทยอย่างค่าย GPX ที่เปิดตัวรถรุ่นใหม่ในรหัส “DEMON 150 GR” ภายในงานรอบสื่อมวลชน จนเป็นกระแสฮือฮากับรูปโฉมสะดุดตา ในราคาไม่ไกลเกินเอื้อม และเป็นที่คาดหมายกันว่ารถรุ่นนี้จะสามารถทำยอดจับจองภายในงานได้อย่างถล่มทลาย ซึ่งก็เห็นได้จากยอดที่ค่อยๆไต่ระดับขึ้นมา จนทำให้ GPX สามารถเข้าเส้นชัย คว้าอันดับ1 ไปได้ ด้วยยอดจองรวมที่ 1,115 คัน

Ducati Panigale V4 คว้าแชมป์ซูเปอร์ไบค์ที่มียอดจองสูงสุดในประเทศไทย

ดูคาติไทยแลนด์ตอกย้ำความเป็นผู้นำรถสปอร์ตพรีเมียมสัญชาติอิตาเลียน ด้วยยอดจองรถดูคาติในงาน Motor Expo 2017 รวมทั้งสิ้น 213 คัน ซึ่งเป็นยอดจองที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 21.7% โดยเป็นยอดจองรถ Panigale V4 (พานิกาเล่ วี4) สุดยอดนวัตกรรมแห่งรถซูเปอร์ไบค์รุ่นใหม่ล่าสุดสูงถึง 119 คันทั่วประเทศ

ม.ล. ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดูคาทิสติ จำกัด หรือดูคาติไทยแลนด์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ดูคาติไทยแลนด์มีการเปิดตัวรถ Panigale V4 รถซูเปอร์ไบค์ที่แรงที่สุดในโลกที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีจากรถแข่งโมโตจีพี ด้วยราคาเปิดตัวซึ่งเป็นราคาพิเศษอยู่ที่ 949,000 บาท สำหรับรุ่น V4 และ 1,149,000 บาท สำหรับรุ่น V4S ทำให้ได้รับความสนใจและการตอบรับเป็นอย่างดีจากเหล่าไบค์เกอร์แฟนพันธุ์แท้ที่ชื่นชอบรถสปอร์ต โดยมียอดจองภายในงาน Motor Expo 2017 จำนวน 77 คัน เมื่อรวมกับยอดจองที่หน้าโชว์รูมอีก 42 คัน ส่งผลให้ Panigale V4 เป็นรถซูเปอร์ไบค์ที่มีผลตอบรับดีที่สุดหลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเพียงสองสัปดาห์ ด้วยยอดจองถล่มทลายสูงถึง 119 คันทั่วประเทศ

ทั้งนี้ หลังจากที่ราคาเปิดตัวพิเศษได้สิ้นสุดแล้วในงาน Motor Expo 2017 ดูคาติไทยแลนด์จึงได้ประกาศราคาจำหน่ายสำหรับรถ Panigale V4 อยู่ที่ 969,000 บาท และสำหรับ Panigale V4S อยู่ที่ 1,169,000 บาท โดยราคาดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2560 ถึงวันที่ 8 เมษายน 2561

HARLEY-DAVIDSON Forty-Eight 115th Anniversary 2018 “การกลับมาของระดับตำนาน”

HARLEY-DAVIDSON Forty-Eight 115th Anniversary 2018

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ 2 ลูกสูบ V-twin Evolution

ระบบระบายความร้อน : ด้วยอากาศ

ขนาดความจุ : 1,202 ซีซี.

กระบอกสูบ x ระยะชัก : 88.9 x 96.8 มม.

กำลังอัดสูงสุด : 60 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที

แรงบิดสูงสุด : 96 นิวตัน-เมตร ที่ 4,250 รอบ/นาที

ระบบจ่ายเชื้อเพลิง : ด้วยรหัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์ ESPFI (Electronic Sequential Port Fuel Injection)

ระบบเกียร์ : แบบธรรมดา 5 สปีด

คลัทช์ : แบบเปียกสั่งงานด้วยสายสลิง

ขับเคลื่อนด้วย : สายพาน

สตาร์ทเครื่องด้วย : ระบบไฟฟ้า

เฟรม : ผ่านการออกแบบมาอย่างดีทั้งในเรื่องของการวางเครื่องยนต์และการเลือกใช้วัสดุ

ไฟหน้า : เป็นแบบดวงเดียวสไตล์ดิบๆ

ไฟเลี้ยวคู่หน้า : ทรงหัวกระสุน

มาตรวัดหน้าปัด : ทรงกลมสดงข้อมูลแบบอะนาล็อก

แฮนด์ : บาร์ทรงต่ำ

กระจกมองหลัง : เป็นแบบก้านสั้นติดตั้งอยู่ใต้แฮนด์

บังโคลนหน้า : เป็นแบบสั้นๆ โชว์ความโดดเด่นของล้อยาง

ตัวถังน้ำมัน : เป็นสีพิเศษ Hard Candy Custom พร้อมลายกร๊าฟฟิคสัญลักษณ์ 115 นกอินทรีกางปีกจับโลโก้

เบาะนั่ง : ทรงอานม้าหุ้มหนังเย็บด้วยด้ายสีฟ้า

บังโคลนหลัง : ยกสูงโชว์บั้นท้าย

ไฟท้าย : เป็น LED ขนาดเล็กกะทัดรัด

ระบบกุญแจ : Keyless สามาถเปิดสวิทช์ On-Off สตาร์ทผ่าน Bluetooth ได้ทันที

มิติตัวรถ
– กว้าง/ยาว/สูง : 820/2,165/1,065 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงเบาะ : 710 มม.
– ระยะห่างฐานล้อ : 1495 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงตัวรถ : 110 มม.
– ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง : 7.9 ลิตร
– น้ำหนักตัวรถ : 247 กิโลกรัม

วงล้อหน้า/หลังและยาง
– ล้อหน้า เป็นอะลูมิเนียมสีดำแบบ 9 ก้านที่มีน้ำหนักเบาและสวยงาม สวมยางขนาด 130/90-16
– ล้อหลัง เป็นอะลูมิเนียมสีดำแบบ 9 ก้านที่มีน้ำหนักเบาและสวยงาม สวมยางขนาด 180/80-16

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า เทเลสโคปิคขนาด 49 มม. ผิวแกนช็อคเคลือบด้วยฮาร์ดโครเมี่ยมมีฝาครอบกันฝุ่นด้านนอกหุ้มไว
– ด้านหลัง ช็อคอับคู่ ปรับตั้งค่าความกระด้างของขดสปริงได้

ระบบเบรค
– ด้านหน้า เป็นดิสเดี่ยวขนาด 292 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ
– ด้านหลัง เป็นดิสเดี่ยวขนาด 260 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ

ตำนานครูสเซอร์ที่เป็นเครื่องหมายของความเป็นอเมริกันชนิดสุดติ่งต้องยกให้ HARLEY-DAVIDSON ที่นักเลงมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกต่างยอมรับว่าเป็นรถที่คุ้มค่าที่สุดในการลงทุน คล้ายๆ กับคำว่า ยิ่งแก่ยิ่งเก๋า ยิ่งนานยิ่งมีคุณค่า รวมทั้งหากคิดจะซื้อรุ่นใหม่ๆ มาขี่สักคัน Forty-Eight 115th Anniversary น่าจะตอบโจทย์ได้แบบไม่ต้องตกแต่งดัดแปลงหาอะไรมาเปลี่ยนใส่เข้าไปอีกเลย เพราะทุกอย่างครบเต็มตาอยู่แล้ว

ขอขอบคุณภาพจาก www.totalmotorcycle.com

เปิดตัวที่สุดแห่งการครอบครอง “All New Honda PCX150” สัมผัสความภูมิใจครั้งใหม่ด้วยที่สุดของเทคโนโลยีและดีไซน์หรูที่เป็นหนึ่งเดียว

บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย ตอกย้ำภาพความเป็นที่สุดแห่งผู้นำรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย ล่าสุดกับการเปิดตัวรถจักรยานยนต์เอ.ที. ระดับพรีเมี่ยม All New Honda PCX150 ภายใต้คอนเซปต์ “Welcome to The New Pride” สัมผัสความภูมิใจครั้งใหม่..เหนือระดับทุกการครอบครอง ด้วยเอกลักษณ์แห่งงานดีไซน์ผสานความหรูหรา

จัดเต็มระบบไฟ LED ดีไซน์ใหม่รอบคัน พร้อม NEW WELCOME LIGHT ครั้งแรกในประเทศไทยของรถจักรยานยนต์ฮอนด้าที่มีไฟ LED ส่องสว่างขึ้นที่พื้น ให้ค่าสถานะครบถ้วนด้วยแผงหน้าปัดใหม่แบบฟูลดิจิตอลเต็มระบบ ล้ำหน้ากับนวัตกรรมแห่งการขับขี่ด้วยฮอนด้าสมาร์ทเทคโนโลยีที่สมบูรณ์แบบ มาพร้อมขุมพลัง eSP ขนาด 150 ซีซี. หัวฉีด PGM-FI พัฒนาใหม่ ระบายความร้อนด้วยน้ำ รองรับมาตรฐานไอเสียสากล Euro4 ให้สมรรถนะความแรงและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม เตรียมวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2017 เป็นต้นไป ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศ

นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มรถเอ.ที. ของฮอนด้านั้นได้รับความนิยมจากผู้ขับขี่ชาวไทยมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความโดดเด่นของรูปลักษณ์และเทคโนโลยีที่สามารถตอบสนองความต้องการใช้งานได้อย่างตรงกลุ่มและโดนใจ โดยเฉพาะ Honda PCX150 หนึ่งในโมเดลแฟลกชิพกลุ่มรถเอ.ที. พรีเมี่ยมที่เพียบพร้อมด้วยเอกลักษณ์แห่งความหรูหราผสานนวัตกรรมล้ำสมัยและให้ความภาคภูมิใจกับผู้เป็นเจ้าของ

“สำหรับภาพรวมของตลาดรถจักรยานยนต์ประเภทเอ.ที. ในปีนี้มียอดจำหน่ายจนถึงเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ประมาณ 584,117 คัน คิดเป็น 34.6% จากตลาดรวมและเป็น Honda PCX อยู่ประมาณ 66,963 คัน คิดเป็น 11.5% ของตลาดรถประเภทเอ.ที. หากลงในรายละเอียด Honda PCX ถือครองส่วนแบ่งตลาดของรถประเภทพรีเมียมเอ.ที. มากที่สุดในขณะนี้ และเพื่อตอกย้ำความเป็นที่สุดแห่งความภาคภูมิใจดังกล่าว วันนี้เราจึงขอแนะนำ All New Honda PCX150 ที่ได้พัฒนาไปอีกขั้น กับการออกแบบในทุกรายละเอียดให้ความหรูหราที่เหนือระดับยิ่งขึ้น พร้อมกับพัฒนาเทคโนโลยีด้านการขับขี่ ที่ช่วยเติมเต็มความสะดวกสบายได้อย่างสมบูรณแบบ เพื่อก้าวขึ้นสู่ความเป็นที่สุดแห่งการครคอบครองรถเอ.ที. พรีเมี่ยมยอดนิยมอันดับหนึ่งในเมืองไทย”

สำหรับ All New Honda PCX150 ได้รับการออกแบบใหม่ภายใต้คอนเซปต์ “Welcome to The New Pride” สัมผัสความภูมิใจครั้งใหม่ด้วยเอกลักษณ์แห่งงานดีไซน์ผสานความหรูหรา โดดเด่นด้วยระบบไฟ LED ดีไซน์ใหม่รอบคัน ยกระดับไปอีกขั้นด้วยเทคโนโลยีเสมือนรถยนต์ด้วย NEW WELCOME LIGHT ครั้งแรกในรถจักรยานยนต์ฮอนด้าที่มีไฟ LED ส่องสว่างขึ้นที่พื้น

แผงหน้าปัดระบบดิจิทัลรูปแบบใหม่ที่บอกค่าสถานะต่างๆได้ครบถ้วนตอบโจทย์ชีวิตยุคดิจิทัล อาทิ มาตราวัดความเร็วแบบดิจิทัล ระบบบันทึกระยะทางการขับขี่ มาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิงระบบดิจิทัล และนาฬิกาดิจิทัลบอกเวลา เป็นต้น

พร้อมเสริมความมั่นใจด้วยล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 14 นิ้ว ที่มาพร้อมกับยาง Michelin ขนาดใหญ่ ยึดเกาะถนนได้มั่นใจ,

สะดวกสบายด้วยกล่องเก็บของใต้เบาะขนาด 28 ลิตร พร้อมการปรับพื้นที่แนวราบให้ใช้งานสะดวกมากขึ้น สามารถเก็บหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ โดยมีกลไก Seat Stopper ที่ออกแบบใหม่แข็งแรงขึ้น ช่วยเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัย ทั้งยังติดตั้งกล่อง Console Box พร้อมอุปกรณ์ชาร์จไฟสำหรับสมาร์ทโฟนของผู้ขับขี่

ในด้านเทคโนโลยีของ All New Honda PCX150 ยังคงเอกลักษณ์ด้วยฮอนด้าสมาร์ทเทคโนโลยี (Honda Smart Technology) ที่พัฒนาไปอีกขั้นเพื่อการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ ประกอบด้วยเครื่องยนต์ทรงประสิทธิภาพ eSP (Enhanced Smart Power) ขนาด 150 ซีซี. หัวฉีด PGM-FI ที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ รองรับมาตรฐานไอเสียสากล Euro4 ให้สมรรถนะความแรงและอัตราการประหยัดน้ำมันที่คุ้มค่า, ระบบหยุดเครื่องยนต์อัตโนมัติ Idling Stop System,

และระบบกระจายแรงเบรกหน้า-หลัง Combi Brake System ให้ความมั่นใจในทุกเส้นทาง พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อชีวิตสมาร์ทกับฮอนด้าสมาร์ทคอนโทรลเลอร์ชุดควบคุมการทำงานอัจฉริยะ และฮอนด้าสมาร์ทคีย์ รีโมทอัจฉริยะ ที่ประกอบด้วยระบบสั่งการครบ 3 ฟังก์ชั่น เพื่อช่วยระบุตำแหน่งและสะดวกสบายในการค้นหารถ พร้อมด้วยสัญญาณกันขโมยป้องกันการโจรกรรมโดยระบบจะส่งสัญญาณเตือนทันทีเมื่อรถมีการเคลื่อนที่หรือสั่นสะเทือน และระบบเปิด-ปิดสัญญาณรีโมท เพื่อสั่งการเปิดหรือล็อกการเชื่อมต่อสัญญาณรีโมทกับ สมาร์ทคอนโทรลเลอร์ เพื่อการล็อกนิรภัยอีกขั้น

เอ.พี.ฮอนด้า พร้อมวางจำหน่าย All New Honda PCX150 ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2017 เป็นต้นไป ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศ ด้วยราคาแนะนำที่ 82,300 บาท มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีเทา-ดำ, สีแดง-ดำ, สีดำ และสีขาว-ดำ สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของ All New Honda PCX150 โฉมใหม่ ได้ที่ www.aphonda.co.th และ www.facebook.com/hondamotorcyclethailand

ใหม่ ALL NEW HONDA PCX 150 2018-2019 ราคา ฮอนด้า PCX 150 ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

>>> คู่แข่ง HONDA PCX,  YAMAHA AEROX, YAMAHA NMAX, YAMAHA XMAX 300

สวัสดีครับเพื่อนๆ 9CARTHAI วันนี้ผมมีข้อมูล ALL NEW HODNA PCX 2018 มาฝากกัน ซึ่งรุ่นนี้ AP HONDA ฮอตสุดๆ ขับขี่กันทั่วบ้านทั่่วเมืองประสบความเสร็จมากกว่าคู่แข่งอย่าง YAMAHA N-MAX ถล่มทลาย

All New Honda PCX150 มาพร้อมกับคอนเซปต์ “Welcome to The New Pride” สัมผัสความภูมิใจครั้งใหม่..เหนือระดับทุกการครอบครอง ด้วยเอกลักษณ์แห่งงานดีไซน์ผสานความหรูหรา

จัดเต็มด้วยระบบไฟ LED ดีไซน์ใหม่รอบคัน พร้อม NEW WELCOME LIGHT ครั้งแรกในประเทศไทยของรถจักรยานยนต์ฮอนด้าที่มีไฟ LED ส่องสว่างขึ้นที่พื้น ให้ค่าสถานะครบถ้วนด้วยแผงหน้าปัดใหม่แบบฟูลดิจิตอลเต็มระบบ ล้ำหน้ากับนวัตกรรมแห่งการขับขี่ด้วยฮอนด้าสมาร์ทเทคโนโลยีที่สมบูรณ์แบบ มาพร้อมขุมพลัง eSP ขนาด 150 ซีซี. หัวฉีด PGM-FI พัฒนาใหม่ ระบายความร้อนด้วยน้ำ รองรับมาตรฐานไอเสียสากล Euro4 ให้สมรรถนะความแรงและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม

ALL NEW HONDA PCX 150 2018 ราคา
ราคา HONDA PCX 150 ฮอนด้า PCX 150 ราคา 82,300 บาท (ราคาแนะนำ)

พร้อมวางจำหน่าย 21 ธ.ค. เป็นต้นไป ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศ

ราคา ฮอนด้า PCX 150 ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

แผงหน้าปัดระบบดิจิทัลรูปแบบใหม่ที่บอกค่าสถานะต่างๆได้ครบถ้วนตอบโจทย์ชีวิตยุคดิจิทัล อาทิ มาตราวัดความเร็วแบบดิจิทัล ระบบบันทึกระยะทางการขับขี่ มาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิงระบบดิจิทัล และนาฬิกาดิจิทัลบอกเวลา เป็นต้น

พร้อมเสริมความมั่นใจด้วยล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 14 นิ้ว ที่มาพร้อมกับยาง Michelin ขนาดใหญ่ ยึดเกาะถนนได้มั่นใจ,

สะดวกสบายด้วยกล่องเก็บของใต้เบาะขนาด 28 ลิตร พร้อมการปรับพื้นที่แนวราบให้ใช้งานสะดวกมากขึ้น สามารถเก็บหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ โดยมีกลไก Seat Stopper ที่ออกแบบใหม่แข็งแรงขึ้น ช่วยเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัย ทั้งยังติดตั้งกล่อง Console Box พร้อมอุปกรณ์ชาร์จไฟสำหรับสมาร์ทโฟนของผู้ขับขี่

ในด้านเทคโนโลยีของ All New Honda PCX150 ยังคงเอกลักษณ์ด้วยฮอนด้าสมาร์ทเทคโนโลยี (Honda Smart Technology) ที่พัฒนาไปอีกขั้นเพื่อการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ ประกอบด้วยเครื่องยนต์ทรงประสิทธิภาพ eSP (Enhanced Smart Power) ขนาด 150 ซีซี. หัวฉีด PGM-FI ที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ รองรับมาตรฐานไอเสียสากล Euro4 ให้สมรรถนะความแรงและอัตราการประหยัดน้ำมันที่คุ้มค่า, ระบบหยุดเครื่องยนต์อัตโนมัติ Idling Stop System,

และระบบกระจายแรงเบรกหน้า-หลัง Combi Brake System ให้ความมั่นใจในทุกเส้นทาง พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อชีวิตสมาร์ทกับฮอนด้าสมาร์ทคอนโทรลเลอร์ชุดควบคุมการทำงานอัจฉริยะ และฮอนด้าสมาร์ทคีย์ รีโมทอัจฉริยะ ที่ประกอบด้วยระบบสั่งการครบ 3 ฟังก์ชั่น เพื่อช่วยระบุตำแหน่งและสะดวกสบายในการค้นหารถ พร้อมด้วยสัญญาณกันขโมยป้องกันการโจรกรรมโดยระบบจะส่งสัญญาณเตือนทันทีเมื่อรถมีการเคลื่อนที่หรือสั่นสะเทือน และระบบเปิด-ปิดสัญญาณรีโมท เพื่อสั่งการเปิดหรือล็อกการเชื่อมต่อสัญญาณรีโมทกับ สมาร์ทคอนโทรลเลอร์ เพื่อการล็อกนิรภัยอีกขั้น

ALL NEW HONDA PCX 150 มีให้เลือก 4 สี ได้แก่  1.สีเทา-ดำ  2.สีแดง-ดำ  3.สีดำ  4.สีขาว-ดำ

สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของ All New Honda PCX150 โฉมใหม่ ได้ที่ www.aphonda.co.th และ www.facebook.com/hondamotorcyclethailand

———————————————————————————–

NEW HONDA PCX 150 UNLOCK THE NEW IMPRESSION
ปลดล็อก….เสน่ห์ใหม่แห่งตัวตนที่สง่างามและสมบูรณ์แบบกว่า เปิดมิติใหม่ของการใช้ชีวิต…กับที่สุดของความหรูหราอีกขั้น ด้วยเทคโนโลยี Honda SMART Key รีโมทอัจฉริยะ ครั้งแรกในรถ A.T. เมืองไทยที่ใช้เทคโนโลยีระบบไร้กุญแจ (Keyless system) เช่นเดียวกับรถยนต์ให้ไลฟ์สไตล์เท่…สะกดทุกสายตา

HONDA PCX 150 ราคา 94,000.(ราคานี้รวมทะเบียน + พรบ. แล้ว)

ติดต่อศูนย์ ฮอนด้า สะพาน 3 ถนนจันทน์   02-002-3564

*ราคาอาจเปลี่ยนแปลงตามแต่ละ Dealer และพื้นที่

ราคา ฮอนด้า PCX 150 ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

HONDA SMART KEY เทคโนโลยีเอกสิทธิ์จากรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ครั้งแรกในรถ A.T. เมืองไทย
โดยการทำงานร่วมกันระหว่าง สมาร์ทคีย์ที่เพียบพร้อมทุกฟังก์ชั่น เชื่อมต่อการทำงานอัตโนมัติที่สมาร์ทคอนโทรลเลอร์ ที่สามารถควบคุมการสั่งงานในสวิทช์เดียว โดยไม่จำเป็นต้องใช้กุญแจ ได้ลุคความเท่…สมาร์ทกว่า

– ฮอนด้าสมาร์ทคีย์ : รีโมทอัจฉริยะ เหนือระดับด้วยระบบสั่งการครบ 3 ฟังก์ชั่น
1.ระบุตำแหน่ง : RESPONSE BUTTON แสดงตำแหน่งรถด้วยไฟและเสียงสัญญาณ เพื่อความสะดวกสบายในการค้นหา
2.สัญญาณกันขโมย : ANTI-THEFT ALARM BUTTON ป้องกันการโจรกรรม โดยระบบจะส่งสัญญาณเตือนทันที เมื่อรถมีการเคลื่อนที่หรือสั่นสะเทือน
3.เปิด/ปิดสัญญาณรีโมท ON-OFF BUTTON สั่งการเปิดหรือล็อกการเชื่อมต่อสัญญาณรีโมทกับ สมาร์ทคอนโทรลเลอร์ ล็อกนิรภัยอีกชั้น เพื่อความมั่นใจปลอดสูงสุด

– HONDA SMART CONTROL
ฮอนด้าสมาร์ทคอนโทรลเลอร์ : ชุดควบคุมการทำงานอัจฉริยะ สั่งงานง่ายสะดวกสบายเพียงบิดสวิทซ์ พร้อมความหรูหราด้วย BLUE RING LED
1. พร้อมสตาร์ทเครื่องยนต์
2.ปลดล็อคเบาะที่นั่ง/ฝาถังน้ำมัน
3.เปิด-ปิดระบบ
4.ล็อคคอ

OUT STANDING STYLISH DESIGN
สง่างาม โดดเด่นเหนือใครด้วยชั้นเชิงของงานดีไซน์ เสน่ห์หรูหราสไตล์รถสปอร์ต วัสดุชั้นเยี่ยมลงตัวกับดีไซน์เท่โฉบเฉี่ยวรอบคัน พิถีพิถันทุกชิ้นงานระดับมาสเตอร์พีซ พร้อม LED LIGHTING SYSTEM ระบบไฟ LED รอบคันให้การส่องสว่างชัดเจนพร้อมงานดีไซน์ชุดโคมไฟที่เหนือชั้น แบบยนตรกรรมระดับสูง

DUAL LED HEADLIGHT WITH LED RUNNING LIGHT ชุดไฟหน้าคู่ ระบบ LED Reflector พร้อมไฟเลี้ยว LED ดีไซน์มาสเตอร์พีส Built-in กับเฟรมหน้า สวยโฉบเฉี่ยวลงตัว พร้อม LED Running Light

LED TAIL LIGHT WITH SEPARATE LED WINKER ไฟท้าย LED พร้อมไฟเลี้ยว LED แบบแยกส่วน สวนล้ำโดดเด่นเห็นได้ในระยะไกลพร้อมไฟส่องท้ายทะเบียน LED

BLUE BODY MOUNT METER WITH BUILT-IN CLOCK แผงหน้าปัดหรูล้ำด้วยมิเตอร์สีฟ้า สไตล์หน้าปัดเครื่องบินแบบ Cockpit ที่เพิ่มอุปกรณ์บอกเวลา “นาฬิกา ดิจิตอล” ดีไซน์ลงตัวหรูหราสบายตา พร้อมเข็มไมล์บอกความเร็วแบบใหม่ “Reverse Indicator” ไฟ สัญญาณ SMART

CONSOLE BOX WITH POWER OUTLET ที่เก็บของคอนโซลซ้ายขนาดใหญ่ พร้อมอุปกรณ์ชาร์จไฟสำรองลงตัวกับไลฟ์สไตล์ในยุคดิจิตอลของชีวิตเมือง

LUGGAGE BOX WITH SEAT STOPPER ที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ใต้เบาะ เก็บของได้จุใจถึง 25 ลิตร สามารถใส่หมวกกันน็อกแบบเต็มใบและสัมภาระต่างๆ ได้สบาย พร้อม Seat Stopper เปิดเบาะค้างเพื่อการใช้งาน บรรจุหยิบสัมภาระสะดวกยิ่งขึ้น

14 INCHES ALLOY WHEELS ล้ออัลลอยขนาด 14 นิ้ว พร้อมยางแบบจุ๊บเลส ดีไซน์เท่ลงตัว หน้ายางขนาดกว้างสไตล์ A.T. ขนาดใหญ่ ให้การขับขี่มั่นคงเกาะถนนเป็นเยี่ยม

HAZARD LIGHT ระบบไฟฉุกเฉิน เพื่อการแจ้งเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินหรืออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด

Accessories HONDA CBR 500R

Colors สี NEW HONDA PCX 150 2017
ใหม่ ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ 150 มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ 1.สีขาว-ส้ม 2.สีดำ-ส้ม 3.สีแดง-ดำ 4.สีน้ำเงิน-ดำ

NEW HONDA PCX 150 สีขาว-ส้ม

NEW HONDA PCX 150 สีดำ-ส้ม

NEW HONDA PCX 150 สีแดง-ดำ

NEW HONDA PCX 150 สีน้ำเงิน-ดำ

Specification NEW HONDA PCX 150

HONDA CRF450RX 2018 “จัดเต็มสายฝุ่นตัวแรง”

HONDA CRF450RX 2018

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ 1 ลูกสูบ

ระบบระบายความร้อน : ด้วยน้ำ

ขนาดความจุ : 449.7 ซีซี.

กระบอกสูบ x ระยะชัก : 96 x 62.1 มม.

กำลังอัดเครื่องยนต์ : 13.5 : 1

ให้กำลังสูงสุด : 59 แรงม้า ที่ 9,000 รอบ/นาที

แรงบิดสูงสุด : 48 นิวตัน-เมตร ที่ 7,000 รอบ/นาที

วาล์ว : ไททาเนี่ยมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 38 มม. ควบคุมการกดเปิด/ปิดวาล์วทั้ง 4 ตัวด้วยระบบ Unicam ที่ปรับโฉมใหม่

ระบบจ่ายเชื้อเพลิง : ด้วยหัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์ PGM-FI

เรือนลิ้นเร่ง : 46 มม. มีการปรับตำแหน่งให้สูงกว่าเดิม

ระบบเกียร์ : แบบธรรมดา 5 สปีด

คลัทช์ : เป็นแบบเปียกสั่งงานด้วยสายสลิงแบบปรับเปลี่ยนใหม่ช่วยให้ขับเคลือนได้คล่องตัวไร้การสะดุดติดขัด

สตาร์ทเครื่องด้วย : คันสตาร์ทเท้า

ขับเคลื่อนด้วย : โซ่เบอร์ 520 แบบโอริง และสเตอร์ขนาด 13T/50T

เฟรม : เป็นอะลูมิเนียมอัลลอยเกรดพิเศษแบบหล่อขึ้นรูป ที่เบา แข็งแรง ปลอดสนิม 100%

ชิ้นงานบอดี้พาร์ท 18 ชิ้น
– ฝาครอบจานเบรค
– การ์ดแกนช็อคอับหน้าซ้าย/ขวา
– บังโคลนหน้า
– แป้นเบอร์ด้านหน้า
– แผงการ์ดรังผึ้งหม้อน้ำ
– ถังน้ำมันเชื้อเพลิง
– ปีกหม้อน้ำซ้าย/ขวา
– เบาะนั่ง
– แป้นเบอร์ด้านข้างซ้าย/ขวา
– บังโคลนหลัง
– การ์ดครอบจานเบรคหลัง
– การ์ดครอบคาลิเปอร์หลัง
– ตัวดันโซ่หน้าสเตอร์หลัง
– ฝาครอบสเตอร์
– การ์ดกันเครื่องยนต์

แฮนด์ : ทรง T-Bar แบบกว้างเน้นการควบคุมรถได้ดีและคล่องตัว

มิติตัวรถ
– กว้าง/ยาว/สูง : 827/2,175/1,274 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงเบาะ : 959 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงตัวรถ : 328 มม.
– ระยะห่างฐานล้อ 1,477 มม.
– น้ำหนักรถ : 118 กิโลกรัม
– ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง : 8.5 ลิตร

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า เป็นของ SHOWA  แบบคอยล์สปริง ขนาด 49 มม. ระยะทำงาน 305 มม. ปรับตั้งค่าต่างๆได้
– ด้านหลัง เป็นช็อคอับเดี่ยวแบบ Pro-Link ของ SHOWA พ่วงด้วยกระปุกซับแท้งค์บรรจุแก๊ส ระยะการทำงาน 312 มม. ปรับตั้งค่าต่างๆได้

ระบบเบรค สั่งงานด้วยไฮดรอลิค
– ด้านหน้า เป็นจานเบรคเดี่ยวกึ่งให้ตัวได้ขนาด 260 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ
– ด้านหลัง เป็นดิสก์เดี่ยวขนาด 240 มม. คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ

วงล้อ/ยาง
– ด้านหน้า เป็นอะลูมิเนียมซี่ลวดขนาด 1.60-21 นิ้ว ยาง ขนาด 90/90-21 นิ้ว
– ด้านหลัง เป็นอะลูมิเนียมซี่ลวดขนาด 2.15-18 นิ้ว ยาง ขนาด 120/80-18 นิ้ว

หลังจากสร้างความฮือฮาในโลกทางฝุ่นกับ CRF450R ไปแล้ว HONDA ก็สานต่อความแรงด้วยรหัส CRF450RX อีกครั้ง มอผิวเผินอาจจะคล้ายกับรุ่นพี่ CRF450R แต่มีความแตกต่างตรงรายละเอียดสเปคย่อยพร้อมความแรงและความโหดของแรงบิดที่จัดมาให้แบบเต็มๆ

ขอขอบคุณภาพจาก powersports.honda.com

HUSQVARNA TX 300 2018 “2T ตัวแรงจอมตะลุยฝุ่น”

HUSQVARNA TX 300 2018

เครื่องยนต์ : 2 จังหวะ 1 ลูกสูบ

ระบบระบายความร้อน : ด้วยน้ำ

ขนาดความจุ : 293.2 ซีซี.

กระบอกสูบ x ระยะชัก : 72 x 72 มม.

จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง : คาร์บูเรเตอร์ MIKUN TMX ขนาด 38 มม.  เพื่อง่ายต่อการบำรุงรักษาหรือเซอร์วิสในขณะแข่งขัน

เกียร์ : แบบธรรมดา 5 สปีด

ระบบคลัทช์ : คลัทช์เปียกสั่งงานด้วยสายสลิง

สตาร์ทเครื่องด้วย : ระบบไฟฟ้า

ขับเคลื่อนด้วย : โซ่/สเตอร์

เฟรม : เป็นเหล็กโครโมลี่ที่น้ำหนักไม่มาก ทนทาน ส่วนซับเฟรมท้ายขึ้นรูปด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ ที่มีน้ำหนักเบาและรองรับการกระแทกได้ดี

ชิ้นงานบอดี้พาร์ท 17 ชิ้น
– การ์ดช็อคอับหน้าซ้าย/ขวา
– บังโคลนหน้า/หลัง
– แป้นเบอร์
– การ์ดแฮนด์ซ้ายขวา
– การ์ดรังผึ้ง
– ปีกหม้อน้ำซ้าย/ขวา
– แป้นเบอร์ด้านข้างซ้าย/ขวา
– เบาะนั่ง
– ถังน้ำมัน
– การ์ดเฟรมซ้าย/ขวา
– การ์ดกันโซ่หน้า/สเตอร์หลัง

มิติตัวรถ
– ระยะห่างฐานล้อ : 1485 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงตัวรถ : 370 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงเบาะ : 960 มม.
– ถังน้ำมันเชื้อเพลิงความจุ 10 ลิตร
– น้ำหนักตัวรถรวมคนขี่ : 98.4 กิโลกรัม

ล้อ/ยาง
– ล้อหน้าเป็นอะลูมิเนียมซี่ลวดขนาด 1.60X21 สวมยางขนาด 80/100-21
– ล้อหลังเป็นอะลูมิเนียมซี่ลวดขนาด 2.15X18 สวมยางขนาด 110/100-18

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า ช็อคอับเทเลสโคปิคหัวกลับจาก WP ขนาด 48 มม. ผิวแกนเคลือบด้วยฮาร์ดโครเมี่ยม ปรับตั้งได้เต็มที่ ระยะการทำงาน 310 มม.
– ด้านหลัง ช็อคอับเดี่ยว จาก WP ระยะการทำงาน 300 มม. ปรับตั้งได้เต็มที่ ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มอะลูมิเนียมแบบคู่

ระบบเบรก
– ด้านหน้า เป็นแบบเดี่ยวขนาด 260 มม. อยู่ที่ข้างดุมล้อหน้าฝั่งซ้ายกับคาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ
– ด้านหลัง เป็นแบบเดี่ยวขนาด 220 มม. อยู่ข้างดุมล้อหลังฝั่งขวากับคาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ ของ MAGARA

แม้ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนไปขนาดไหน โลกของมอเตอร์ไซค์ค่ายรถต่างๆ ยังคงต้องสานต่อความแรงของเครื่องยนต์ 2T เอาไว้อย่างเหนียวแน่น แม้ทุกวันนี้เครื่องยนต์แบบ 4T จะเข้ามามีบทบาทมากกว่าก็ตามแต่ค่ายรถ HUSQVARNA จากสวีเดนผู้โด่งดังบนทางสายฝุ่นในแถบยุโรปตั้งแต่ปี ค.ศ. 1903 จากการผลิตรถให้กองทัพสวีเดน และผันตัวมาสร้างมอเตอร์ไซค์วิบากหรือเอนดูโร่เพื่อขี่ใช้งานและการแข่งขัน ก็ยังคงเดินหน้ามุมมันพัฒนารถแข่งสาย Dirt กันต่อไป

ขอขอบคุณภาพจาก www.quadexpert.com

ใหม่ NEW GPX DEMON 150 GR 2018-2019 ราคา จีพีเอ็กซ์ เดมอน ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

GPX เปิดตัวรถใหม่เอาใจแฟนๆสายสปอร์ตกับ “Demon 150 GR” ด้วยดีไซน์ที่ลงตัวให้อารมณ์ความสปอร์ตเกินพิกัด ในไซส์ที่กระทัดรัด เหมาะกับสรีระของคนไทย ในรูปทรงที่มีความปราดเปรียว เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนเมือง

งานนี้ก็ถือว่า GPX ได้เข้ามาบุกเบิกใน Segment ใหม่ ที่ยังไม่เคยมีค่ายไหนทำมาก่อน กับรถมอเตอร์ไซค์ในสไตล์สปอร์ตฟูลแฟริ่งที่มากับล้อ 14” เรียกว่าเป็นการเติมเต็มช่องว่างของตลาดรถมอเตอร์ไซค์ในบ้านเรา ให้คึกคักและดูมีสีสันกันมากยิ่งขึ้น และถือว่าได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีเลยทีเดียว

หันมาเจาะลึกกับเจ้า “Demon 150 GR” กันบ้าง ถือเป็นการออกแบบดีไซน์ที่ลงตัว ซึ่งถ้าดูกันดีๆแล้วก็อาจจะพูดได้ว่าเป็นร่างพัฒนา ที่ต่อยอดมาจากตัวก่อนหน้าอย่าง Demon 150 GN ที่เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นของ GPX ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ใช้ในกลุ่มวัยรุ่น จนต้องส่ง DEMON 150 GR ออกมาเพื่อตอกย้ำความแรงอย่างต่อเนื่อง โดยรูปทรงพื้นฐานยังคงยึดจากตัว Demon 150 GN แต่ได้มีการออกแบบพัฒนานำฟูลแฟริ่งเข้ามาใส่ และปรับดีไซน์โดยรวมใหม่ให้รับกับบอดี้ โดยดึงอารมณ์ความสปอร์ตออกมานำเสนอได้อย่างมีเสน่ห์และลงตัว

NEW GPX DEMON 150 GR ราคา
NEW GPX DEMON 150 GR Luxury Series ราคา 63,800.
สีสันเรียบหรู เฟรมสีแดง ล้อแม็ก 14″ สีดำ

NEW GPX DEMON 150 GR Sport Edition Series ราคา 64,500.
สีทูโทน มาพร้อมกับเฟรมสีแดงสด และล้อแม็ก 14” สีทอง

 ราคา GPX DEMON 150 GR ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

1. Luxury Series สีสันเรียบหรู มาพร้อมกับเฟรมดำ และล้อแม็ก 14” สีดำ มีมาให้เลือกกันถึง 3 สี ได้แก่ แดง , เทาด้าน และขาว ในราคา 63,800 บาท

2. Sport Edition Series แบบสีทูโทน มาพร้อมกับเฟรมสีแดงสด และล้อแม็ก 14” สีทอง มีมาให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีแดง-ขาว และ สีเทาด้าน-ขาว ในราคา 64,500 บาท

REALEST TRELLIS FRAME เสริมความแกร่ง สู่ความสปอร์ตด้วยเฟรมถักรอบคัน โดดเด่นไม่ซ้ำใครสวยสะดุด สะกดทุกสายตา

FULL LED SUPER LIGHTING ส่องสว่างทุกการเดินทางด้วย ไฟหน้า-หลัง สุดล้ำ ระบบ ฟูลแอลอีดี

DISC BRAKE SYSTEM FRONT – REAR  มั่นใจทุกการเคลื่อนไหวสั่งได้ดั่งใจ ด้วยระบบดิสก์เบรก หน้า – หลัง ปลอดภัยทุกเส้นทาง

โช้คอัพหน้า แบบหัวกลับ สมรรถนะระดับโลกจาก KAYABA

SPORT EDITION SEPIES

GOLD ALLOY WHEEL ล้อแม็กทอง แข็งแรงรองรับทุกมาตรฐานการใช้งาน

SUPER SPORT FULL FAIRING เท่เหนือระดับในแบบฉบับสายสปอร์ตโมโตจีพี

HIGH ENGINE ขุมพลังแห่งเครื่องยนต์พิกัด 150 cc.

FULL DIGITAL SYSTEM METER ไมล์ดิจิทัล ตอบโจทย์ยุคใหม่ ไลฟ์สไตล์สปอร์ต

USB DRIVE SYSTEM ช่องเสียบ USB 5V สามารถชาร์จโทรศัพท์ได้ง่ายต่อการใช้งาน

SUPER SPORT HANDLE BAR  แฮนด์ทรงสปอร์ตสุดเร้าใจ คอนโทรลได้ทุกเส้นทาง มั่นใจทุกการขับขี่

Colors สี GPX DEMON 150 GR
จีพีเอ็กซ์ เดมอน 150 จีอาร์ มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ 1.สีแดง  2.สีเทา  3.สีขาว  4.สีแดง – ดำ  5.สีเทา – ขาว

LUXURY

GPX DEMON 150 GR สีแดง

GPX DEMON 150 GR สีเทา

GPX DEMON 150 GR สีขาว

SPORT EDITION

GPX DEMON 150 GR สีแดง – ขาว

GPX DEMON 150 GR สีเทา – ขาว

Specification GPX DEMON 150 GR 2017

INDIAN Chieftain Limited 2018 “การผสมผสานที่ลงตัวของความเก๋าและความทันสมัย”

INDIAN Chieftain Limited 2018

เครื่องยนต์ : V-Twin 4 จังหวะ 2 ลูกสูบ มีชื่อเรียกว่า Thunder Stroke 111

ระบบระบายความร้อน : ด้วยอากาศ

ขนาดความจุ : 1,811 ซีซี.

ขนาดกระบอกสูบ x ระยะชัก : 101 x 113 มม.

แรงบิดสูงสุด : 161.6 นิวตัน-เมตร ที่ 3,000รอบ/นาที

กำลังอัดเครื่องยนต์ : 9.5 : 1

ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง : หัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์

เรือนลิ้นเร่ง : ขนาด 54 มม.

ระบบเกียร์ธรรมดา : 6 สปีด

อัตราทดเกียร์ (โดยรวม)
-1st9.403 : 1
-2nd6.411 : 1
-3rd4.763 : 1
-4th3.796 : 1
-5th3.243 : 1
-6th2.789 : 1

ระบบคลัทช์ : ชุดคลัทช์แบบเปียก สั่งงานด้วยสายสลิง

ระบบขับเคลื่อน : สายพาน

ระบบสตาร์ท : ด้วยระบบไฟฟ้า

เฟรม : ประกอบไปด้วยเหล็กคุณภาพสูง เน้นความแข็งแรงของตัวถังในทุกๆ จุด ที่เชื่อมต่อประสานด้วยหุ่นยนต์และมีการเชื่อมด้วยมือบางจุด

ไฟหน้า : แบบกลม 3 ดวง

ไฟท้าย : เป็น LED

ไฟเลี้ยวหน้า/หลัง : แบบ LED

มาตรวัด : แบบดิจิตอลผสมอะนาล็อก ตรงกลางเป็นจอ LCD 7 นิ้วแบบทัชสกรีนสำหรับเชื่อมต่อ GPS และวิทยุบลูทูธพร้อมลำโพงอีก 2 ตัว

แฮนด์ : แบบกว้างโน้มมาด้านหลังเล็กน้อย

เบาะนั่ง : แบบ 2 ที่นั่งต่างระดับหุ้มหนัง

ด้านท้าย : จะมีกล่องสัมภาระแบบคู่ติดตั้งมาให้ที่ด้านข้างซ้าย/ขวา

ท่อไอเสีย : ชุบโครเมี่ยมขนาบข้างด้านขวาแบบ 2-1-2

มิติตัวรถ
– กว้าง/ยาว/สูง : 1,000/2,506/1,388 มม.
– ระยะห่างฐานล้อ : 1668 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงเบาะ : 660 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงตัวรถ : 142 มม.
– ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง : 20.8 ลิตร
– น้ำหนักตัวรถพร้อมคนขี่ : 378 กิโลกรัม

วงล้อ/ยาง
– ล้อหน้า เป็นอะลูมิเนียมลาย 10 ก้าน ขนาด 19X3.5 นิ้ว สวมยาง DUNLOP 130/60-19
– ล้อหลัง เป็นอะลูมิเนียมลาย 10 ก้าน ขนาด 16X5 นิ้ว สวมยาง DUNLOP 180/60-16

ระบบเบรก
– ด้านหน้า เป็นดิสก์เบรกคู่ขนาด 300 มม. คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ
– ด้านหลัง เป็นดิสก์เดี่ยวขนาด 300 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ พร้อมระบบ ABS

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า เป็นช็อคอับเทเลสโคปิคขนาด 46 มม. ระยะการทำงาน 119 มม. ผิวแกนเคลือบด้วยฮาร์ดโครเมี่ยม ไม่มีโหมดการปรับตั้ง จะเป็นช็อคอับที่ใช้ลมปรับ
– ด้านหลัง ช็อคอับคู่หลังตั้งสปริงได้ระยะการทำงาน 114 มม.

นี่คือยุคที่ตลาดบิ๊กไบค์เปิดกว้างสำหรับรถหลากหลายประเภท รถแปลกๆ ทรงแปลกๆ หรือแบรนด์ที่บางคนไม่เคยรู้จักก็มีมาให้เลือกซื้อมากมาย ขึ้นอยู่กับว่าแบรนด์นั้นจะเน้นรถสไตล์ไหนเป็นพิเศษ และแน่นอนว่าการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุดจะต้องโดดเด่นทั้งรูปลักษณ์และสมรรถนะ

ขอขอบคุณภาพจาก www.indianmotorcycle.com

KTM 150 XC-W 2018 “จอมตะลุยสัญชาติยุโรป”

KTM 150 XC-W 2018

เครื่องยนต์ : 2 จังหวะ 1 ลูกสูบ

ระบายความร้อน : ด้วยน้ำ

ขนาดความจุสุทธิ : 143.99 ซีซี.

ขนาดกระบอกสูบ x ระยะชัก เท่ากับ : 58 x 54.5 มม.

ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง : ด้วยคาร์บูเรเตอร์ MIKUI TMX 38 มม. ที่เน้นจ่ายน้ำมันตามจังหวะรอบเครื่อง ส่งไอดีเยอะๆ เพื่อจะได้จุดระเบิดแบบเต็มๆ

ระบบเกียร์ธรรมดา : 6 สปีด

ระบบคลัทช์ :คลัทช์เปียกสั่งงานด้วยสายสลิง

ระบบขับเคลื่อน :โซ่/สเตอร์

ระบบสตาร์ท : สตาร์ทด้วยคันสตาร์ทเท้า

ชิ้นงานบอดี้พาร์ทมี 19 ชิ้น
– การ์ดกันแกนช็อคอับหน้าซ้าย/ขวา
– บังโคลนหน้า
– หน้ากากพร้อมไฟ
– การ์ดแฮนด์ซ้าย/ขวา
– การ์ดรังผึ้งหม้อน้ำซ้าย/ขวา
– ปีกหม้อน้ำซ้าย/ขวา
– ถังน้ำมันเชื้อเพลิง
– เบาะนั่ง
– แป้นเบอร์ซ้าย/ขวา
– บังโคลนหลัง
– ตัวดันโซ่หน้าสเตอร์หลัง
– แผ่นกันรอยครอบเฟรมซ้าย/ขวา
– ชุดไฟท้ายสไตล์เอนดูโร่

สีของตัวรถ : เน้นสีส้มสดๆ สีประจำของ KTM

เฟรม : ผลิตด้วยเหล็กคุณภาพพิเศษที่เน้นความแข็งแรงและน้ำหนักเบาพร้อมกระจายแรงบิดได้ดี ส่วยซับเฟรมด้านท้ายเป็นอะลูมิเนียมที่ออกแบบใหม่เพื่อให้อากาศไหลเวียนได้ดีที่สุด

มิติตัวรถ
– ระยะห่างฐานล้อ : 1471 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงตัวรถ : 370 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงเบาะ : 960 มม.
– ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง : 9.5 ลิตร
– น้ำหนักตัวรถ : 91.5 กิโลกรัม

ระบบเบรก
– ด้านหน้า เป็นดิสก์เดี่ยวขนาด 260 มม. คาลิเปอร์ BREMBO 2 ลูกสูบ สั่งงานด้วยไฮดรอลิค
– ด้านหลัง เป็นชนิดตายตัวขนาด 220 มม. คาลิเปอร์ BREMBO 1 ลูกสูบ ใช้ปั๊มกระทุ้งเป็นจุดสั่งการในการเบรก

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า เป็นเทเลสโคปิคหัวกลับ WP USD Xplor 48 ปรั้งตั้งได้เต็มระบบ ระยะการทำงาน 300 มม.
– ด้านหลัง เป็นช็อคอับเดี่ยวพร้อมซับแท้งค์จาก WP Xplor PDS Monoshock ระยะการทำงาน 310 มม.

ล้อ/ยาง
– ด้านหน้า เป็นซี่ลวดอะลูมิเนียม ยางดอกหยาบขนาด 80/100-21 นิ้ว
– ด้านหลัง เป็นซี่ลวดอะลูมิเนียม ยางดอกหยาบขนาด 110/100-18 นิ้ว

รถสูตรทางฝุ่นสัญชาติยุโรปอย่าง KTM ทีอาจหาญลงสู้กับ 4 ค่ายสัญชาติญี่ปุ่น ในรายการ AMA Supercross และ Motocross ซึ่งก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งรุ่น MX250 และ MX450 ครั้งนี้ขอหยิบยกรุ่นล่าสุดอย่าง KTM 150 XC-W มาให้ชมกัน

ขอขอบคุณภาพจาก www.ktm.com และ www.centralfloridapowersports.com

MV AGUSTA Diablo Brutale 2018 “ตัวแรงรุ่นพิเศษสไตล์อิตาลี”

MV AGUSTA Diablo Brutale 2018

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ 3 สูบ 12 วาล์ว

ระบบระบายความร้อน : หม้อน้ำและชุดพัดลมไฟฟ้า

ความจุเครื่องยนต์ : 798 ซีซี.

จากกระบอกสูบ X ระยะชัก เท่ากับ : 79 X 54.3 มม.

ระบบการจ่ายเชื้อเพลิง : ระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิคส์

ให้กำลังสูงสุด : 140 ตัวที่ 13,100 รอบ/นาที

แรงบิดสูงสุด : 86 นิวตัน-เมตร ที่ 10,100 รอบ/นาที

ระบบเกียร์ : แบบธรรมดา 6 สปีด

คลัทช์ : เป็นแบบชนิดเปียกสั่งงานด้วยสายสลิงพร้อม Quick Shift (ระบบช่วยเปลี่ยนเกียร์โดยไม่ต้องกำคลัทช์)

ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ : ด้วยระบบไฟฟ้า ชุดไฟเป็นระบบ DC ควบคุมด้วย CDI

ระบบขับเคลื่อน : โซ่/สเตอร์

ระบบอิเล็คทรอนิคส์ของตัวรถ : เริ่มกันด้วยฟังค์ชั่นการขับขี่ที่มีให้เลือกปรับโหมดการขับขี่ได้ 4 แบบ คือ Sport, Normal, Rain และ Custom แสดงผลผ่านหน้าจอ TFT แบบ Digital ที่จะทำงานสัมพันธ์กับตัวคันเร่งไฟฟ้า Rain-By-Wire ที่เพิ่มอัตราเร่งได้ 4 ระดับ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control) มีให้เลือก 8 ระดับ และยังสามารเลือกเปิด-ปิดระบบ ABS ได้อีกด้วย

เฟรม : เป็นท่อเหล็กทรงกลมสีแดงน้ำหนักเบาเชื่อมเข้าด้วยกันเป็นโครงถัก เน้นความแข็งแรงและกระจายน้ำหนักได้ดี

ไฟหน้า : เป็น LED ด้านในเป็นไฟมัลติรีเฟล็คเตอร์

ไฟท้าย : เป็น LED สวยทรงแปลกตา

ไฟเลี้ยว : เป็น LED

เรือนไมล์ : แบบดิจิตอล Full Color TFT พร้อมสัญญาณไฟต่างๆ ครบครัน

แฮนด์ : เป็นแบบ T-Bar จับยึดกับแผงคอด้านบนด้วยตุ๊กตาแฮนด์และกันสะบัดที่รับได้ 8 ระดับ

ถังน้ำมัน : ออกแบบใหม่โดยเพิ่มช่องอากาศข้ากรองได้มากขึ้น

เบาะนั่ง : แยกชิ้น 2 ระดับเพิ่มความเป็นสปอร์ตมากขึ้น

ท่อไอเสีย : ดีไซน์ปลายท่อไอเสียออกข้างแบบเรียงออก 3 ช่อง

มิติตัวรถ
– ความยาว 2045 มม.
– ความกว้าง 875 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงเบาะ 830 มม.
– ระยะห่างฐานล้อ 1400 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงตัวรถ 135 มม.
– น้ำหนักตัวรถ 175 กก.
– ถังน้ำมันจุ 16.5 ลิตร

วงล้อ/ยาง
– ล้อหน้า เป็นอัลลอยขนาด 3.50-17 นิ้ว สวมยาง PIRELLI Diablo Rosso III ขนาด 120/70 ZR 17
– ล้อหลัง เป็นอัลลอยขนาด 5.50-17 นิ้ว สวมยาง PIRELLI Diablo Rosso III ขนาด 180/55 ZR 17

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า เป็นช็อคอับเทเลสโคปิคหัวกลับ ขนาด 43 มม. ระยะการทำงาน 125 มม. ปรับตั้งได้เต็มรูปแบบ ของ MARZOCCHI
– ช็อคอับหลัง เป็นช็อคอับเดี่ยว จากสำนัก SACHS ปรับตั้งได้เต็มรูปแบบ ระยะของการยุบตัว 124 มม. ทำงานร่วมกับ Singleside-Swingarm

ระบบเบรก
– เบรกหน้า เป็นดิสก์คู่ชนิดกึ่งให้ตัวได้ ขนาด320 มม. คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ BREMBO เรเดี้ยลเมาท์
– เบรกหลัง แบบจานเดี่ยว ขนาด 220 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ BREMBO พร้อมระบบ ABS

นับว่าเป็นความแปลกใหม่ของวงการ 2 ล้อไปแล้ว สำหรับค่ายรถมอเตอร์ไซค์แบรนด์จากอิตาลีอย่าง MV AGUSTA ที่จับมือกับเจ้าพ่อยางรถมอเตอร์ไซค์ PIRELLI เปิดตัวรถในโมเดลพิเศษเอาใจสาวกผู้ที่ชื่นชอบความแปลกใหม่ ชื่อรุ่น Diablo Brutale นั้นมีที่มาโดย Diablo เป็นชื่อรุ่นของยาง PIRELLI ส่วน Brutale คือชื่อรุ่นของ MV AGUSTA โดยรถโมเดลนี้ใช้ยาง PIRELLI New Diablo Rosso III ซึ่งเป็นยางรุ่นล่าสุดของซีรี่ย์ Diablo พร้อมลวดลายบนตัวรถที่เน้นเป็นโทนสีดำ/แดง ตามคอนเซ็พท์ของยางรุ่นนี้

ขอขอบคุณภาพจาก www.totalmotorcycle.com

TRIUMPH Sprint GT SE 2018 “ตอบโจทย์นักเดินทางแนวสปอร์ตทัวร์ริ่ง”

TRIUMPH Sprint GT SE 2018

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ 3 ลูกสูบ

ระบบวาล์ว : DOHC 12 วาล์ว

ระบบระบายความร้อน : ด้วยน้ำ

ขนาดความจุ : 1,050 ซีซี.

ขนาดกระบอกสูบ x ระยะชัก เท่ากับ : 79.0 x 71.4 มม.

กำลังอัดเครื่องยนต์ : 12.0 : 1

ระบบจ่ายเชื้อเพลิง : ด้วยระบบหัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์

ชุดเกียร์ : แบบธรรมดา 6 สปีด

ระบบคลัทช์ : ชนิดเปียก

ขับเคลื่อนด้วย : โซ่/สเตอร์

สตาร์ทเครื่องด้วย : ระบบไฟฟ้า

ให้กำลังสูงสุด : 130 แรงม้า ที่รอบ 9,200 รอบ/นาที

แรงบิดสูงสุด : 108 นิวตัน-เมตร ที่ 6,300 รอบ/นาที

ที่บังลมหน้า : สามารถรีดมวลลมได้อย่างดีเยี่ยม

ไฟหน้า : 3 ดวง คล้ายๆ สปอร์ตของค่ายอย่าง Daytona 675R

ไฟเลี้ยวคู่หน้า : ติดตั้งแบบฝังในกระจก

ไฟท้าย : ดวงใหญ่เป็นหลอดธรรมดา

ไฟเลี้ยด้านท้าย : เป็นแบบทับทิมแดงสะท้อนแสง

เรือนไมล์ : มีการแบ่งเป็น 3 ช่อง อ่านค่าได้ทั้งดิจิตอลและอะนาล็อค

แฮนด์ : บาร์จับช็อคเหนือแผงคอโน้มมาทางเ้านหลังเน้นการควบคุมรถที่ง่าย

กระจกมองข้าง : ให้มุมมองที่กว้างเน้นความปลอดภัย

เบาะนั่ง : เป็นแบบชิ้นเดียวยกระดับการนั่งระหว่างคนขับและคนซ้อน

ด้านท้าย : มีกระเป๋าหลังและกระเป๋าข้างอีก 2 ใบ สำหรับใส่สัมภาระ

มิติตัวรถ
– กว้าง/สูง : 760/1,295 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงเบาะนั่ง 830 มม.
– ระยะห่างฐานล้อ 1,565 มม.
– ถังน้ำมันเชื้อเพลิง 20 ลิตร
– น้ำหนักตัวรถ 239 กิโลกรัม

วงล้อ / ยาง
– ด้านหน้า อะลูมิเนียม 5 ก้านคู่สีดำน้ำหนักเบา ขนาด 3.5X17 นิ้ว สวมยาง 120/70-R 17
– ด้านหลัง อะลูมิเนียม 5 ก้านคู่สีดำน้ำหนักเบา ขนาด 5.5X17 นิ้ว สวมยาง 180/55-R 17

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า เป็นช็อคอับเทเลสโคปิคของ SHOWA ขนาด 43 มม. ปรับตั้งค่าความอ่อนของสปริง ความหนืดในการยุบตัวและคืนตัว ระยะการทำงาน 127 มม.
– ด้านหลัง เป็นช็อคอับเดี่ยวของ SHOWA ปรับตั้งค่าได้เช่นกัน ระยะการทำงาน 152 มม. ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มแบบ Pro-Arm

ระบบเบรค
– ด้านหน้า เป็นดิสก์คู่แบบโฟลทติ้ง ขนาด 320 คาลิเปอร์ NISSIN เรเดียลเมาท์ 4 ลูกสูบ
– ด้านหลัง เป็นดิสก์เดี่ยวขนาด 255 มม. คาลิเปอร์ NISSIN 1 ลูกสูบ พร้อมระบบ ABS

นี่คือหนึ่งในทังริ่งไบค์ที่สมบูรณ์แบบจาก TRIUMPH และยืนหยัดอยู่ในไลน์การผลิตมายางยาวนานหลายปี ถึงแม้ว่ารูปทรงจะไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไรมากมายนัก มีเพียงแค่การปรับเปลี่ยนรายละเอียดเล็กน้อยภายนอกมีความทันสมัยขึ้น แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังอยู่ในตัวเลือกต้นๆ ของบรรดานักบิดที่ชอบรถสไตล์ทัวริ่ง

ขอขอบคุณภาพจาก www.totalmotorcycle.com

Triumph Motorcycles เผย Motor Expo 2017 คึกคัก สาวกบิ๊กไบค์จองร่วม 400 คัน

ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เผยยอดจองและจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์พรีเมี่ยมสัญชาติอังกฤษ ตลอดทั้งงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2017 รวมจำนวนมากถึง 396 คัน จากรถมอเตอร์ไซค์ที่นำมาโชว์ถึง 13 รุ่น โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมจับจองเป็นเจ้าของอย่างล้นหลามได้แก่ บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ แบล็ค ตามมาด้วย บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์ และ บอนเนวิลล์ ที 100 ขณะที่รถมอเตอร์ไซค์ที่เพิ่งเปิดตัวครั้งแรกในงานนี้อย่าง ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์ซีเอ กับ ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์อาร์ที โฉมใหม่ ก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากเช่นกัน โดยเตรียมส่งมอบรถล็อตแรกในเดือนมีนาคม 2561

นายจักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า 12 วันของการจัดงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2017 ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ รถมอเตอร์ไซค์พรีเมี่ยมสัญชาติอังกฤษ สามารถทำยอดจองและจำหน่ายรวมตลอดทั้งงาน จำนวนมากถึง 396 คัน จากรถมอเตอร์ไซค์ที่นำมาโชว์ถึง 13 รุ่น ด้วยกัน โดยพบว่ารุ่นที่ได้รับความนิยมจับจองเป็นเจ้าของอย่างล้นหลาม ได้แก่ บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ แบล็ค (Bonneville Bobber Black) ตามมาด้วย บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์ (Bonneville Speedmaster) และ บอนเนวิลล์ ที 100 (Bonneville T100) ขณะที่รถมอเตอร์ไซค์ที่เพิ่งเปิดตัวครั้งแรกในงานนี้อย่าง ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์ซีเอ กับ ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์อาร์ที โฉมใหม่ (ALL NEW TIGER 800 XCA & ALL NEW TIGER 800 XRT) ก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากเช่นกัน โดยรถรุ่นใหม่นี้พร้อมส่งมอบรถให้ลูกค้าในเดือนมีนาคม 2561 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ไทรอัมพ์ ถือเป็นแบรนด์รถมอเตอร์ไซต์พรีเมี่ยมที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่มแบรนด์ยุโรปและอเมริกา ประมาณ 48 เปอร์เซ็นต์ โดยคาดว่าภายในสิ้นปี 2560 จะมียอดจดทะเบียนทั้งหมดมากกว่า 3,000 คัน และอนาคตตั้งเป้าการเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์ระดับพรีเมี่ยมไปพร้อมกับการขยายโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐาน เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทั่วประเทศ โดยการขยายโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานของไทรอัมพ์ ได้รับการออกแบบและควบคุมคุณภาพตามข้อกำหนดและมาตรฐานของ ไทรอัมพ์ เวิลด์ สแตนดาร์ด เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามารับบริการให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด ปัจจุบัน ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ มีโชว์รูมและศูนย์บริการมาตฐานครอบคลุมทั่วประเทศทั้งหมด 13 สาขาด้วยกัน นายจักรพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย

HARLEY-DAVIDSON Softail Slim 2018 “รุ่นใหญ่ต้องคันนี้ เร็วขึ้น แรงขึ้น นุ่มนวลขึ้น”

HARLEY-DAVIDSON Softail Slim 2018

เครื่องยนต์ : Milwaukee Eight 107 แบบ 4 วาล์วต่อสูบ

ขนาดความจุ : 1,746 ซีซี.

ขนาดกระบอกสูบ x ระยะชัก : 100 x 111.1 มม.

กำลังอัดเครื่องยนต์ : 10.0 : 1

แรงบิดสูงสุด : 149 นิวตัน-เมตร ที่ 3,000 รอบ/นาที่

อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง : 5 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร

ระบบจ่ายเชื้อเพลิง : ด้วยระบบหัวฉีด ESPFI

เกียร์ : แบบธรรมดา 6 สปีด

คลัทช์ : ชนิดเปียกสั่งงานด้วยสายสลิง

สตาร์ทเครื่องด้วย : ระบบไฟฟ้า

ขับเคลื่อนด้วย : สายพาน

เฟรม : จะเป็นสีดำส่วนที่เป็นสีโลหะหรือเนื้องานโครเมี่ยมมีอยู่เท่าที่เห็น

ไฟหน้า : ดวงเดียว LED แบบกลม

ไฟ้ทาย : แบบเดิมๆ ไม่มี แต่จะใช้ไฟเลี้ยวมาทำหน้าที่แทน

แฮนด์ : ดึงเอาการตกแต่งที่เด่นในยุคมาเป็นดีไซน์หลัก ใส่คานเสริมความแข็งแรงลงปที่แฮนด์

เบาะ : แบบเดี่ยว เน้นการนั่งสบาย ส่วนเบาะท้ายไม่มีหากต้องการติดจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม

บังโคลนหน้า : เน้นอารมณ์สปอร์ตด้วยรูปทรง

บังโคลนหลัง : แบบครอบกินพื้นที่ประมาณ 35% ของยางหลัง

ท่อไอเสีย : แบบ 2-2 ให้เสียงแสนสุภาพ

วงล้อ/ยาง
– หน้า วงล้อแบบซี่ลวด ยาง 130/90-16
– หลัง วงล้อแบบซี่ลวด ยาง 150/80-16

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า เทเลสโคปิค ปรับตั้งไม่ได้
– ด้านหลัง ช็อคอับนอนแบบคู่ วางขนานกับพื้นแต่ซุกอยู่ด้านใน

ระบบเบรก
– ด้านหน้า เป็นจานเบรกเดี่ยว คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ สั่งงานด้วยไฮดรอลิค
– ด้านหลัง เป็นจานเบรกเดี่ยว คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ สั่งงานด้วยไฮดรอลิค แต่ใช้ปั๊มกระทุ้งที่เท้าทำหน้าที่รีดแรงดัน

นับเป็นการเดินหน้าพัฒนาต่อยอดเครื่องยนต์ V-twin ที่ HARLEY-DAVIDSON เป็นผู้สร้างมันออกมา จำได้ขึ้นใจเลยว่าเครื่องยนต์รุ่นที่ทำความเร็วได้ดีที่สุดของ HARLEY ก็คือ Evo แต่ในเวลานี้ไม่ใช่แล้ว เมื่อการสร้างเครื่องยนต์ที่เรียกว่า Milwaukee Eight 107 ออกมา ด้วยขนาดความจุที่มากขึ้น และยังใช้ระบบวาล์วแบบ 4 วาล์วต่อสูบ สร้างแรงบิดและอัตราเร่งมากขึ้นเป็นทวีคูณ แต่ มันประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่าทุกรุ่นที่เคยได้ผลิตออกมา

ขอขอบคุณภาพจาก www.harley-davidson.com และ www.totalmotorcycle.com

KAWASAKI KX 100 2018 “ตัวจี๊ดแห่งค่ายแตนเขียว”

KAWASAKI KX 100 2018

เครื่องยนต์ : 2 จังหวะ สูบเดียว

ระบบระบายความร้อน : ด้วยหม้อน้ำ

ขนาดความจุ : 99 ซีซี.

กระบอกสูบ X ระยะชัก : 52.5 X 45.8 มม.

กำลังอัดเครื่องยนต์ : 10.2:1 (low speed) – 8.7:1 (high speed)

ระบบจ่ายเชื้อเพลิง : คาร์บูเรเตอร์ KEIHIN รุ่น PWK 28 ขนาด 28 มม. เป็นคาบูเรเตอร์แบบ Flat Slide

เกียร์ : แบบธรรมดา 6 สปีด

คลัทช์ : เป็นแบบเปียก สั่งงานด้วยสายสลิง

สตาร์ทเครื่องด้วย : คันสตาร์เท้า

ขับเคลื่อนด้วย : โซ่/สเตอร์

สีรถ : ยังคงใช้สีประจำค่าย สีเขียว

ชิ้นงานบอดี้พาร์ท 15 ชิ้น
-การ์ดกันแกนช็อคอับหน้า
-บังโคลนหน้า
-แป้นเบอร์ด้านหน้า
-ปีกหม้อน้ำ
-การ์ดรังผึ้ง
-ถังเชื้อเพลิง
-เบาะนั่ง
-แป้นเบอร์ด้านข้าง
-บังโคลนหลัง
-ตัวดันโซ่หน้าสเตอร์หลัง
-การ์ดครอบจานเบรกหลัง

เฟรม : เป็นเหล็กมาขึ้นรูปและเชื่อมต่อประบอกด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ทำหน้าที่ในการเชื่อมต่อประสาน ตัวสวิงอาร์มเป็าอะลูมิเนียมเพื่อป้องกันการเกิดสนิมและมีน้ำหนักเบา

มิติตัวรถ
กว้าง/ยาว/สูง : 765/1920/1150 มม.
ระยะห่างฐานล้อ : 1310 มม.
ความสูงจากพื้นถึงเบาะ : 870 มม.
ความสูงจากพื้นถึงตัวรถ : 330 มม.
ความจุถังเชื้อเพลิง : 5 ลิตร
น้ำหนักรวมพร้อมคนขี่ : 77 กิโลกรัม

วงล้อ / ยาง
– ด้านหน้า เป็นแบบซี่ลวด / ยาง 70/100 – 19 นิ้ว
– ด้านหลัง เป็นแบบซี่ลวด / ยาง90/100 – 16 นิ้ว

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า เทเลสโคปิคหัวกลับ ขนาด 36 มม. ปรับตั้งได้ 20 ระดับ
– ด้านหลัง ช็อคอับหลังแบบเดี่ยว ปรับตั้งค่าความแข็งของได้ 24 ระดับ และสปีดการคืนตัวอีก 21 ระดับ

ระบบเบรค
– ด้านหน้า จานเบรคแบบตายตัวขนาด 220 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ สั่งงานด้วยปั๊มไฮดรอลิคด้านบนแฮนด์
– ด้านหลัง จานเบรคหลังแบบบเดี่ยวตายตัว มาด้วยขนาด 184 มม. คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ สั่งงานด้วยแรงดันไฮดรอลิค

นี่ก็ถือเป็นเครื่องยนต์สองจังหวะอีกค่ายที่น่าสนใจเพราะมีศักดิ์ศรีดีกรีแชมป์ค้ำคออยู่ KAWASAKI มีแนวทางการออกแบบที่เป็นตัวของตัวเอง รวมถึงนิสัยของเครื่องยนต์ก็มีสไตล์ที่เป็นตัวตนอย่างชัดเจน ครั้งนี้เป็นคิวของ KAWASAKI KX 100 ซึ่งแม้วาขนาดความจุจะดูน้อย แต่ว่าร้อย ซีซี. ของค่ายนี้ มันจี๊ด น่าดูเลยทีเดียวแลย อีกทั้งน้ำหนักเบา ขี่ก็ง่าย จะเอาไปลุยที่ไหนก็ไปได้หมด เพราะ นี่คือรถสูตรทางฝุ่นสายโมโตครอส

ขอขอบคุณภาพจาก www.kawasaki.com และ www.totalmotorcycle.com

Yamaha มอบความสุขส่งท้ายปี กับแคมเปญ “บิดยามาฮ่า…ช้อป เต็ม MC” ที่ร้าน Mc Jeans

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายรถจักรยานยนต์คุณภาพ จับมือกับแบรนด์กางเกงยีนส์ชั้นนำของเมืองไทย มอบความสุขในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ด้วยการมอบสิทธิพิเศษเพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้ายามาฮ่าทั่วประเทศไทย ผ่านแคมเปญ “บิดยามาฮ่า… ช้อป เต็ม MC” เพียงเลือกซื้อสินค้าที่ร้าน Mc Jeans หรือ Mc Lady จากราคาปกติรวมสูงสุด 2,500 บาท จ่ายเพียง 999 บาท แบบไม่จำกัดจำนวนชิ้น เพียงแสดงกุญแจรถ YAMAHA รุ่นใดก็ได้ที่ร้าน Mc Jeans หรือ Mc Lady ทั้ง 264 สาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 15 – 31 ธันวาคม 2560

เงื่อนไขการใช้สิทธิ
• แสดงกุญแจรถ Yamaha รุ่นใดก็ได้รับสิทธิซื้อสินค้ายี่ห้อ Mc Jeans และ Mc Lady และ UP กี่ชิ้นก็ได้ในราคาปกติรวมสูงสุด 2,500 บาท จ่ายเพียง 999 บาท
• Promotion นี้เฉพาะที่ร้าน Mc โซน Plaza ในศูนย์การค้าชั้นนำทั่วประเทศกว่า 260 สาขา
• ไม่สามารถใช้ร่วมกับ Promotion อื่นและสินค้า One price ในร้าน ได้
• ระยะเวลา 15 – 31 ธันวาคม 2560
• จำกัดสิทธิ 1 สิทธิ ต่อ ลูกค้า YAMAHA 1 ท่าน
• ลูกค้าที่ใช้สิทธิต้องลงทะเบียนรับสิทธิที่หน้าร้าน โดยกรอก ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ email (ถ้ามี) รุ่นรถและทะเบียนรถยามาฮ่า
• ขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
สามารถตรวจสอบสาขาที่ร่วมรายการได้ที่
https://www.yamaha-motor.co.th/automotive/uploads/files/MC%20Jeans.pdf