Quantcast
Channel: มอเตอร์ไซค์ Archives - รถใหม่ 2025-2026 รีวิวรถ, ราคารถใหม่, ข่าวรถใหม่, รถยนต์
Viewing all 1454 articles
Browse latest View live

Harley-Davidson เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์รุ่นตกแต่งพิเศษ (CVO™) และซอฟเทล (SOFTAIL™) ประเดิมร่วม Motor Expo 2017

$
0
0

Harley-Davidson เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์รุ่นตกแต่งพิเศษ (CVO™) และซอฟเทล (SOFTAIL™) ประเดิมร่วม Motor Expo 2017

Harley-Davidson-TIME2017

บริษัทผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์สัญชาติอเมริกันในตำนานเผยโฉมผลิตภัณฑ์ปี 2018
พร้อมจัดจำหน่ายที่ผู้จำหน่ายทุกแห่งทั่วประเทศไทย

ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน บริษัทผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ชั้นนำสัญชาติอเมริกันเดินหน้ารุกตลาดประเทศไทยในสัปดาห์นี้ด้วยการจัดแสดงรถมอเตอร์ไซค์ รุ่นตกแต่งพิเศษประจำปี 2018 (2018 CVO™) และตระกูลซอฟเทล (SOFTAIL™) รุ่นใหม่ล่าสุดครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์ ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 34

“เราได้เห็นว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการเติบโตที่รวดเร็วอย่างยิ่ง ความต้องการรถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” มร. โยฮัน ไคลน์ชตอยเบอร์ ซึ่งเพิ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย ของฮาร์ลีย์-เดวิดสัน กล่าว “ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงแบรนด์ได้มากขึ้น แรงสนับสนุนที่เราได้รับในประเทศไทย ตอกย้ำให้เรามีความมุ่งมั่นมากขึ้นเพื่อนำเสนอจิตวิญญาณแห่งอิสรภาพ ความมีเอกลักษณ์ และความเป็นพี่น้องกันให้แก่ผู้ขับขี่ในเมืองไทย เราเดินหน้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจของเราในประเทศไทย ด้วยการแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหนือชั้นและมอบประสบการณ์สุดพิเศษอย่างรถมอเตอร์ไซค์ 2018 Softail™ และ CVO™ เพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่หลงใหลในรถมอเตอร์ไซค์”

ไฮไลท์เด่นภายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ยังรวมถึงการเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยของรุ่น สตรีท บ๊อบ (2018 Street Bob™) แฟต บ๊อบ (Fat Bob™) เบรกเอาท์ (Breakout™) เดอลุกซ์ (Deluxe™) ซอฟเทล สลิม (Softail Slim™) โลว์ ไรเดอร์ (Low Rider™) รวมถึงแฟต บอย (Fat Boy™) และเฮอริเทจ คลาสสิก (Heritage Classic™) ซึ่งมาพร้อมการตกแต่งตามความต้องการด้วยระบบโฮลด์ฟาสต์ (Holdfast) ที่มีอุปกรณ์ตกแต่งแบบถอดได้ กระเป๋าติดเบาะที่นั่ง พนักพิงผู้โดยสาร แผงกันลม และอื่นๆ เพื่อเพิ่มความง่ายดายและรวดเร็วให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนรถมอเตอร์ไซค์ของตนเองจากการขับขี่ท่ามกลางจราจรที่หนาแน่นในกรุงเทพฯไปสู่การโลดแล่นบนถนนนอกเมือง

คุณธนบดี กุลทล ผู้จัดการประจำประเทศ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า “ฮาร์ลีย์-เดวิดสันมีความเข้าใจในตลาดเมืองไทยอย่างลึกซึ้ง หลังจากเราสามารถขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวางครอบคลุมทุกภาคของประเทศไทย รถมอเตอร์ไซค์ Softail™ รุ่นใหม่ของเราคือ ที่สุดของการยกระดับคุณภาพด้วยการผสมผสานจิตวิญญาณแบบคัสตอมและตำนานแบบของแท้ดั้งเดิมเข้ากับความล้ำสมัย และเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำหน้าเพื่อนักขี่ชาวไทยทุกคน”

ซอฟเทล ถ่ายทอดความยิ่งใหญ่

เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 115 ปี ฮาร์ลีย์-เดวิดสันปฏิวัติแนวคิดคัสตอมด้วยการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Softail™ ใหม่ล่าสุดจำนวน 8 รุ่นที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ทั้งหมดทั้ง Fat bob™, Street Bob™, Breakout™, Deluxe™, Softail Slim™, Fat Boy™, Heritage Classic™ และ Low Rider™ ผนวกรวมสมรรถนะการขับขี่อย่างสมบุกสมบันของ Dyna™ เข้าไว้กับรูปลักษณ์ตกแต่งพิเศษที่โดดเด่นเหนือใครของตระกูล Softail มาพร้อมกับเฟรมที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อรองรับพละกำลังมหาศาลของเครื่องยนต์มิลวอกี-เอต 107 (Milwaukee-Eight™ 107) และยังมี อ็อปชั่นเครื่องยนต์ 114 สำหรับบางรุ่น ถือเป็นการผสมผสานจิตวิญญาณแบบคัสตอม และตำนานแบบของแท้ดั้งเดิมเข้ากับความล้ำสมัยและเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำหน้าอย่างแท้จริง ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 999,000 บาท

ทะยานรับสายลมไปกับรถมอเตอร์ไซด์ รุ่นตกแต่งพิเศษ (CUSTOM VEHICLE OPERATIONS™)

รถมอเตอร์ไซค์ CVO™ ปี 2018 ยังคงมอบสไตล์ที่โดดเด่น นวัตกรรมที่ล้ำสมัย และสมรรถนะที่เป็นเลิศแบบฮาร์ลีย์-เดวิดสันให้แก่ลูกค้าต่อไปด้วยการนำเสนอสตรีมไกลด์ (Street Glide™) ซีวีโอ โรด ไกลด์ (CVO Road Glide™) และซีวีโอ ลิมิเต็ด (CVO™ Limited) แต่ละรุ่นเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ตกแต่งสร้างเอกลักษณ์ให้แก่รถมอเตอร์ไซค์ที่ผลิตจำนวนจำกัดได้เองทั้งหมดจากโรงงาน พร้อมการรับประกัน 2 ปีแบบไม่จำกัดระยะทางขับขี่ เริ่มต้นด้วยรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์มาตรฐานจากโรงงานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่ฮาร์ลีย์-เดวิดสันเคยผลิตมา และมีเฉพาะตระกูล CVO™ เท่านั้น รถมอเตอร์ไซค์ทั้ง 3 รุ่นได้ยกระดับขุมพลังสครีมมิ่ง อีเกิล (Screamin’ Eagle™) ด้วยเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight™ ความจุ 1,923 ซีซี มีแรงบิดสูงสุด 166 นิวตันเมตร รถมอเตอร์ไซค์ CVO™ มีจำนวนการผลิตจำกัดและ ในปีนี้มาพร้อมสีตัวถังที่โดดเด่นที่สุดที่ฮาร์ลีย์-เดวิดสันเคยออกแบบและผลิตมา นอกจากนี้ รถมอเตอร์ไซค์ทั้ง 3 รุ่นยังมีเทคโนโลยีการสื่อสารที่ก้าวล้ำหน้าอย่างอุปกรณ์หูฟังไร้สาย ผู้ขับขี่สามารถใช้หูฟังบลูทูธเพื่อสื่อสารกับระบบอินโฟเทนเมนท์ของตัวรถ ผู้โดยสาร และผู้ขับขี่คันอื่นได้ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 2,876,000 บาท

ผู้เยี่ยมชมบูธฮาร์ลีย์-เดวิดสันในงานมอเตอร์เอ็กซ์โปปีนี้ไม่เพียงจะได้ยลโฉมมอเตอร์ไซค์ CVO และ Softail เป็นที่แรกในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังจะได้เลือกซื้อเสื้อยืดแนว Custom จากผู้จำหน่ายทั่วประเทศ นอกจากนี้ ผู้ที่ซื้อรถมอเตอร์ไซค์ของฮาร์ลีย์-เดวิดสันทุกคันภายในงานจะได้รับประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี ประกันจากโรงงาน 2 ปีโดยไม่จำกัดระยะทาง และสิทธิการเป็นสมาชิกกลุ่มผู้ขับขี่ฮาร์ลีย์ (HOG) 1 ปี พร้อมการช่วยเหลือฉุกเฉินและชุด Care Kit มูลค่า 7,500 บาท ที่ประกอบด้วยกระเป๋าเป้สะพายหลัง ตัวล็อกหมวกกันน็อก ที่ชาร์จแบตเตอรี่แบบกันน้ำได้ ผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาสีรถขนาดพกพา ลูกค้ายังได้รับข้อเสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้นที่ร้อยละ 2.79

พบกับฮาร์ลีย์-เดวิดสันได้ที่บูธหมายเลข G15 งานมอเตอร์เอ็กซ์โปจัดขึ้นระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายนถึงวันจันทร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2560


MotoPlex เปิดตัว (VESPA 946) RED สุดยอดสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมเพื่อการกุศล และขบวนรถเวสป้ารุ่นพิเศษอีกเพียบที่มาพร้อมกับ Moto Guzzi คัสตอม คอนเซ็ปต์ ในงาน Motor Expo 2017

$
0
0

MotoPlex เปิดตัว (VESPA 946) RED สุดยอดสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมเพื่อการกุศลและขบวนรถเวสป้ารุ่นพิเศษอีกเพียบที่มาพร้อมกับ Moto Guzzi คัสตอม คอนเซ็ปต์ ในงาน Motor Expo 2017

Vespa-GTS300-Sport-Edition

บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมชั้นนำ “พิอาจิโอ” และ “เวสป้า” พร้อมทั้งรถมอเตอร์ไซค์ระดับตำนาน “อาพริเลีย” และ “โมโต กุซซี่” สัญชาติอิตาเลี่ยนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย พร้อมสะกดทุกสายตามอบประสบการณ์สุดพิเศษภายในบูธโมโตเพล็กซ์ แบงค็อก ด้วยทัพรถ สกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยม “(VESPA 946) RED”, “Vespa GTS Super 300 ABS Sport Edition”, “Vespa Primavera 150 i-Get Touring Edition” และ “Vespa S 125 i-Get Sport Edition” รวมถึงโฉมใหม่ของ Moto Guzzi V7 II Stone คัสตอมคอนเซ็ปต์ 2 สไตล์พิเศษ ที่พร้อมเรียกเสียงฮือฮาจากสาวกคัสตอมไบค์สไตล์อิตาเลี่ยน พร้อมให้แฟนๆ สองล้อผู้หลงใหลการขับขี่สไตล์อิตาเลี่ยนได้สัมผัสรถใหม่ก่อนใครเป็นครั้งแรก และเปิดโอกาสให้เป็นเจ้าของได้ง่ายๆ ด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษ จัดหนัก จัดเต็ม ภายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2017

Vespa-946-Red-TIME2017_02

คุณพรนฎา เตชะไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ตลอดทั้งปี 2017 นี้ บริษัทฯ ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่และมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้แก่แฟนๆ ผู้ที่หลงใหลในการขับขี่สไตล์อิตาเลี่ยนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ครอบคลุมทุกความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า โดยภายในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 34 วันนี้ บูธของ “โมโตเพล็กซ์ แบงค็อก (Motoplex Bangkok)” ซึ่งประกอบด้วยแบรนด์รถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยม ได้แก่ พิอาจิโอ และเวสป้า รวมถึงรถมอเตอร์ไซค์ระดับตำนานทั้ง “อาพริเลีย” และ “โมโต กุซซี่” เราได้ขนรถใหม่มาโชว์ทั้งหมด 4 รุ่นพร้อมความพิเศษจากโมโต กุซซี่สุดเท่ ที่รอทุกท่าน ณ บูธแห่งนี้ และสำหรับในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้จัดเตรียมโปรโมชั่นโดนใจและข้อเสนอสุดพิเศษต่างๆ เพื่อให้ทุกท่านได้เป็นเจ้าของและสัมผัสประสบการณ์การขับขี่สไตล์อิตาเลี่ยนได้ง่ายๆ”

Vespa-946-Red-TIME2017_02

สำหรับรถใหม่ที่นำมาจัดแสดงในบูธโมโตเพล็กซ์ แบงค็อก นั้น เริ่มที่เวสป้ารุ่นพิเศษที่ผลิตขึ้น คือ เวสป้า 946 เร้ด (VESPA 946) RED สกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมระดับโลกรุ่นพิเศษ ผลผลิตจากการผนึกกำลังกันระหว่าง พิอาจิโอ กรุ๊ป กับองค์กร RED
ที่ก่อตั้งเพื่อช่วยเหลือองค์กรที่ต้านภัยโรคเอดส์ วัณโรค และมาลาเรีย โดยได้ร่วมออกแบบเวอร์ชั่นพิเศษด้วยกัน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้ผู้ขับขี่ทุกคนร่วมมือป้องกันการติดเชื้อดังกล่าว และถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองความสวยงามของสกู๊ตเตอร์ระดับพรีเมี่ยมจากเวสป้าที่เรียกได้ว่าเป็นตำนาน และเป็นผลิตภัณฑ์จากกลุ่มยานยนต์เดียวในโลกที่ได้รับเลือกโดย RED ซึ่งสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมรุ่นนี้ได้รับการออกแบบใหม่ให้เป็นสีแดงสดรอบคัน สำหรับ (VESPA 946) RED โครงสร้างทำจากเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมเพื่อความแข็งแกร่งอีกทั้งยังสะท้อนความหรูหราและคลาสสิกอีกด้วย โดยมาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 150 ซีซี 4 จังหวะ 1 สูบ 3 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยอากาศ จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ ระบบเบรกแบบสองจานดิสก์เบรกหน้า-หลัง และ ระบบ Dual – Channel ABS เพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบ ASR หรือ Traction Control ป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง ทั้งหมดนี้กล่าวได้ว่า (VESPA 946) RED คือ สกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดในปัจจุบัน โดยนำเข้ามาจำหน่ายในไทยสนนราคาอยู่ที่ 599,000 บาท

Vespa-GTS300-Sport-Edition

อีกรุ่นคือ เวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ 300 เอบีเอส สปอร์ต อิดิชั่น (Vespa GTS SUPER 300 ABS Sport Edition) ที่จะมาสร้างความเพลิดเพลิน สนุก เร้าใจไปกับทุกการเดินทางไกลด้วยสุดยอดรถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมเวสป้าเฟรมใหญ่สไตล์สปอร์ต สะดุดตาด้วยเฉดสีพิเศษ สีเหลืองด้าน (Giallo Gelosia) มาพร้อมชิวด์สั้นสีสโม้คพร้อมตะลุยในทุกเส้นทาง โฉบเฉี่ยวด้วยเส้นสายกราฟิกด้านข้างตัวรถ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ “ควอซาร์ (Quasar)” ขนาด 300 ซีซี 4 จังหวะ 4 วาล์ว ทรงพลัง มอบความเร็วและแรงที่สุดในบรรดารถเวสป้าทุกรุ่น ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ มั่นใจในทุกเส้นทางด้วยระบบเบรก ABS ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง เสริมด้วยระบบ ASR (Anti-Slip Regulation) หรือระบบป้องกันการลื่นไถล และ Tilt Sensor ตรวจจับการเอียงของรถเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ สำหรับท่านที่ซื้อ เวสป้า จีทีเอส ซูเปอร์ 300 เอบีเอส สปอร์ต อิดิชั่น ยังจะได้รับชุดของพรีเมี่ยมออกแบบพิเศษ ได้แก่ หมวกกันน็อคสีเหลืองด้านเข้าคู่กับตัวรถ หมวกแก๊ป ผ้าเช็ดหน้า และกระเป๋าเป้ ที่จะให้รสชาติการเดินทางของคุณสนุกสนานยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยเวสป้ารุ่นพิเศษนี้ผลิตขึ้นเพียง 200 คันในประเทศไทยเท่านั้น สนนราคาอยู่ที่ 205,900 บาท

มาต่อกันที่ เวสป้า พรีมาเวร่า 150 ไอ-เก็ท ทัวร์ริ่ง อิดิชั่น (Vespa Primavera 150 i-get Touring Edition) ที่จะมาเป็นเพื่อนคู่ใจ พร้อมออกเดินทางท่องเที่ยวอย่างมีสไตล์ เท่ ไม่ซ้ำใครมากขึ้นกับรถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมเวสป้าไฟกลมรุ่นพิเศษที่มาในเฉดสีเบจเมทัลลิคสุดคลาสสิก (Beige Tufo Di Lecce) มีจำนวนจำกัดเพียง 200 คันในประเทศไทย ตัวรถมาพร้อมชิวด์สั้น ตะแกรงหน้า-หลังสีโครเมี่ยมสำหรับบรรทุกสัมภาระเพิ่มเติม แต่ยังคงไว้ซึ่งสไตล์หรูหราปราดเปรียวเช่นเดิม เสริมสมรรถนะความคล่องตัวด้วยกระเป๋าด้านข้างสีครีม ทุกเส้นทางนิ่มนวลด้วยเครื่องยนต์ i-Get ใหม่ และปลอดภัยกว่าเดิมด้วยระบบเบรก ABS ให้คุณสนุกสนานและมั่นใจไม่ว่าจะโลดแล่นไปในเส้นทางไหน โดยเวสป้า พรีมาเวร่า 150 ไอ-เก็ท ทัวร์ริ่ง อิดิชั่น ที่เปี่ยมด้วยสไตล์คันนี้ ราคา 134,900 บาท

ขณะที่อีกรุ่น คือ เวสป้า เอส 125 ไอ-เก็ท สปอร์ต อิดิชั่น (Vespa s 125 i-get sport edition) ที่ได้สร้างกระแสเปิดตัวบนออนไลน์เป็นครั้งแรกเมื่อไม่นานมานี้ โดยรุ่นนี้จะมอบความเท่ให้คุณจนสุดทาง อัพลุคเท่ให้สปอร์ตกว่าเดิม เพิ่มเติมความเร้าใจ มาพร้อมเฉดสีพิเศษ 2 สี ได้แก่ สีเงินด้าน (Argento Opaco) และสีดำด้าน (Nero Opaco) มีจำหน่ายจำนวนจำกัดในประเทศไทยเพียงสีละ 450 คัน โฉบเฉี่ยวด้วยชิลด์สั้นสีสโม้คเข้าคู่กันกับไฟหน้าทรงสี่เหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ประจำรุ่น พิเศษด้วยเส้นสายกราฟิกเน้นความปราดเปรียวด้านข้างตัวรถ พร้อมรับชุดของพรีเมี่ยมออกแบบพิเศษ ได้แก่ หมวกกันน็อคสีเข้าคู่กับตัวรถ และผ้าเช็ดหน้าลวดลายกราฟิก เอาใจสาวกสายสปอร์ตให้ทุกการขับขี่โดดเด่นในทุกเส้นทาง ด้วยราคาเพียง 94,490 บาท

ในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ขอเพิ่มความตื่นเต้นให้สาวกแบรนด์ระดับตำนาน ต้นกำเนิดเครื่องสูบวีวางขวางอย่าง Moto Guzzi และชาวคัสตอมด้วยการแปลงโฉมหยอดลูกเล่นสุดแปลกตาให้ Moto Guzzi V7 II Stone คันหล่อ ด้วยแนวคิดคัสตอม ในคอนเซปต์
2 สไตล์โดดเด่นพิเศษทั้ง Scrambler (สแครมเบลอร์) และ Tracker (แทรคเกอร์) ที่ออกแบบมาเพื่อความเท่ให้กับ Moto Guzzi V7 II Stone หากสาวกคัสตอมสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก Moto Guzzi Thailand

สำหรับโปรโมชั่นและข้อเสนอสุดพิเศษภายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2017 นี้ บริษัทฯ พร้อมให้ผู้ที่ชื่นชอบและหลงใหลในการขับขี่สไตล์อิตาเลี่ยนได้เป็นเจ้าของรถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมและรถมอเตอร์ไซค์ระดับตำนานจากอิตาลีได้ง่ายยิ่งขึ้น ด้วยข้อเสนอ ดังนี้

· สกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมเวสป้า 125 ซีซี. ฟรีดาวน์และผ่อนเริ่มต้นเพียง 1,754 บาทต่อเดือน พร้อมรับของแถมประจำรุ่น
· สกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมเวสป้า 150 ซีซี. ดาวน์เริ่มต้นเพียง 5,000 บาท และผ่อนเริ่มต้นเพียง 2,685 บาทต่อเดือน พร้อมรับของแถมประจำรุ่น
· สกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมเวสป้า GTS Super 300 ABS. พิเศษ คูปองเงินสด 3,000 บาท, ประกันรถหาย, บริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉิน 24 ชม. 1 ปี, ถุงมือ Alpinestars, หมวกกันน็อค Bumshaker, น้ำมัน IPONE 2 ขวด และ IPONE Careline Set 3 ชิ้น
· สกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมพิอาจิโอ ดาวน์เริ่มต้นเพียง 5,000 บาท และผ่อนเริ่มต้นเพียง 2,923 บาทต่อเดือน
· สกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมพิอาจิโอ Medley 150 ABS และ Medley S 150 ABS จองวันนี้ รับฟรีทะเบียน พรบ.ประกันรถหาย พร้อมบริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ยาว 1 ปี
· มอเตอร์ไซค์อาพริเลีย RSV4 RF รับคูปองเงินสดมูลค่า 120,000 บาท พร้อมฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อมค่าจดทะเบียน และ พรบ. พร้อมบริการ Motoplex Bangkok Service Maintenance Package ระยะเวลา 2 ปี หรือ 30,000 กม.พร้อมบัตร Motoplex Bangkok Membership Card และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 2 ปี
· มอเตอร์ไซค์อาพริเลีย RSV4 RR รับคูปองเงินสดมูลค่า 120,000 บาท พร้อมฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อมค่าจดทะเบียน และ พรบ. พร้อมบริการ Motoplex Bangkok Service Maintenance Package ระยะเวลา 2 ปี หรือ
30,000 กม. พร้อมบัตร Motoplex Bangkok Membership Card และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 2 ปี
· มอเตอร์ไซค์อาพริเลีย Tuono V4 1100 Factory รับคูปองเงินสดมูลค่า 120,000 บาท พร้อมฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อมค่าจดทะเบียน และ พรบ. พร้อมบริการ Motoplex Bangkok Service Maintenance Package ระยะเวลา 2 ปี หรือ 30,000 กม. พร้อมบัตร Motoplex Bangkok Membership Card และ บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 2 ปี
· มอเตอร์ไซค์โมโต กุซซี่ V7 II STONE รับคูปองเงินสดมูลค่า 60,000 บาท พร้อมเสื้อ OSCAR MONTY LEATHER JACKET จาก Alpinestars มูลค่ากว่า 22,900 บาท และฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อมค่าจดทะเบียน และ พรบ.
บริการ Motoplex Bangkok Service Maintenance Package ระยะเวลา 2 ปี หรือ 30,000 กม.พร้อมบัตร Motoplex Bangkok Membership Card และ บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 2 ปี
· มอเตอร์ไซค์โมโต กุซซี่ V7 II RACER รับคูปองเงินสดมูลค่า 70,000 บาท พร้อมเสื้อ OSCAR MONTY LEATHER JACKET จาก Alpinestars มูลค่ากว่า 22,900 บาท และฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อมค่าจดทะเบียนและ พรบ.
บริการ Motoplex Bangkok Service Maintenance Package ระยะเวลา 2 ปี หรือ 30,000 กม. พร้อมบัตร Motoplex Bangkok Membership Card และ บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 2 ปี

· มอเตอร์ไซค์โมโต กุซซี่ V7 III Anniversario รับคูปองเงินสดมูลค่า 35,000 บาท พร้อมเสื้อ OSCAR MONTY LEATHER JACKET จาก Alpinestars มูลค่ากว่า 22,900 บาท และฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อมค่าจดทะเบียนและ พรบ. บริการ Motoplex Bangkok Service Maintenance Package ระยะเวลา 2 ปี หรือ 30,000 กม. พร้อมบัตร Motoplex Bangkok Membership Card และ บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 2 ปี
· มอเตอร์ไซค์โมโต กุซซี่ V9 Bobber รับคูปองเงินสดมูลค่า 45,000 บาท พร้อมเสื้อ OSCAR MONTY LEATHER JACKET จาก Alpinestars มูลค่ากว่า 22,900 บาทและฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อมค่าจดทะเบียนและ พรบ.
บริการ Motoplex Bangkok Service Maintenance Package ระยะเวลา 2 ปี หรือ 30,000 กม. พร้อมบัตร Motoplex Bangkok Membership Card และ บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 2 ปี
· มอเตอร์ไซค์โมโต กุซซี่ V9 Roamer รับคูปองเงินสดมูลค่า 60,000 บาท พร้อมเสื้อ OSCAR MONTY LEATHER JACKET จาก Alpinestars มูลค่ากว่า 22,900 บาท และฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อมค่าจดทะเบียนและ พรบ.
บริการ Motoplex Bangkok Service Maintenance Package ระยะเวลา 2 ปี หรือ 30,000 กม.พร้อมบัตร Motoplex Bangkok Membership Card และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 2 ปี
· มอเตอร์ไซค์โมโต กุซซี่ Audace รับคูปองเงินสดมูลค่า 120,000 บาท พร้อมเสื้อ OSCAR MONTY LEATHER JACKET จาก Alpinestars มูลค่ากว่า 22,900 บาทและฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อมค่าจดทะเบียนและ พรบ.
บริการ Motoplex Bangkok Service Maintenance Package ระยะเวลา 2 ปี หรือ 30,000 กม.พร้อมบัตร Motoplex Bangkok Membership Card และ บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 2 ปี
· มอเตอร์ไซค์โมโต กุซซี่ MGX-21 รับคูปองเงินสดมูลค่า 100,000 บาท พร้อมเสื้อ OSCAR MONTY LEATHER JACKET จาก Alpinestars มูลค่ากว่า 22,900 บาท และฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อมค่าจดทะเบียนและ พรบ.
บริการ Motoplex Bangkok Service Maintenance Package ระยะเวลา 2 ปี หรือ 30,000 กม.พร้อมบัตร Motoplex Bangkok Membership Card และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 2 ปี

“พิเศษสุด เมื่อจองรถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมเวสป้าภายในงาน รับเพิ่มกิ๊ฟต์เซ็ตพิเศษเอาใจสาวกเวสป้า ให้แฟนๆ ที่ชื่นชอบประสบการณ์การขับขี่สไตล์อิตาเลี่ยนได้สะสมเป็นของที่ระลึก ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 11 ธันวาคม 2560 โดยบริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการ
ต้อนรับอย่างอบอุ่นจากลูกค้าภายในบูธโมโตเพล็กซ์ แบงค็อก (Motoplex Bangkok) หมายเลข G01 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม 2560 นี้” คุณพรนฎา กล่าวปิดท้าย

ติดตามข่าวสารประชาสัมพันธ์ของทั้ง 4 แบรนด์ได้ที่เฟซบุ๊ก ดังนี้ Official Vespa Society Thailand, Piaggio Society Thailand, Aprilia Thailand และ Moto Guzzi Thailand

Vespa-946-Red-TIME2017_01 Vespa-946-Red-TIME2017_02 Vespa-946-Red-TIME2017_03 Vespa-946-Red-TIME2017_04 Vespa-946-Red-TIME2017_05 Vespa-946-Red-TIME2017_06 Vespa-946-Red-TIME2017_07 Vespa-946-Red-TIME2017_08 Vespa-946-Red-TIME2017_10 Vespa-GTS300-Sport-Edition

Triumph คว้า “Tiger 800 XRT” และ “Tiger 800 XCA” จาก EICMA โชว์และเปิดตัวครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิกใน Motor Expo 2017

$
0
0

Triumph คว้า “Tiger 800 XRT” และ “Tiger 800 XCA” จาก EICMA โชว์และเปิดตัวครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิกใน Motor Expo 2017

2018-Triumph-Tiger-800-TIME2017_2

 

 ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เปิดไฮไลต์รถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์ส่งท้ายปีด้วยสองสมาชิกใหม่ล่าสุดของตระกูลแอดเวนเจอร์แอนด์ทัวร์ริ่ง ได้แก่ ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์อาร์ที (Tiger 800 XRTและ ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์ซีเอ (Tiger 800 XCA) โฉมใหม่! ที่ได้รับการปรับและเพิ่มเติมด้านชิ้นส่วน รวมถึงระบบขับเคลื่อนที่ยอดเยี่ยมขึ้น เพื่อมอบความสะดวกสบายและสมรรถนะในการขับขี่แบบออฟโรดที่ดียิ่งขึ้นกว่าที่เคยมีมา เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของทุกการผจญภัย โดยทั้ง 2 รุ่นดังกล่าวเพิ่งเผยโฉมให้โลกได้เห็นอย่างเป็นทางการในงาน  EICMA Show ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และพร้อมแล้วที่จะให้คนไทยได้ยลโฉมและสัมผัสอย่างใกล้ชิดรวมถึงจับจองเป็นเจ้าของครั้งแรกก่อนใครในเอเชียแปซิฟิกภายในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34 หรือมอเตอร์เอ็กซ์โป 2017 ณ บูธไทรอัมพ์ G05 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 – วันที่ 11 ธันวาคม 2560

 2018-Triumph-Tiger-800-TIME2017_7

นายจักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ จัดเซอร์ไพรส์ส่งท้ายปีอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการขนทัพรถมอเตอร์ไซค์ที่ถือเป็นไฮไลต์ที่สาวกรถแอดเวนเจอร์แอนด์ทัวร์ริ่งรอคอย เพิ่งเผยโฉมให้โลกได้เห็นอย่างเป็นทางการในงาน  EICMA Show ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้แก่ ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์อาร์ที (Tiger 800 XRTและ ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์ซีเอ (Tiger 800 XCA) โฉมใหม่ล่าสุด มาเปิดตัวให้คนไทยได้ยลโฉมและสัมผัสกันอย่างใกล้ชิดรวมถึงจับจองเป็นเจ้าของก่อนใครเป็นครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก ในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34″ หรือ มอเตอร์เอ็กซ์โป 2017 โดยทั้งเสือร้ายสายลุยสองสมาชิกใหม่ล่าสุดนี้ ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงครั้งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นโครงรถเละเครื่องยนต์ที่ได้รับการอัพเกรดมากกว่า 200 รายการ และระบบขับเคลื่อนที่ยอดเยี่ยมขึ้น เพื่อส่งมอบความสะดวกสบาย ตลอดจนสมรรถนะในการขับขี่แบบออฟโรดที่ดียิ่งขึ้น เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของทุกการผจญภัยกว่าที่เคย

2018-Triumph-Tiger-800-TIME2017_6

นายจักรพงษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับ ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์อาร์ที และ ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์ซีเอ โฉมใหม่ล่าสุดนี้ มาพร้อมเครื่องยนต์สามสูบอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะขนาด 800 ซีซี ให้แรงม้าสูงสุดที่ 95 แรงม้า ที่ 9,500 รอบต่อนาที นอกจากนี้ยังได้รับการพัฒนาเทคโนโลยีและสมรรถนะในส่วนสำคัญๆ หลายส่วนที่ออกแบบ เพื่อเพิ่มความสามารถของทั้ง 2 รุ่นต่อการขับขี่บนถนนและทางออฟโรด (Off-Road) ใช้งานง่าย ปราดเปรียว ตลอดจนการเสริมแต่งสไตล์และรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อาทิ

2018-Triumph-Tiger-800-TIME2017_3

แผงหน้าปัด TFT แบบ Full Colour ขนาด 5 นิ้ว กระจกหน้ารถแบบปรับได้ ตำแหน่ง และ Aero Diffuser เพื่อการป้องกันลม รวมถึงส่วนประกอบเบาะแบบใหม่ที่ให้ความสบายในการขับขี่ทั้งวัน นอกจากนี้ยังมาพร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือกมากถึง 5 โหมด ในรุ่นเอ็กซ์อาร์ที ได้แก่ Road, Rain, Sport, Off-Road และ Rider   สุดพิเศษยิ่งขึ้นในรุ่นเอ็กซ์ซีเอ มาพร้อมโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง โหมด เพิ่มโหมดการขับขี่ออฟโรดโปร (Off-Road Pro) แบบใหม่ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่สไตล์ออฟโรดที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดกว่าที่เคยมีมา อีกทั้งมั่นใจในความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยเบรกหน้ามาตรฐานสูงของ Brembo รวมถึงรูปแบบของระบบกันสะเทือนที่ปรับแต่งมาให้ดีที่สุดจาก Showa มีปุ่มสวิตช์ที่แฮนด์บังคับเลี้ยวและจอยสติ๊กควบคุม 5 ทิศทาง ซึ่งมาพร้อมกับปุ่มกดที่มีไฟในตัวอย่างสวยงาม มีไฟ LED เต็มดวงแบบเฉพาะที่โดดเด่น อีกทั้งการอัพเดทระบบควบคุมความเร็วคงที่ การปรับปรุงโครงรถ ตลอดจนงานตัวถังระดับพรีเมี่ยมที่เคลือบผิวสีคุณภาพสูงพร้อมการออกแบบแผงข้างแบบใหม่ และการตกแต่งเพื่อเพิ่มความโดดเด่นอย่างแท้จริง มีระบบไอเสียที่มีลักษณะเฉพาะและน้ำหนักเบาขึ้น พร้อมเสียงที่เป็นสปอร์ตมากขึ้นเพื่อพลิกโฉมเครื่องยนต์รุ่นสมัยใหม่ มีอัตราทดเกียร์ 1 แบบใหม่ที่สั้นขึ้นเพื่อเพิ่มแรงยึดเกาะ Off-road การตอบสนองที่ความเร็วต่ำบนทุกสภาพถนน และการเร่งในทันที ซึ่งให้ความรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจสำหรับผู้ขับขี่

2018-Triumph-Tiger-800-TIME2017_1

นอกจากนี้ยังจัดเต็มด้านเทคโนโลยีที่เป็นส่วนสำคัญต่อการขับขี่แบบผจญภัย ไม่ว่าจะเป็น ระบบ ABS ระบบคันเร่งไฟฟ้า (Ride-by-Wide) ระบบควบคุมความเร็วคงที่ด้วยปุ่มเดียว (Cruise Control) ระบบควบคุมการยึดเกาะถนนแบบปรับได้ (Traction Control) รวมถึงปลอกมือบิดและที่นั่งอุ่นไฟฟ้า ความสูงที่นั่งแบบปรับได้ ตลอดจนช่องเสียบอุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นต้น และที่สำคัญ ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์อาร์ที และ ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์ซีเอ โฉมใหม่ล่าสุดนี้ ยังมีอุปกรณ์เสริมให้เลือกสรรอีกมากกว่า 50 รายการ ซึ่งช่วยให้สามารถปรับแต่งรถได้ดั่งใจเพื่อประสบการณ์ขับขี่ขั้นสูงสุดไม่ว่าในรุ่นใดก็ตามอีกด้วย

2018-Triumph-Tiger-800-TIME2017_4

ทั้งนี้ ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์อาร์ที มีให้เลือก สี ได้แก่ Silver Ice, Crystal White และ Matt Cobalt Blue  สนนราคาประมาณการ 650,000 บาท และ ไทเกอร์ 800 เอ็กซ์ซีเอ มีให้เลือก สี ได้แก่  Korosi Red, Crystal White และ Marine สนนราคาประมาณการ 670,000 บาท

Triumph-Speedmaster-Bobber-Black-Edition_15

ขณะที่ภายในงาน ไทรอัมพ์ ยังขนทัพไฮไลต์รถมอเตอร์ไซค์อีก 2 รุ่นมาเผยโฉมครั้งแรกด้วยเช่นกัน ได้แก่ บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ แบล็ค และ บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์  รถมอเตอร์ไซค์สไตล์คัสตอมสุดคลาสสิกแบบฉบับอังกฤษขนานแท้ ที่ยังคงไว้ด้วยรูปลักษณ์รถตระกูลบอนเนวิลล์ดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน โดย บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ แบล็ค” (Bonneville Bobber Black) มาพร้อมรูปลักษณ์ที่เข้มขึ้น ดุขึ้น และแข็งแกร่งขึ้น แต่ยังคงไว้ด้วยคุณลักษณะที่งดงามและเป็นเอกลักษณ์ของ บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ ไม่ว่าจะเป็น สไตล์คัสตอมพันธุ์แท้ นวัตกรรมยานยนต์ที่สง่างาม ขีดความสามารถที่นิยามความเป็นตัวตน การขับขี่ที่ให้อารมณ์แสนเร้าใจ ตลอดจนเสียงเครื่องยนต์ที่คำรามกึกก้องทรงพลัง

โดย “บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ แบล็ค” มาพร้อมเครื่องยนต์แรงบิดสูงสูบคู่ขนานขนาด 1,200 ซีซี ให้แรงบิดสูงสุด 106 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที และพละกำลังสูงสุด 77 แรงม้า ที่ 6,100 รอบต่อนาที ด้านรูปลักษณ์คมเข้มมากขึ้น ด้วยสไตล์และการตกแต่งรายละเอียดสีดำสนิททั่วทั้งคัน นอกจากนี้ยังได้รับการออกแบบพัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงการแต่งรถเป็นหัวใจสำคัญ จึงมีชุดแต่ง “Old School” และอุปกรณ์เสริมให้เลือกมากมายกว่า 120 รายการ เพื่อการปรับแต่งรายละเอียดและสไตล์ รวมถึงเพิ่มความสะดวกสบายและเสริมประสิทธิภาพรถให้สูงขึ้น

ทั้งนี้ ไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์ บอบเบอร์ แบล็ค มาพร้อมกับสีที่น่าสนใจถึง 2 สี ได้แก่สี Jet Black เงางามสุดคลาสสิก และสี Matt Jet Black แบบร่วมสมัย สนนราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 625,000 บาท

Triumph-Speedmaster-Bobber-Black-Edition_05

สำหรับรุ่น บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์” (Bonneville Speedmaster) เป็นรถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์สไตล์คัสตอมแท้ อัดแน่นด้วยดีเอ็นเอสายพันธุ์อมตะเหนือกาลเวลาที่รวมคุณลักษณะอันโดดเด่นของมอเตอร์ไซค์ตระกูลบอบเบอร์เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว ส่งมอบภาพลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของบอบเบอร์อย่างเต็มเปี่ยมแต่สามารถใช้งานได้ง่ายดายและคล่องแคล่วขึ้นกว่าที่เคย โดยมาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์บอนเนวิลล์ ขนาด 1200 ซีซี ส่งมอบแรงบิดสูงสุดถึง 106 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที และส่งมอบพละกำลังสูงสุดที่ 77 แรงม้าที่ 6,100 รอบต่อนาที พร้อมมอบภาพลักษณ์คัสตอมสุดคลาสสิกอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสายพันธุ์การออกแบบที่สืบทอดมาจากบอบเบอร์อย่างเต็มเปี่ยม ตลอดจนได้ถูกออกแบบมาสำหรับการปรับแต่งเพิ่มเติมด้วยชุดแต่งทั้งหมด 2 ชุด โดยชุดแต่ง ‘Highway’ สำหรับเพิ่มขีดความสามารถด้านทัวร์ริ่งจึงมีชุดสัมภาระแบบอ่อนครบชุด ส่วนชุดแต่ง ‘Maverick’ สำหรับผู้ที่ขี่ต้องการภาพลักษณ์เรียบง่ายแต่ดุดัน และอุปกรณ์เสริมที่มีให้เลือกมากกว่า 130 รายการ 

 ทั้งนี้ “บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์” โฉมใหม่มาพร้อม 3 สีสุดคลาสสิกให้เลือก ได้แก่ สี Jet Black สี Cranberry Red/Jet Black และสี Fusion White/Phantom Black พร้อมตัดเส้นคู่ด้วยมือ สนนราคาจำหน่าย 625,000 บาท

อย่างไรก็ตามนอกจากกรถมอเตอร์ไซค์ไฮไลต์ข้างต้นแล้ว บูธไทรอัมพ์ภายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2017 ได้เนรมิตขึ้นภายใต้คอนเซปต์ “British Premium Lifestyle” โดยได้นำรถมาโชว์ในงาน 26 คัน ตลอดจนเนรมิตโซนเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดที่ขนมาให้เลือกชมและซื้อกันอย่างจุใจ พร้อมส่วนลดพิเศษ 15 – 30 เปอร์เซ็นต์ และโปรโมชั่นอื่นๆอีกมากมาย พิเศษสุดๆ สำหรับลูกค้าที่จองรถมอเตอร์ไซค์ไทรอัมพ์ทุกรุ่นทุกคันภายในงานเท่านั้น รับฟรีทันที! ถุงผ้าใส่หมวกกันน็อค Limited Edition จากไทรอัมพ์ นายจักรพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย

โดยผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บูธไทรอัมพ์ G05 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 – วันที่ 11 ธันวาคม 2560 สอบถามข้อมูลติดต่อ บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด  อีเมล์Contact.TH@triumphmotorcycles.com  หรือติดตามข่าวสารและกิจกรรมได้ที่ www.facebook.com/TriumphMotorcyclesThailand

BMW Motorrad ประเทศไทย เผยโฉม BMW R 1200 GS Rallye Version เป็นครั้งแรกในประเทศไทย และข้อเสนอสุดพิเศษอีกมากมาย Motor Expo 2017

$
0
0

BMW Motorrad ประเทศไทย เผยโฉม BMW R 1200 GS Rallye Version เป็นครั้งแรกในประเทศไทย และข้อเสนอสุดพิเศษอีกมากมาย Motor Expo 2017

BMW Motorrad at Motor Expo 2017_resize

บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS Rallye Version มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัวด้วยรูปลักษณ์แบบพร้อมลุย เข้ากับสมรรถนะแบบครบเครื่องจากเครื่องยนต์แรงบิดสูงที่ได้สร้างความตื่นตาให้กับแฟนๆ บิ๊กไบค์ทั่วโลก จนได้ขึ้นแท่นเป็นผู้นำของมอเตอร์ไซค์ในเซกเมนต์เดียวกัน อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในรุ่นที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด การเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS Rallye Version ใหม่นี้ นอกจากจะถือเป็นการพัฒนาประสิทธิภาพและคุณสมบัติต่างๆ ให้ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมแล้ว ยังมีการเพิ่มความสามารถใหม่ ๆ เข้ามาอีกด้วย

BMW R 1200 GS Rallye_resize

บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS Rallye Version ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์บ๊อกเซอร์สองสูบที่มีระบบหล่อเย็นด้วยอากาศและน้ำ เช่นเดียวกับบีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS ความจุ 1,170 ซีซี ให้พละกำลังสูงสุดที่ 92 กิโลวัตต์ / 125 แรงม้าที่ 7,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 125 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบต่อนาที พร้อมระบบท่อไอเสียแบบใหม่ที่ออกแบบให้ลดอัตราการปล่อยมลภาวะตามเกณฑ์ EU4 pollutant class อีกทั้งยังโดดเด่นจากสมรรถนะในการขับขี่แบบออฟโรด ด้วยโหมดในการขับขี่ “Dynamic Pro” และ “Enduro Pro” ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ เพื่อความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดอย่างแท้จริง

บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS Rallye Version ยังติดตั้งระบบ Dynamic Electronic Suspension Adjustment (ESA) หรือการปรับค่าสปริงหรือความหนืดของโช๊คด้วยระบบไฟฟ้า จึงสามารถปรับตัวให้เข้ากับทุกสภาวะการขับขี่ และระบบ Dynamic Traction Control (DTC) หรือระบบควบคุมการเกาะถนนแบบไดนามิก ที่มอบความปลอดภัยระดับสูงแม้ขับขี่ด้วยความเร็ว โดยเฉพาะขณะเข้าโค้ง รวมทั้งระบบ
Hill Start Control อำนวยความสะดวกเมื่อสตาร์ทรถในบริเวณพื้นที่ลาดชัน

รูปลักษณ์ภายนอกของ บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS Rallye Version โฉบเฉี่ยวพร้อมลุยด้วยกระจกบังลมแบบสปอร์ต ล้อซี่ลวด ยางออฟโรด และกล่องใส่สัมภาระ โดยบีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS ใหม่นี้ เสริมลุคสปอร์ตร้อนแรงยิ่งขึ้นด้วยสี Lupine Blue พร้อมแต่งแต้มลวดลายเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์สปอร์ต ด้านข้างถังน้ำมัน และเฟรมสี Cordoba Blue ที่ตัดกับระบบขับเคลื่อนสีดำทั้งชุด ช่วยให้
บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS ใหม่มีดีไซน์สปอร์ตที่สะดุดตาที่สุดในตระกูล GS

BMW-G310GS-MSP_05

บีเอ็มดับเบิลยู G 310 GS
ราคาจำหน่าย 219,000 (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

บีเอ็มดับเบิลยู G 310 GS ใหม่ ถือเป็นรถมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นที่สองต่อจากบีเอ็มดับเบิลยู
G 310 R ที่ใช้เครื่องยนต์หนึ่งสูบ 313 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมติดตั้ง 4 วาล์ว 2 แคมชาฟท์ และระบบหัวฉีดน้ำมันแบบไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 25 กิโลวัตต์/34 แรงม้า ที่ 9,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 28 นิวตันเมตรที่ 7,500 รอบต่อนาที นับได้ว่า บีเอ็มดับเบิลยู G 310 GS ใหม่ สามารถเป็นมอเตอร์ไซค์คู่ใจ ที่พร้อมออกผจญภัยไปกับผู้ขับขี่ในทุก ๆ วัน

บีเอ็มดับเบิลยู G 310 GS ใหม่ สะท้อนจิตวิญญาณของความเป็น GS อย่างแท้จริงด้วยบังโคลนหน้าแบบสูง เอกลักษณ์ของเส้นสายอันเฉพาะตัวของมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยูในตระกูล GS และช่วงท้ายที่สั้นและยกสูง แต่ยังสามารถขับขี่ได้อย่างคล่องแคล่วปราดเปรียวบนทุกเส้นทางด้วยสัดส่วนที่กะทัดรัดและช่วงระยะฐานล้อที่สั้น นอกจากนี้
ล้อหน้าขนาด 19 นิ้ว และระบบกันสะเทือนหน้าที่มีขนาดยาว ยังช่วยให้ผู้ขับขี่อยู่ในท่านั่งหลังตรงที่
ผ่อนคลาย พร้อมช่วยในการบังคับทิศทางที่คล่องแคล่วและแม่นยำอีกด้วย

สำหรับระบบช่วงล่างของบีเอ็มดับเบิลยู G 310 GS ใหม่ มีความคล้ายคลึงกับบีเอ็มดับเบิลยู G 310 R ด้วยเฟรมตัวถังเหล็กกล้า และท้ายรถแบบ bolt-on ที่มีความทนทานและแข็งแกร่ง อันเป็นปัจจัยสำคัญทำให้รถมอเตอร์ไซค์คันนี้โดดเด่นทั้งในเรื่องของเสถียรภาพในการขับขี่และความแม่นยำในการบังคับทิศทาง นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู G 310 GS ใหม่ ยังพกระบบช่วงล้างล้อหน้าแบบ upside-down fork มาคู่กับระบบช่วงล่างล้อหลังแบบสวิงอาร์มอลูมิเนียมเดี่ยวและสปริงที่ติดตั้งบนสวิงอาร์มโดยตรง

ข้อเสนอพิเศษในงาน Thailand International Motor Expo 2017

ลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด จะได้พบกับความคุ้มค่าสูงสุดด้วยข้อเสนอพิเศษในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2017 ดังนี้
· ออกรถพร้อมประกันภัยชั้น 1 เริ่มต้นเพียง 29,900 บาท สำหรับรุ่น F 800 R และ 49,900 บาทสำหรับรุ่น F 800 GS, S 1000 R และ S 1000 XR พร้อมรับฟรีหมวกกันน็อค BMW Motorrad System 7 Carbon*
· ลูกค้าที่ซื้อมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS รับฟรี Aluminum panniers และ top case พร้อมหมวกกันน็อค BMW Motorrad GS Carbon รวมมูลค่าสูงสุด 145,264 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)**
· ลูกค้าที่ซื้อมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR รับทันทีสิทธิ์ในการเรียนขับรถมอเตอร์ไซค์
บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR กับทีมสอนระดับโลกจาก California Superbike School ที่สนามแข่งรถ Chang International Circuit จังหวัดบุรีรัมย์ ในวันที่ 24 – 25 กุมภาพันธ์ 2561**

บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

*ข้อเสนอนี้สำหรับลูกค้าที่จองมอเตอร์ไซค์ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เฉพาะรุ่นที่ร่วมรายการและทำสัญญาทางการเงินกับบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง
11 ธันวาคม และรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2560
**ข้อเสนอนี้สำหรับผู้ลูกค้าที่จองมอเตอร์ไซค์ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เฉพาะรุ่นที่ร่วมรายการเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 11 ธันวาคม และรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2560

ครั้งแรกในไทย!! GPX Demon 150 GR สปอร์ตฟูลแฟริ่งล้อ 14″คันแรกของไทย เปิดตัวพร้อมโปรในงาน Motor Expo 2017

$
0
0

ครั้งแรกในไทย!! GPX Demon 150 GR สปอร์ตฟูลแฟริ่งล้อ 14″ คันแรกของไทย เปิดตัวพร้อมโปรในงาน Motor Expo 2017

GPX-Demon150GR-TIME2017_10

เปิดตัวกันไปแล้ว กับรถรุ่นใหม่จากค่าย GPX มาในแบบฉบับของสายพันธุ์สปอร์ตฟูลแฟริ่ง ล้อ 14” พร้อมรหัสชื่อรุ่นว่า “Demon 150 GR” ด้วยดีไซน์ที่ลงตัวให้อารมณ์ความสปอร์ตเกินพิกัด ในไซส์ที่กระทัดรัด เหมาะกับสรีระของคนไทย ในรูปทรงที่มีความปราดเปรียว เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนเมือง

GPX-Demon150GR-TIME2017_09

งานนี้ก็ถือว่า GPX ได้เข้ามาบุกเบิกใน Segment ใหม่ ที่ยังไม่เคยมีค่ายไหนทำมาก่อน กับรถมอเตอร์ไซค์ในสไตล์สปอร์ตฟูลแฟริ่งที่มากับล้อ 14” เรียกว่าเป็นการเติมเต็มช่องว่างของตลาดรถมอเตอร์ไซค์ในบ้านเรา ให้คึกคักและดูมีสีสันกันมากยิ่งขึ้น และถือว่าได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีเลยทีเดียว

GPX-Demon-150-GR-TIME2017_2

หันมาเจาะลึกกับเจ้า “Demon 150 GR” กันบ้าง ถือเป็นการออกแบบดีไซน์ที่ลงตัว ซึ่งถ้าดูกันดีๆแล้วก็อาจจะพูดได้ว่าเป็นร่างพัฒนา ที่ต่อยอดมาจากตัวก่อนหน้าอย่าง Demon 150 GN ที่เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นของ GPX ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ใช้ในกลุ่มวัยรุ่น จนต้องส่ง DEMON 150 GR ออกมาเพื่อตอกย้ำความแรงอย่างต่อเนื่อง โดยรูปทรงพื้นฐานยังคงยึดจากตัว Demon 150 GN แต่ได้มีการออกแบบพัฒนานำฟูลแฟริ่งเข้ามาใส่ และปรับดีไซน์โดยรวมใหม่ให้รับกับบอดี้ โดยดึงอารมณ์ความสปอร์ตออกมานำเสนอได้อย่างมีเสน่ห์และลงตัว

GPX-Demon-150-GR-TIME2017_8

Demon 150 GR มาพร้อมกับขุมพลังในพิกัด 150 ซีซี โดดเด่นด้วยชุดฟูลแฟริ่ง เสริมความแน่นให้อารมณ์สปอร์ตแบบเต็มๆ จัดไฟหน้า-หลัง แบบ Full LED ดีไซน์โฉบเฉี่ยว พร้อมโช้คอัพหน้าแบบหัวกลับ Upside-down จากแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง KAYABA ที่สำคัญยังเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวรถด้วย Realest Trellis Frame เฟรมถักแบบรอบคัน มั่นใจทุกการเบรกด้วยดิสก์เบรกหน้า-หลัง เพิ่มสีสันด้วยไมล์ดิจิทัล ที่สามารถเปลี่ยนสีหน้าจอได้ถึง 3 สี และเพิ่มช่องเสียบ USB ขนาด 5V 1A สำหรับชาร์จโทรศัพท์มือถือได้ สะดวกสบาย ง่ายต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน

โดยออกมาให้เลือกสรรกันถึง 2 รูปแบบ คือ

GPX-Demon-150GR-TIME2017_1

1. Luxury Series สีสันเรียบหรู มาพร้อมกับเฟรมดำ และล้อแม็ก 14” สีดำ มีมาให้เลือกกันถึง 3 สี ได้แก่ แดง , เทาด้าน และขาว ในราคา 63,800 บาท

GPX-Demon150GR-TIME2017_12

2. Sport Edition Series แบบสีทูโทน มาพร้อมกับเฟรมสีแดงสด และล้อแม็ก 14” สีทอง มีมาให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีแดง-ขาว และ สีเทาด้าน-ขาว ในราคา 64,500 บาท

GPX-Demon150GR-TIME2017_05

พิเศษ!! จองในงาน Motor Expo 2017 เฉพาะ 2,000 คันแรกเท่านั้น!! รับยาง Pirelli ติดรถกันไปเลย!!
(หลังจากโควต้า 2,000 คันแรกไป เป็นยางติดรถจาก IRC)

GPX-Demon-150GR-TIME2017_2

นอกจากนี้ GPX ยังจัดรถโชว์ พร้อมโปรฯสุดฟิน เฉพาะในงาน Motor Expo 2017 ปีนี้ ซึ่ง GPX จัดบูธใหม่ใหญ่กว่าเดิมกับดีไซน์บูธที่ตอกย้ำภาพลักษณ์ของคนรุ่นใหม่ ในดีไซน์โฉบเฉี่ยว เร้าใจ พร้อมขนรถกันมาทั้งค่ายให้เหล่าบรรดาสาวกได้มายลโฉมพร้อมจับจองเป็นเจ้าของกันได้แล้ว โดยภายในบูธ ได้มีการจัดแสดงรถรุ่นต่างๆ ได้แก่ Legend 200 , Legend 150s , Legend Gentleman , CR5 EFI , Demon 150 GN , Demon X 125 และที่เปิดตัวกันไปหมาดๆ กับรุ่น Demon 150 GR น้องใหม่ในตระกูล Demon ที่จะออกมาสร้างสีสัน กับสไตล์สปอร์ตฟูลแฟริ่ง ล้อ 14” ที่ถือเป็นการเปิด Segment ใหม่กันเลยทีเดียว แถมยังมาในราคาโดนใจ ที่ใครๆก็เอื้อมถึงได้ไม่ยาก พร้อมกับโปรโมชั่นพิเศษที่จัดมาให้เฉพาะในงานนี้เท่านั้น!!

เพียงใช้เงินจองภายในงาน เพียง 1,000 บาท รับโปรโมชั่นสุดพิเศษ ดังนี้
• ฝั่ง Classic ได้แก่ รุ่น Legend 200 , Legend 150s , Legend Gentleman รับฟรี! ค่าจดทะเบียน พรบ. ของแถมหมวกกันน็อคคลาสิคลายพิเศษ Legend และ เสื้อยืดลายเฉพาะตระกูล Legend
• ฝั่ง Sport ได้แก่ รุ่น CR5, Demon X 125 , Demon 150 GN และ Demon 150 GR รับฟรี! ค่าจดทะเบียน พรบ. ของแถมหมวกกันน็อคลาย พิเศษ Demon 150 GR และ เสื้อโปโลใหม่ล่าสุดจาก GPX

GPX-Demon150GR-TIME2017_02

นอกจากจองง่าย รับโปรโมชั่นเด็ด แถมยังเลือกรับรถได้ที่ร้านตัวแทนจำหน่าย GPX ที่มีกว่า 300 สาขาทั่วประเทศ ได้อีกด้วย
ใครที่สนใจและไม่อยากพลาด สามารถเข้ามายลโฉม สัมผัสรถตัวจริง กันได้ที่บูธ GPX ภายในงาน Motor Expo 2017 ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 11 ธันวาคม 2560 ณ ชาเลนเจอร์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี แล้วพบกันนะจ๊ะ!!

GPX-Demon-150GR-TIME2017_2 GPX-Demon150GR-TIME2017_02 GPX-Demon150GR-TIME2017_09 GPX-Demon150GR-TIME2017_10 GPX-Demon-150GR-TIME2017_1 GPX-Demon150GR-TIME2017_15 GPX-Demon150GR-TIME2017_11 GPX-Demon150GR-TIME2017_13 GPX-Demon150GR-TIME2017_14 GPX-Demon150GR-TIME2017_12 GPX-Demon-150-GR-TIME2017_6 GPX-Demon-150-GR-TIME2017_2 GPX-Demon-150-GR-TIME2017_1 GPX-Demon150GR-TIME2017_03 GPX-Demon-150-GR-TIME2017_3 GPX-Demon150GR-TIME2017_04 GPX-Demon-150-GR-TIME2017_4 GPX-Demon150GR-TIME2017_05 GPX-Demon-150-GR-TIME2017_5 GPX-Demon150GR-TIME2017_06 GPX-Demon150GR-TIME2017_07 GPX-Demon-150-GR-TIME2017_7 GPX-Demon150GR-TIME2017_08 GPX-Demon-150-GR-TIME2017_8 GPX-Demon-150-GR-TIME2017_9

“วรพงศ์” รีดฟอร์มแกร่ง เร็วสุด เอเชีย โปรดักชั่น วันแรก มั่นใจคว้าโพเดี้ยมโฮมเรซ ARRC สุดสัปดาห์นี้

$
0
0

“วรพงศ์” รีดฟอร์มแกร่ง เร็วสุด เอเชีย โปรดักชั่น วันแรก มั่นใจคว้าโพเดี้ยมโฮมเรซ ARRC สุดสัปดาห์นี้

AP250-Honda

“เอ้” วรพงศ์ มาลาหวล ยอดนักบิดไทยจาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ รีดหมายเลข 46 โชว์ฟอร์มเก่งกดเวลามาเป็นอันดับ 1 ในการซ้อมวันแรกของ เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2017 สนามสุดท้าย มั่นใจสามารถคว้าโพเดี้ยมต่อหน้าแฟนๆ ความเร็วชาวไทยที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ สุดสัปดาห์นี้

ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ทวีปเอเชีย รายการ เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2017 มีคิวดวลความเร็วสนามสุดท้ายที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน -3 ธันวาคมนี้ โดยจะแข่งขั้นทั้งสิ้น 2 เรซ เพื่อส่งท้ายฤดูกาล

ล่าสุดในวันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นการซ้อม 2 ครั้งแรก ของการแข่งขันทุกรุ่นโดยเฉพาะในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. และ ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. ที่มีนักบิดไทยลงแข่งขันอย่างคับคั่ง

ภายหลังจบการซ้อม 2 ครั้งแรก ปรากฏว่า “เอ้” วรพงศ์ มาลาหวล นักบิดไทยจาก เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ เจ้าของหมายเลข 46 บิดรถแข่ง ฮอนด้า ซีบีอาร์250อาร์อาร์ กดเวลามาเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 54.097 วินาที สร้างความมั่นใจให้กับตนเองและทีมงานอย่างมาก ขณะที่ “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช นักบิดสาวแกร่งหนึ่งเดียวของไทย ทีมเมทในพิต ฮอนด้า เจ้าของหมายเลข 44 ทำเวลา 1 นาที 55.359 วินาที รั้งอันดับ 9 บนตารางเวลาวันแรก

ด้าน “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ ที่ลงแข่งขันในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. สังกัด เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ หมายเลข 59 ทำเวลาต่อรอบ 1 นาที 40.737 วินาที รั้งอันดับ 9 ในการซ้อมครั้งแรกเมื่อช่วงสายของวันนี้ ทว่าในการซ้อมครั้งที่ 2 ซึ่งมีขึ้นในช่วงบ่ายที่ผ่านมา นักบิดไทยที่กำลังไล่กดเวลาดีขึ้นเรื่อยๆ กลับโดน ซัควาน ไซดี้ นักบิดมาเลเซียนชนท้าย ส่งผลให้พลาดล้มและไม่สามารถลงซ้อมต่อได้

วรพงศ์ หัวแถววันแรกของรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. เปิดเผยว่า “วันนี้ค่อนข้างพอใจกับเวลาที่ทำได้มากครับ ทีมงานของเราทำงานกันอย่างหนัก และค้นพบเซ็ตอัพที่ลงตัวกับรถแข่งคันใหม่ได้แล้ว เชื่อว่าในงันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นรอบควอลิฟายเราจะยังคงอยู่ในกลุ่มหัวแถวได้ ผมเองมีความรู้สึกดีมากในการขับขี่ เราห่างหายจากโพเดี้ยมมาสักระยะ และนี่คือโอกาสดีที่เราจะได้กลับขึ้นไปฉลองบนโพเดี้ยมต่อหน้าแฟนๆ ชาวไทยอีกครั้ง”

ด้าน มุกข์ลดา กล่าวว่า “โดยรวมวันแรกของการซ้อมเรามีความคืบหน้าของการทำงานมาก โดยเฉพาะฟีลลิ่งการขับขี่และการเซ็ตอัพที่ลงตัวมากๆ เวลาตามหลังกลุ่มหน้าไม่ถึงวินาที ทำให้มั่นใจว่าจะมีผลงานที่ดีในโฮมเรซ พรุ่งนี้เราต้องทำงานหนักกว่าเดิม เพื่อหาเวลาให้ดีขึ้น อยากขอกำลังใจจากชาวไทยทุกคนด้วยค่ะ”

สำหรับการแข่งขัน เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2017 สนามสุดท้าย จะทำการซ้อมครั้งที่ 3 และจับเวลารอบควอลิฟายในวันศุกร์ที่ 1 ธันวาคมนี้ ก่อนจะดวลความเร็วเรซแรกในวันเสาร์ที่ 2 ธันวาคมนี้ และแข่งขันเรซที่ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 3 ธันวามนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

เปิดตัว Moto Parilla อย่างเป็นทางการในงาน Motor Expo 2017

$
0
0

เปิดตัว Moto Parilla อย่างเป็นทางการในงาน  Motor Expo 2017

MotoParilla-TIME2017_1

บริษัทแม่ เจ้าของแบรนด์รถจักรยานยนต์พรีเมี่ยมคลาสสิคบินลัดฟ้าเปิดตัว “ Moto Parilla ” ร่วมกับ ฟิล์มรัฐภูมิ ในฐานะตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในไทย หลังลงทุนกว่า 50 ล้านบาท ขึ้นแท่นซีอีโอ ตั้งบริษัทฯ โชว์รูม รองรับการขยายตัวของตลาดให้คนไทย ในราคาที่สัมผัสได้ ฟุ้งใช้ไทยเป็นฐานการผลิตแบนรนด์ดังกล่าวเพื่อส่งออกกทั่วโลก หลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Motor Expo 2017 ภายใต้แนวคิด “ Scooter Classic never died ” ผู้ที่จองในงานจะได้ราคาแนะนำที่พิเศษที่สุดไม่ถึงหลักแสนเผยตั้งเป้าจำหน่ายปีแรกที่ 1,200 คัน

นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมโต พาริลล่า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากแรงบันดาลใจที่ตนเองเป็นคนที่ชอบขับรถจักรยานยนต์อยู่แล้ว จนได้มีโอกาสพบ มร. ซีโน่ ดีไซเนอร์ชื่อดังเจ้าของแบรนด์รถจักรยานยนต์พรีเมี่ยมคลาสสิค “ Moto Parilla ” สัญชาติอิตาลี จึงตัดสินใจลงทุนกว่า 50 ล้านบาท ตั้งบริษัท ฯ และอยู่ระหว่างการสร้างสำนักงานใหญ่ และโชว์รูม เพื่อจำหน่ายรถจักกรยานยนต์แบรนด์ดังกล่าว โดยวางตำแหน่งสินค้าที่เข้าถึงผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย ให้สามารถเป็นเจ้าของในราคาที่สัมผัสได้ ภายในแนวคิด “ความมีระดับ ที่สัมผัสได้ ” โดยเปิดให้จองอย่างเป็นทางการแล้วในงาน Motor Expo 2 รุ่น คือ ขนาด 150 ซีซี รุ่นโมโนโทน สีล้วน และรุ่นท้อป ทูโทน ในราคาแนะนำเริ่มต้นที่ 69,900 บาท เฉพาะในงาน Motor Expo ครั้งนี้เท่านั้น

MotoParilla-TIME2017_3

“ Moto Parilla เป็นทางเลือกใหม่ของคนที่ชื่นชอบสกู๊ตเตอร์คลาสสิคสไตล์ อิตาลี ผมรู้สึกว่ามันใช่เลย ด้วยรูปทรงรถ ด้วยตำนานของเค้า คนที่นิยมรถแบรนด์นี้จะทราบว่า ราคาจริงหลายแสน แต่ผมสามารถทำรถจักรยานยนต์ให้ดูดีมีระดับ และให้คนไทยสามารถเป็นเจ้าของได้อย่างง่ายดาย ในราคาไม่ถึงแสน ด้วยขนาดเครื่องยนต์ถึง 150 ซีซี ใช้ได้ทั้งชายและหญิง ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา ไปถึงคนวัยทำงาน ที่มีความชื่นชอบรถจักรยานยนต์สไตล์คลาสสิค หรือแม้กระทั่งกลุ่มที่ชอบตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น เพราะสามารถตกแต่งลวดลาย หรือสีสันตามที่ลูกค้าชื่นชอบ ผมชอบทำธุรกิจอยู่แล้วจึงมั่นใจว่าแบรนด์นี้ไปได้แน่นอน จะเห็นได้จากสถิติการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย พบว่า เป็นรถ scooter สูงถึง 45% นอกจากนี้ ในอนาคตเราจะสร้างเป็น Scooter Club จัดกิจกรรมที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์อย่างสร้างสรรค์ร่วมกันต่อไป ” นายรัฐภูมิกล่าว

นายรัฐภูมิ กล่าวถึงรูปแบบธุรกิจว่า จะเป็นการนำเข้าชิ้นส่วนรถมาประกอบที่โรงงานของ เดอะ สตาเลียน แบรนด์มอเตอร์ไซค์ของคนไทย แต่ระบบการประกอบ การดูแลหลังการขาย จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลจากบริษัทแม่ต้นสังกัด Moto Parilla ส่วนแผนธุรกิจ จะเริ่มต้นด้วยการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34 หรือ Motor Expo บูธ จี 12 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 11 ธันวาคมนี้ที่ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 เมืองทองธานี เพื่อนำเสนอและเปิดจองและรับสินค้าหลังจบงาน 30 วัน

MotoParilla-TIME2017_2

พร้อมกันนี้ อยู่ระหว่าง แต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย การสร้างพันธมิตร ไฟแนนซ์ ดีลเลอร์ รวมถึงลูกค้า การจัดกิจกรรมการตลาด การบริการดูแลหลังการขาย ในส่วนของ สำนักงานใหญ่ และโชว์รูม คาดว่าจะเสร็จในเดือนธันวาคมนี้ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 300 ตารางวา ใจกลางห้าแยกวัชรพล ในสไตล์ตู้คอนเทนเนอร์ ติดตั้งระบบโซล่าเซล พลังงานประหยัด และจะเป็นสถานีทดลองชาร์ตของรถไฟฟ้าที่ใช้โซล่าเซลล์แห่งแรกของประเทศไทย ระหว่างนี้จะใช้ศูนย์บริการหลังการขายของ เดอะ สตาเลี่ยนในกรุงเทพและปริมณทล ด้วยบริการรถเคลื่อนที่ 24 ชั่วโมง แจ้งตรงทาง call center ของศูนย์ Moto Parilla

มร. ซีโน่ พานาลารี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมโต พาริลล่า จำกัด บริษัทแม่ในอิตาลี กล่าวว่า ตนรู้จักคุณฟิล์มมาก่อนหน้านี้ ได้เห็นความเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ ที่มีวิสัยทัศน์ และเล็งเห็นโอกาสในการนำรถรุ่นนี้มาขยายตลาดในประเทศไทย จึงพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ และหากตลาดไปได้ดี ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะใช้ไทยเป็นฐานการผลิตส่งออกทั่วโลก ยิ่งไปกว่านั้น การที่เราใช้โรงงานประกอบชิ่นส่วนยานยนต์ของ สตาเลี่ยน กรุ๊ป ซึ่งมีประสบการณ์อย่างยาวนานหลายปี จึงมั่นใจว่า คุณภาพในการประกอบจะไม่ด้อยไปกว่าการนำเข้ารถทั้งคัน ซึ่งการประกอบในประเทศได้นี้เอง จึงทำราคาที่ตั้งไว้ไม่สูงเกินกว่าที่ทุกคนจะเป็นเจ้าของได้

นางอารีรัตน์ ศรีประทาย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พาวเวอร์ สตาเลียน จำกัด ในเครือ สตาเลียนกรุ๊ป กล่าวว่า การที่ บริษัท โมโต พาริลล่า (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับความเชื่อมั่นจากบริษัทแม่ที่อิตาลีให้ขยายตลาดในภูมิภาคนี้ และด้วยสตาเลียนกรุ๊ป ซึ่งมีโรงงานผลิต และประกอบรถจักรยานยนต์ถึง 2 แห่ง ที่ชลบุรี และสมุทรปราการ เราจึงมีศักยภาพการผลิตและรองรับการขยายการเติบโตได้อีกในอนาคต อีกทั้งเรายังเห็นความสำคัญในเรื่องคุณภาพสินค้า เป็นหัวใจสำคัญ จึงยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะร่วมมือกับโมโต พาริลล่า ( ประเทศไทย ) และบริษัทแม่ ซึ่งจะส่งผลให้สตาเลียนแข็งแกร่ง พัฒนาเติบโต และยกระดับพัฒนามาตรฐานสินค้ายิ่งขึ้น ตลอดจนการเป็นฐานผลิตให้กับแบรนด์ต่างชาติที่มีชื่อเสียงต่อไป

“ เรามีแผนรุก ปรับโครงสร้างด้านการพัฒนาคุณภาพ พัฒนาสินค้า การบริการหลังการขาย ที่จะตอบสนองความต้องการ ที่เกินความคาดหมายลูกค้า รวมถึงแผนการขายแผน การตลาดทั้งระยะสั้น ระยะกลาง แผนการขยายการเติบโต ทั้งในและต่างประเทศ เรามั่นใจว่าสตาเลียนจะสามารถทำยอดขายที่สูงขึ้น บริการที่รวดเร็วและประทับใจมากขึ้นอย่างแน่นอนหลังจากที่ร่วมมือกันในรูปแบบไตรภาคีครั้งนี้” นางอารีรัตน์ กล่าว

Yamaha มอบเงินสนับสนุนสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย

$
0
0

Yamaha มอบเงินสนับสนุนสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย

DCIM101GOPROGOPR4124.JPG

DCIM101GOPROGOPR4124.JPG

นายปิยะพงษ์ หวังใจสุข ผู้จัดการอาวุโส แผนกประชาสัมพันธ์ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด มอบเงินสนับสนุนทุนการศึกษา อุปกรณ์กีฬา และทุนสนับสนุนวันเกษียณอายุ ของผู้สื่อข่าว ช่างภาพ ผู้ช่วยช่างภาพ สายกีฬา ซึ่งเป็นสมาชิกสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย และเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้แก่ 9 โรงเรียนชาวเขา จังหวัดน่าน โดยมี นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นประธานในพิธีรับมอบ พร้อมด้วย นายสังเวียน บุญโต รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ดร.เลอภพ โสรัตน์ นายกสมาคมผู้สื่อข่าวแห่งประเทศไทย ดร.จำลอง อนันต์สุข นายกสมาคมช่างภาพ และผู้สื่อข่าวโทรทัศน์แห่งประเทศไทย พร้อมคณะผู้สื่อข่าวสายกีฬาจากทุกสำนักที่เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยงานครั้งนี้จัดขึ้น ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อเร็วๆ นี้


“อภิวัฒน์-อนุภาพ” คว้าโพลโฮมเรซ นักบิดไทยพาเหรดลุ้นแชมป์สองล้อเอเชีย

$
0
0

“อภิวัฒน์-อนุภาพ” คว้าโพลโฮมเรซ นักบิดไทยพาเหรดลุ้นแชมป์สองล้อเอเชีย

P2-SS600-Chalermpol_resize

ทัพนักบิดไทยสร้างผลงานยอดเยี่ยมในศึก เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2017 สนามสุดท้าย “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ผงาดคว้าโพล ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. ขณะ “ตี” อนุภาพ ซามูล จากสังกัดเดียวกันซิวหัวแถวรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. มีลุ้นคว้าแชมป์โฮมเรซต่อหน้าแฟนความเร็วชาวไทยในสุดสัปดาห์นี้ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ยิ่งสดผ่าน ทรูโฟร์ยู ช่อง 24

ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ทวีปเอเชีย รายการ เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2017 มีคิวดวลความเร็วสนามสุดท้ายที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 1-3 ธันวาคมนี้ โดยถือเป็นการปิดฉากฤดูกาลอันยิ่งใหญ่ในบ้านเกิดของนักบิดไทยทุกคน

ล่าสุดเป็นการแข่งขันรอบควอลิฟายของทุกรุ่น โดยเฉพาะในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. และ เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. ซึ่งมีนักบิดไทยลงแข่งขันอย่างคับคั่ง และมีลุ้นเรียกเสียงเฮจากแฟนๆ ชาวไทย ในสนามแข่งรถระดับโลกของคนไทย

ผลการควอลิฟายรุ่นใหญ่อย่าง ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. ไม่ทำให้แฟนความเร็วชาวไทยผิดหวัง เมื่อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ นักบิดดาวรุ่งชาวไทยในสังกัด ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ที่ลงแข่งขันด้วยสิทธิ์ไวด์การ์ด สามารถกดเวลามาเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 38.770 วินาที คว้าโพลโพซิชั่นไปครอง ขนาบข้างด้วยทีมเมทจอมเก๋าอย่าง เฉลิมพล ผลไม้ ขนาบข้างในกริดที่ 2 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 38.978 วินาที ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ แอนโธนี เวสต์ ยอดนักบิดออสเตรเลียนจาก อาเคโนะ สปีด เรซซิ่ง ด้วยเวลา 1 นาที 39.182 วินาที

ด้านนักบิดไทยคนอื่นๆ ทำผลงานได้ดีไม่แพ้กัน ฐิติพงศ์ วโรกร จาก คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม คว้ากริดที่ 5 ตามด้วย เดชา ไกรศาสตร์ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ในกริดที่ 6 ส่วน รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ จาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ได้ออกตัวจากกริดที่ 9 ตามด้วย เขมินทร์ คูโบะ ดาวรุ่งลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นจาก ยามาฮ่า เรซซิ่ง ในกริดที่ 14 ขณะที่ 2 นักบิดไวด์การ์ดอย่าง ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ จาก ทีเอชอาร์ซี ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม และนักสาวอย่าง รัชดา นาคเจริญศรี จาก ยามาฮ่า ทีเอส เรซซิ่ง ทีม ได้ออกตัวจากกริดที่ 18 และ 21 ตามลำดับ

ส่วนผลควอลิฟายในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. ยังคงเป็นนักบิดไทยที่คว้าโพลโพซิชั่นจากผลงานของ อนุภาพ ซามูล จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ด้วยเวลาต่อรอบเวลา 1 นาที 53.522 วินาที ขนาบข้างด้วยนักบิดสาวแกร่งอย่าง มุกข์ลดา สาระพืช จาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ในกริดที่ 2 ด้วยเวลา 1 นาที 54.070 วินาที ส่วน เจอร์รี่ ซาลิม จ่าฝูงชาวอินโดนีเซียนจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม ได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 3 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 54.200 วินาที

ขณะที่ พีระพงศ์ หลุยบุญเป็ง จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทำผลงานดีขึ้นขยับขึ้นมาออกสตาร์ทจากกริดที่ 5 หลังตามด้วย วรพงศ์ มาลาหวล จาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ คว้ากริดที่ 10 ตามด้วย พีระพงศ์ บุญเลิศ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีมได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 12

นอกจากนี้ ยังมีนักบิดไทยที่ลงแข่งขันด้วยสิทธิ์ไวด์การ์ดรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. ที่ทำผลงานในรอบควอลิฟายได้ดี โดย คณาทัต ใจมั่น จาก ยามาฮ่า ไฮสปีด วาชิ เรซซิ่ง ทีม ได้ออกตัวจากกริดที่ 22 ตามด้วย จิรกิตต์ ธีระนุพงษ์ จาก ทีม วัน ฟอร์ ออลล์ ในกริดที่ 24, เอกลักษณ์ เตสังข์ จาก ยามาฮ่า เค สปอร์ต ยามาลูบ เรซซิ่ง บอย ในกริดที่ 25 และ ชนะชัย บุญงาม จาก ยามาฮ่า เอซี ลูบริเท็กซ์ สปีด เคทีบี เบสต์เซลล์ ในกริดที่ 30

สำหรับการแข่งขัน เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2017 สนามสุดท้ายจะดวลความเร็วเรซที่ 1 ในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 2-3 ธันวาคมนี้ ซึ่งรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. จากแข่งขันในเวลา 14.05 น. ส่วนรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. จะแข่งขันในเวลา 15.05 น. ของทั้งสองวัน โดยแฟนความเร็วสามารถติดตามชมถ่ายทอดสดการแข่งขันผ่านทาง ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 ได้ในเวลา 14.00-16.00 น. ได้ทั้ง 2 วันของการแข่งขัน

“มุกข์ลดา” สาวแกร่งหนึ่งเดียวของไทย ออกสตาร์ทแถวหน้า มั่นใจคว้าโพเดี้ยม “เอเชีย โปรดักชั่น”

$
0
0

“มุกข์ลดา” สาวแกร่งหนึ่งเดียวของไทย ออกสตาร์ทแถวหน้า มั่นใจคว้าโพเดี้ยม “เอเชีย โปรดักชั่น”

Mook-ARRC2017

“มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช ยอดนักบิดสาวแกร่งชาวไทย สังกัด เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ โชว์ผลงานระดับมาสเตอร์ กดเวลาไล่บี้นักบิดชายชั้นนำของเอเชีย คว้ากริดที่ 2 ของศึก “เอเชีย โร้ด เรซซิ่งแชมเปี้ยนชิพ” สนามสุดท้าย ในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. เจ้าตัวมั่นใจมีลุ้นโพเดี้ยมต่อหน้าแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตในบ้านเกิด ขณะทีมเมท “เอ้” วรพงศ์ มาลาหวล ออกสตาร์ทกริดที่ 10 ด้าน “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ ฝืนอาการบาดเจ็บคว้ากริดที่ 9 รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. ก่อนลุ้นโพเดี้ยมที่ บุรีรัมย์ วันเสาร์-อาทิตย์นี้

ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ทวีปเอเชีย รายการ เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2017 มีคิวดวลความเร็วสนามสุดท้ายที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 1-3 ธันวาคมนี้ โดยจะแข่งขั้นทั้งสิ้น 2 เรซ เพื่อส่งท้ายฤดูกาลต่อหน้าแฟนความเร็วชาวไทย

โดยทัพนักบิด เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ที่เตรียมความพร้อมอย่างหนักก่อนเข้าสู่สัปดาห์การแข่งขัน สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในรอบซ้อมวันแรก ก่อนที่จะลงจับเวลารอบควอลิฟายในช่วงบ่ายของวันศุกร์ที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา

ผลการควอลิฟายในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. ปรากฏว่า “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช นักบิดสาวแกร่งชาวไทย หมายเลข 44 จาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ สร้างผลงานกระหึ่มเมื่อสามารถไล่บี้ทำเวลาเหนือกว่านักบิดชายชั้นนำของเอเชียได้อย่างสุดมันส์ ก่อนจะคว้ากริดที่ 2 มาครอง ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 54.070 วินาที ด้านทีมเมทอย่าง “เอ้” วรพงศ์ มาลาหวล นักบิดอารมณ์ดีหมายเลข 46 ประสบปัญหาเครื่องยนต์ ส่งผลให้ทำเวลาได้ดีที่สุดเพียงออกสตาร์ทจากกริดที่ 10 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 54.667 วินาที

ขณะที่ “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ ที่ลงแข่งในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. มีอาการบาดเจ็บบริเวณสะโพกและเอวจากการโดนชนในการซ้อมวันแรก ส่งผลต่อการขับขี่อย่างมาก ทว่านักบิดไทยยังกัดฟันบิดทำเวลาต่อรอบได้เป็นอย่างดี คว้ากริดสตาร์ทอันดับ 9 มาครอง ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 39.916 วินาที

ภายหลังจบการควอลิฟาย มุกข์ลดา เปิดเผยว่า “วันนี้ตั้งแต่การซ้อมช่วงที่ 3 มาจนถึงรอบควอลิฟาย รู้สึกดีมากขึ้นกับการเซ็ตอัพ ส่งผลให้ทำเวลาได้ดีขึ้นกว่าวันแรกมาก ค่อนข้างมั่นใจว่าจะสามารถคว้าโพเดี้ยมในบ้านเกิดได้ เพราะเรามีความค้นเคยกับสนามแข่ง และเสียงเชียร์ของแฟนๆ ชาวไทยจะทำให้นักบิดไทยทุกคนมีกำลังใจต่อสู้อย่างมาก รวมถึงตัว มุกข์ เองด้วย”

ด้าน วรพงศ์ กล่าวว่า “วันนี้เจอสถานการณ์ไม่เป็นใจเล็กน้อยครับ ช่วงแรกเราออกไปจับเวลาแล้วเจอนักบิดกลุ่มใหญ่ ส่งผลให้ไม่สามารถกดเวลาที่ต้องการได้ ก่อนจะกลับเข้าพิตเพื่อหาจังหวะที่ดีอีกครั้ง เมื่ออกไปสู่แทร็กก็เริ่มทำเวลาที่ลงตัวได้ แต่มีปัญหาเครื่องยนต์ก่อนทำให้เวลาไม่เร็วไปกว่าเดิม แต่เชื่อมั่นในทีมงาน ฮอนด้า ครับ ว่าจะสามารถแก้ไขทุกอย่างให้กลับมาสมบูรณ์ในการแข่งขันวันพรุ่งนี้ กริดที่ 10 ถือว่าไม่เลวร้ายเกินไป เพราะจากการซ้อมเรามั่นใจว่าสู้ได้ โพเดี้ยมคือเป้าหมายของเราที่อยากมอบเป็นของขวัญให้แฟนๆ ชาวไทยครับ”

สำหรับการแข่งขัน เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2017 สนามสุดท้ายในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. จะดวลความเร็วเรซแรกในวันเสาร์ที่ 2 ธันวาคมนี้ เวลา 14.05 น. ก่อนจะแข่งขันเรซสุดท้ายในวันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคมนี้ เวลา 14.05 น.

Kawasaki ดึง Jonathan Rea แชมป์ WSBK 3 สมัย มีตติ้งกับลูกค้า Ninja พร้อมยลโฉม Ninja H2 SX SE ครั้งแรก

$
0
0

Kawasaki ดึง Jonathan Rea แชมป์ WSBK 3 สมัย มีตติ้งกับลูกค้า Ninja พร้อมยลโฉม Ninja H2 SX SE ครั้งแรก

Kawasaki-Ninja-H2-SX-SE_14

บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำแห่งเทคโนโลยีรถจักรยานยนต์ จัดงาน Ninja Champion Raid Party เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าชาวนินจา และทางคาวาซากิยังมีเซอร์ไพรส์สุดพิเศษที่ได้เชิญ “โจนาธาน เรีย” แชมป์ FIM Superbike World Championship 3 ปีซ้อน ได้มาร่วมงานนี้อีกด้วย เพื่อเอาใจสาวกชาวนินจา

Rea

มร. ยาสุชิ คาวาคามิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในปีนี้คาวาซากิ ได้แสดงสมรรถนะที่ยิ่งใหญ่ให้บรรดาผู้ที่หลงใหลในกีฬามอเตอร์สปอร์ตทั่วโลกได้ประจักษ์ถึงสมรรถะภาพของรถอย่าง Ninja ZX-10RR ซึ่งโจนาธาน เรีย นั้น ประสบความสำเร็จด้วยการคว้าชัยชนะในการแข่งขัน World Superbike Championship ติดต่อกันเป็นสมัยที่สาม ขณะเดียวกันที่ประเทศไทย ติ้งโน้ต ฐิติพงศ์ วโรกร และรถ Ninja ZX-10RR ก็สามารถคว้าชัยชนะในการแข่งขัน FMSCT All Thailand Superbike Championship มาได้เช่นกันครับ ซึ่งเป็นการตอกย้ำสมรรถะภาพ ของรถจักรยานยนต์คาวาซากิได้เป็นอย่างดีครับ”

Kawasaki-Ninja-H2-SX-SE_18

นอกจากนี้ยังได้มีการนำรถ Kawasaki Ninja H2 SX SE มาให้ได้ยลโฉมจริงกันภายในงานอีกด้วย ซึ่ง Ninja H2 SX SE ถือเป็น รถเครื่องยนต์ซุปเปอร์ชาร์จ ในสไตล์ Sport Tourer คันแรกของโลก

Ninja-Party Rea Kawasaki-Ninja-H2-SX-SE_18 Kawasaki-Ninja-H2-SX-SE_14 Kawasaki-Ninja-H2-SX-SE_20 Kawasaki-Ninja-H2-SX-SE_21 Kawasaki-Ninja-H2-SX-SE_19

ROOM39 ร่วมแสดงความยินดี หลังกระแส Yamaha Finn ได้รับความนิยมไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว

$
0
0

ROOM39 ร่วมแสดงความยินดี หลังกระแสยามาฮ่า ฟินน์ ได้รับความนิยมไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว

Yamaha-PR

นางสาวจินตนา อุดมทรัพย์ (คนที่ 3 จากซ้าย) ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ถ่ายภาพร่วมกับวง ROOM39 พรีเซ็นเตอร์รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟินน์ นำโดย ทอม-อิศรา กิจนิตย์ชีว์, มน-ชุติมน วิจิตรทฤษฎี และ โอ-โอฬาร ชูใจ ซึ่งได้เข้ามอบช่อดอกไม้ร่วมแสดงความยินดีกับยามาฮ่าในโอกาสที่รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟินน์ “ฟินน์กว่า…ก็โดนกว่า” ได้รับความนิยมไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว และสามารถทำยอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา โดยการมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีครั้งนี้มีขึ้น ณ บูธ Yamaha Riders’ Community ในงาน The 34th Thailand International Motor Expo 2017 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 G03 เมืองทองธานี เมื่อเร็วๆ นี้

เพลงชาติไทยกระหึ่ม! “อภิวัฒน์” ผงาดแชมป์โฮมเรซ นักบิดไทยพาเหรดขึ้นโพเดี้ยม

$
0
0

เพลงชาติไทยกระหึ่ม! “อภิวัฒน์” ผงาดแชมป์โฮมเรซ นักบิดไทยพาเหรดขึ้นโพเดี้ยม

SS600 (3)_resize

“แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ ยอดนักบิดดาวรุ่งไทยจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ผงาดคว้าแชมป์ศึกสองล้อชิงแชมป์เอเชีย รุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. เรซแรก ส่วน “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร จาก คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ขึ้นโพเดี้ยมอันดับ 3 ด้าน “ตี” อนุภาพ ซามูล ดาวรุ่งจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม คว้าอันดับ 2 รุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. เรียกเสียงเฮสนั่น สนามช้างฯ จ.บุรีรัมย์

การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย รายการ เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2017 สนามสุดท้าย มีคิวดวลความเร็วระหว่างวันที่ 1-3 ธันวาคมนี้ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระยะทางต่อรอบ 4.554 กิโลเมตร เมื่อวันเสาร์ที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา เป็นการชิงชัยเรซแรกของรุ่นไฮไลต์อย่าง ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. แข่งขันทั้งสิ้น 18 รอบสนาม

กริดสตาร์ทเรซนี้มีนักบิดไทยอย่าง อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม เป็นเจ้าของโพล ขนาบข้างด้วยทีมเมทอย่าง เฉลิมพล ผลไม้ ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ แอนโธนี เวสต์ ดาวบิดออสซี่จาก อาเคโนะ สปีด เรซซิ่ง

ออกสตาร์ทเรซในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. เป็น อาซลัน ชาร์ นักบิดจอมเก๋าชาวมาเลเซียนที่ทะยานขึ้นมาเป็นผู้นำ แต่เพียงในรอบที่ 2 อภิวัฒน์ ก็สามารถทวงหัวแถวคืนมาได้สำเร็จ ก่อนที่ เฉลิมพล จะขยับขึ้นมารั้งอันดับ 2 ในรอบเดียวกันนี้

เกมการแข่งขันมาเข้มข้นสุดๆ ในช่วง 5 รอบสุดท้าย โดยแชมป์ตกเป็นของ อภิวัฒน์ ที่เสียบแซง เวสต์ ได้ในโค้งสุดท้าย ปาดหน้าเข้าป้ายเป็นอันดับแรกคว้าแชมป์โฮมเรซไปครองอย่างสุดมันส์ เฉือน เวสต์ อันดับ 2 เพียง 0.180 วินาที เท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ฐิติพงศ์ ตามหลังแชมป์ 0.135 วินาที

ขณะ เฉลิมพล ที่สามารถขยับขึ้นเป็นผู้นำได้ 2 รอบการแข่งขัน จบเรซแรกที่สนามช้างฯ ด้วยอันดับ 4 ตามหลังแชมป์เพียง 0.497 วินาทีเท่านั้น ด้าน เดชา ไกรศาสตร์ จอมเก๋าอีกคนจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม สะดุดเล็กน้อยในช่วงแรกของการแข่งขัน ก่อนที่จะค่อยๆ ไล่บี้คู่แข่งขึ้นมาคว้าอันดับ 6 ด้าน รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ จาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ฝืนอาการบาดเจ็บจบเรซในอันดับ 8 ตามหลังแชมป์ 13.026 วินาที

ส่วนผลการแข่งขันในเรซแรกของ เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. ปรากฏว่าแชมป์ตกเป็นของ เรซ่า ดานิก้า อาห์เรนส์ ดาวรุ่งชาวอินโดนีเซียนจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม ด้วยเวลา 19 นาที 7.754 วินาที เฉือนนักบิดไทยอย่าง อนุภาพ ซามูล จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ที่ตามเข้าป้ายในอันดับ 2 เพียง 0.211 วินาที ด้านอันดับ 3 เป็นของ โทโมโยชิ โคยาม่า นักบิดญี่ปุ่นจาก รามา ฮอนด้า ตามหลังแชมป์ 0.357 วินาที

ขณะที่ เจอร์รี่ ซาลิม จ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม ที่ต้องการเพียง 13 คะแนน ก็จะคว้าแชมป์ประจำปีไปครอง โดย ซาลิม ไม่ทำให้ทีมงาน ฮอนด้า ผิดหวังเข้าป้ายในอันดับ 4 เพียงพอที่จะคว้าแชมป์เอเชีย ตั้งแต่เรซแรกที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

ด้านนักบิดไทยคนอื่นๆ ฮึดสู้อย่างสุดความสามารถ วรพงศ์ ไต่จากกริดที่ 10 ขึ้นมาคว้าอันดับ 5 ได้สำเร็จ ตามหลังแชมป์ 7.205 วินาที ตามด้วย พีระพงศ์ หลุยบุญเป็ง และ พีระพงศ์ บุญเลิศ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ในอันดับ 6 และ 7 ส่วน มุกข์ลดา สารพืช ฟอร์มดีบิดดวลกับนักบิดชายชั้นนำของเอเชียได้อย่างสุดมันส์ คว้าอันดับ 8 ไปครอง ตามหลังแชมป์ 8.216 วินาที

สำหรับการแข่งขัน เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2017 สนามสุดท้ายเรซที่ 2 จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคมนี้ โดยรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. จะออกสตาร์ทในเวลา 14.05 น. ส่วนรุ่นใหญ่อย่าง ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. จะดวลในเวลา 15.05 น. ถ่ายทอดสดทาง ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 เวลา 14.00-16.00 น.

รีวิว Honda CB150R ขี่ในเมือง สนุกมันส์ ฟีลลิ่งเหมือนขี่ตัวใหญ่ แต่น้ำหนักเบาคล่องตัวในแบบรถเล็ก

$
0
0

รีวิว Honda CB150R ขี่ในเมือง สนุกมันส์ ฟีลลิ่งเหมือนขี่ตัวใหญ่ แต่น้ำหนักเบาคล่องตัวในแบบรถเล็ก

Honda-CB150R-Review_083

ทางค่ายปีกนก Honda ผู้นำรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย ได้จัดเซอร์ไพรส์ เปิดตัวรถ Honda CB150R ครั้งแรกในโลก กับรถสไตล์ Modern cafe ที่ได้รับกระแสนิยมในตลาดยุคปัจจุบัน ซึ่งการมาของ Honda CB150R ExMotion นี้ เรียกได้ว่าสร้างกระแสฮือฮาไม่น้อย เนื่องจากการจัดเต็มในเรื่องของออปชั่นตัวรถทั้งหมด ที่เกินหน้าเกินตารถในคลาสเดียวกัน ไปจนถึงรุ่นพี่ BigBike ในระดับ 650cc เลยทีเดียว

Pon-Red-CB150R_4

และก่อนหน้านี้ทางทีมงาน 9carthai เราได้ทดสอบเจ้า Honda CB150R รถสไตล์ Modern Cafe จากค่ายปีกนก แบบ 1st impression ในสนามทดสอบกันไปแล้วก่อนหน้านี้ (อ่านได้ที่นี่)  ในวันนี้เราได้มีโอกาสมาทดสอบเต็มอีกครั้งกับการทดสอบแบบใช้งานในเมือง ที่ไม่ต้องเน้นความเร็วสูงกันบ้าง Honda CB150R โมเดิร์นคาเฟ่ ออปชั่นเต็มคันนี้ จะเป็นเช่นไรมาติดตามกันครับ

เริ่มกันที่รูปลักษณ์

Honda-CB150R-Review_072

CB150R ให้ไฟหน้ากลมแบบ Full LED ตามสไตล์รถโมเดิร์คาเฟ่ สมัยใหม่ หล่ออย่างมีสไตล์

Honda-CB150R-Review_053

ตัวไฟท้าย รวมถึงไฟเลี้ยวให้มาเป็นแบบ LED ไม่น้อยหน้าใคร

Honda-CB150R-Review_065

ถังน้ำมันโชว์ดีไซน์ เด่นแบบมัดกล้ามเนื้อ Muscular Design

Honda-CB150R-Review_047

ดีไซน์ท่อไอเสียออกใต้ท้องสั้น สุดเท่ ในแบบรถสปอร์ตยุคสมัยนี้ ซึ่งช่วยในเรื่องจุดศูนย์ถ่วงที่ดีอีกด้วย

Honda-CB150R-Review_061

แผงหม้อน้ำขนาดกระทัดรัดดูสวยงามคล้าย Oil Cooler

Honda-CB150R-Review_049

ตัวสวิงอาร์มเป็นแบบ Light Weight ช่วยลดน้ำหนักตัวรถให้เบาลงไปอีก

Honda-CB150R-Review_054

มาตรวัดดิจิตอล Full LCD Backlight บอกข้อมูลครบถ้วน โดยความเร็วเป็นตัวเลข, รอบเครื่องเป็นสเกลวิ่งทางด้านบน มี Redline@10,500rpm, มีเลขบอกตำแหน่งเกียร์, เกจ์น้ำมัน, นาฬิกา, ไฟ Shift Light เตือนการเปลี่ยนเกียร์

Honda-CB150R-Review_034

สำหรับมิติตัวรถนั้น
มีความกว้างxยาวxสูง = 822 x 1,973 x 1,053 มม.
ระยะฐานล้อ 1,296 มม.
ความสูงเบาะ 795 มม.
มี นน.ตัว 125 กก. (Net)

ความจุถังน้ำมัน 8.5 ลิตร

Honda-CB150R-Review_012

ท่านั่งในการขี่ใช้งานในเมือง

ตำแหน่งแฮนด์บาร์ มีขนาดความกว้างเล็กน้อย เหมาะสมกำลังดี ข้อศอกหย่อนพอประมาณ ท่ากำลังดูสบายไม่เมื่อย

Honda-CB150R-Review_014

ขณะที่ความสูงเบาะ 795 มม. ถือได้ว่าเป็นความสูงในระดับรถ Modern Cafe ทั่วๆไป ซึ่งตัวผู้ขี่เองมีความสูง 174 ซม. เหยียบได้เต็มเท้าสบายๆ

Honda-CB150R-Review_004

การขี่ใช้งานในเมืองนัั้นทำได้ดี การขี่ลัดเลาะในจังหวะที่มีช่องพร้อมแซง สามารถพลิกรถและไปตามช่องทางได้อย่างคล่องแคล่ว จากน้ำหนักที่เบา และขนาดช่วงลำตัวทรถที่ไม่ใหญ่จนเกินไป แต่เมื่อเข้าสู่พื้นที่ที่จราจรติดขัดแบบไม่ขยับ ด้วยตัวรถที่ช่วงแฮนด์บาร์ อยู่ในระดับเดียวกับกระจกรถยนต์  รวมถึงช่วงแฮนด์ที่ดูกางยาวเล็กน้อย บวกกับตุ้มปลายแฮนด์ที่ค่อนข้างยาว ทำให้การมุดการจราจร อาจลำบากเนื่องจากตัวแฮนด์อยู่ในระดับเดียวกับรถยนต์ทั่วไป

Honda-CB150R-Review_046

ขุมพลังเครื่องยนต์ สูบเดี่ยว ความจุ 150cc DOHC 4 วาล์ว มาพร้อมหม้อน้ำ

ให้กำลังในการตอบสนองช่วงต้นเรียกได้ว่าจี๊ดจ๊าดไม่น้อยหน้ารถคันใดเมื่อต้องออกตัวไฟแดง แรงบิดรีดออกมาแบบทันไม้ทันมือตั้งแต่รอบต่ำสำหรับการเร่งแซง เรียกได้ว่าพละกำลังมีเพียงพอเหลือเฟือกับการขี่ใช้งานในเมือง อัตราเร่งในย่านเครื่อง ต้น-กลาง แรงบิดดีติดมือ จัดจ้านขี่สนุก ขณะที่ช่วงรอบปลายนั้นเรียกได้ว่าแม้จะไม่หวือหวา แต่ก็มาเรื่อยๆ ช่วงเกียร์ 6 ความเร็วปลายจากที่เราได้เคยทดสอบไปก่อนหน้านี้ มีเกือบทะลุ 140 กม./ชม.  สำหรับการใช้งานใน กทม. ช่วงวิ่งทางยาวๆ ลงสะพานสามารถทำความเร็วได้ถึงระดับ 130 กม./ชม. ได้อย่างไม่ยากเย็น เรียกได้ว่ายังมีไหลเรื่อยๆ ถ้ามีทางยาวพอ

Honda-CB150R-Review_066

*สำหรับค่าอัตราสิ้นเปลืองจากการใช้งานจริง จะอยู่ที่ราว 35 กม./ลิตร ซึ่งเทียบกับถังน้ำมันขนาด 8.5 ลิตร นั่นทำให้การขี่เดินทางไกลทำได้ราวๆ 300 กม. เลยทีเดียว

Honda-CB150R-Review_107

 สำหรับออปชั่นในด้านการควบคุมตัวรถนั้น เรียกได้ว่าจัดเต็ม เกินหน้าเกินตา Bigbike 650cc ของค่ายเลยทีเดียว เพราะออปชั่น CB150R นี้ ยกออปชั่นในระดับเดียวกับ Honda X-ADV

Honda-CB150R-Review_064

เริ่มที่โช้คอัพหน้า UpSideDown ขนาด 41 ม.ม.  จาก Showa ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานดีเยี่ยม ทั้งในส่วนของการซับแรง และการยึดเกาะ หน้าไม่ดีด แน่นเฟิร์มมั่นใจได้ เมื่อต้องเจอลูกระนาด หรือ พื้นผิวที่ขรุขระ

Honda-CB150R-Review_067

ตัวโช้กหลัง Monoshock นิ่มพอประมาณ ไม่ถึงกับย้วย กำลังนั่งสบาย สำหรับรถสไตล์ Modern cafe

Honda-CB150R-Review_062

จานเบรกหน้า Floating Disc ขนาด 296 มม. ปั๊มเบรกหน้า Radial Mount 4 ลูกสูบ จาก Nissin (ปั๊มเบรกแบบเดียวกับ X-ADV) โดยระบบเบรกแม้จะเป็นจานดิสก์เดี่ยว แต่ตัวแม่ปั๊มถือว่าให้มา เกินหน้าเกินตารุ่นพี่ระดับ CB500F กันเลย น้ำหนักเบรกหนักแน่นดีมั่นใจเต็มเปี่ยม และไม่ต้องพะวงเรื่องเบรกกระทันหัน เพราะ ในรุ่น ABS คันนี้ ยกระบบ G- Sensor  ระดับ Superbike CBR1000RR มากันเลย ต่อให้เบรกกระทันหัน หรือเบรกหนังบนพื้นลื่นเวลาฝนตก ก็ไม่มีพลิกคว่ำ ท้ายไม่ยกปลอดภัย

Honda-CB150R-Review_051

นอกจากนี้ตัวยางหลังที่สวมใส่ขนาด 150/60/R17  ถือได้ว่าไม่มีคันใดในคลาส 150cc ที่ให้ยางหลังหน้ากว้างขนาดนี้แล้ว ช่วยให้ดูสวยงาม เมื่อมองจากบั้นท้ายดูแน่นเต็ม รวมไปถึงการยึดเกาะในทางโค้งมีพื้นที่ Grip ในการเข้าโค้งที่มากกว่ารถพิกัด 150cc คันอื่นอีกด้วย

Honda-CB150R-Review_088

โดยรวมแล้วการขี่ควบคุมตัวรถ CB150R นั้น ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยม ขอบคุณน้ำหนักตัวรถ ที่เบาแสนเบา แม้จะอัดออปชั่นขนาดรถใหญ่มาถึงเพียงนี้ มันจึงพลิ้ว คล่องตัวเมื่อขี่ในโค้งยิ่งสนุก เพราะควบคุมได้ง่าย องศาแฮนด์ในระดับที่พอเหมาะออกเตี้ยนิดๆ ช่วยให้การหักแฮนด์ในจังหวะเลี้ยวทำได้ดียิ่งขึ้น

Honda-CB150R-Review_077

สรุป รีวิว Honda CB150R หลังจากที่ได้ทดลองขี่กันแบบเต็มๆ ทั้งในสนามและถนน เราพบว่ามันเป็นรถสไตล์ Modern cafe ในพิกัด 150cc ที่ขี่สนุก มากที่สุด มีจุดเด่นในเรื่องของการควบคุมที่ดี และเบา ออปชั่นจัดเต็มทำให้เรารู้สึกเหมือนขี่รถใหญ่ ในร่างรถเล็ก ที่มีรูปร่างหน้าตาเทียบเท่ารถใหญ่ และหล่อเหลาะแถมทันสมัยด้วยเทคโนโลยีต่างๆ

Honda-CB150R-Review_102

ออปชั่นที่จัดเต็มขนาดนี้ หากเทียบกับราคาแล้วก็ต้องถือว่าไม่แพงแล้วล่ะ อยากได้รถสเป็กออปชั่นสูง แบบจบในคันเดียวไม่ต้องอัพเกรด ทั้งรูปลักษณ์ และสมรรถนะ

Honda CB150R ABS คันนี้ล่ะครับ ที่จบสุดแล้วในคลาส 150cc ในประเทศ ณ ขณะนี้

Honda-CB150R-Review_023

โดย Honda CB150R รุ่น STD เริ่มต้นที่ 99,800 บาท และเพิ่มเงินหนึ่งหมื่นบาท ในรุ่น ABS G-Sensor คันที่เราทดสอบนี้อยู่ที่ 109,800 บาท

Honda จัด โปรโมชั่นพิเศษสำหรับ Honda CB150R ในงาน Motor Expo 2017
– ดาวน์เพียง 4,980 บาท ออกรถได้เลย
– ผ่อนเริ่มต้นเพียง 2,980 บาท/เดือน (48 เดือน)
– ราคาเงินสดเริ่มต้นที่ 99,800 บาท

สนใจจองรถสามารถสอบถามกับทีมงานฮอนด้าในงาน  Motor Expo 2017 ได้เลย หรือคลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่  www.aphonda.co.th และ www.facebook.com/hondabigbikeTH

Honda-CB150R-Review_112

ขอขอบคุณ A.P.Honda สำหรับรถทดสอบ CB150R ในครั้งนี้
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver 9carthai
อำพล มูลทองสุข Photos

Honda-CB150R-Review_023 Honda-CB150R-Review_020 Honda-CB150R-Review_025 Honda-CB150R-Review_034 Honda-CB150R-Review_037 Honda-CB150R-Review_038 Honda-CB150R-Review_041 Honda-CB150R-Review_040 Honda-CB150R-Review_042 Honda-CB150R-Review_039 Honda-CB150R-Review_031 Honda-CB150R-Review_033 Honda-CB150R-Review_077 Honda-CB150R-Review_082 Honda-CB150R-Review_083 Honda-CB150R-Review_084 Honda-CB150R-Review_093 Honda-CB150R-Review_091 Honda-CB150R-Review_086 Honda-CB150R-Review_088 Honda-CB150R-Review_102 Honda-CB150R-Review_107 Honda-CB150R-Review_111 Honda-CB150R-Review_112 Honda-CB150R-Review_099 Honda-CB150R-Review_100 Honda-CB150R-Review_075 Honda-CB150R-Review_072 Honda-CB150R-Review_043 Honda-CB150R-Review_044 Honda-CB150R-Review_052 Honda-CB150R-Review_053 Honda-CB150R-Review_068 Honda-CB150R-Review_070 Honda-CB150R-Review_065 Honda-CB150R-Review_058 Honda-CB150R-Review_054 Honda-CB150R-Review_056 Honda-CB150R-Review_057 Honda-CB150R-Review_059 Honda-CB150R-Review_064 Honda-CB150R-Review_060 Honda-CB150R-Review_061 Honda-CB150R-Review_067 Honda-CB150R-Review_062 Honda-CB150R-Review_063 Honda-CB150R-Review_048 Honda-CB150R-Review_046 Honda-CB150R-Review_045 Honda-CB150R-Review_066 Honda-CB150R-Review_047 Honda-CB150R-Review_071 Honda-CB150R-Review_049 Honda-CB150R-Review_051 Honda-CB150R-Review_050 Honda-CB150R-Review_004 Honda-CB150R-Review_009 Honda-CB150R-Review_012 Honda-CB150R-Review_014 Honda-CB150R-Review_015

“อภิวัฒน์” เบิ้ลแชมป์โฮมเรซ “อนุภาพ” ฉลองโพเดี้ยมส่งท้าย เอเชีย โรด เรซซิ่ง

$
0
0

“อภิวัฒน์” เบิ้ลแชมป์โฮมเรซ “อนุภาพ” ฉลองโพเดี้ยมส่งท้าย เอเชีย โรด เรซซิ่ง

SS600-Race2 (4)_resize

“แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ ดาวบิดไทยจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม โชว์ฟอร์มระดับโลก บิดนำม้วนเดียวจบคว้าแชมป์ ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. 2 เรซติดต่อกัน ขณะ “ตี” อนุภาพ ซามูล จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม คว้าอันดับ 2 เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. ฉลองโพเดี้ยมส่งท้ายศึก เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2017 สนามสุดท้าย เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ จ.บุรีรัมย์

การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย รายการ เอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2017 สนามสุดท้าย มีคิวดวลความเร็วระหว่างวันที่ 1-3 ธันวาคมนี้ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระยะทางต่อรอบ 4.554 กิโลเมตร โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา เป็นการชิงชัยเรซที่ 2 ของรุ่นไฮไลต์อย่าง ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซี.ซี. แข่งขันทั้งสิ้น 18 รอบสนาม

ผลการแข่งขันปรากฏว่า อภิวัฒน์ ที่ออกตัวจากโพลทะยานขึ้นนำได้อย่างรวดเร็ว ก่อนบิดนำม้วนเดียวจบเข้าป้ายเป็นคันแรก คว้าแชมป์ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยเวลา 29 นาที 53.158 วินาที โดยนับเป็นการคว้าแชมป์โฮมเรซในรุ่น ซูเปอร์ปอร์ต 600 ซี.ซี. 2 เรซ ติดต่อกัน ทิ้งห่าง แอนโธนี เวสต์ อดีตนักบิดโมโตจีพีชาวออสเตรเลียนจาก อาเคโนะ สปีด เรซซิ่ง อันดับ 2 ถึง 2.391 วินาที ทำเวลาได้ 29 นาที 53.158 วินาที ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ อาซลัน ชาร์ อดีตนักบิดโมโตทูชาวมาเลเซียนจาก แมนวล เทค เควายที เรซซิ่ง ตามหลังแชมป์ 5.902 วินาที พร้อมกับคว้าแชมป์ประจำปีไปครองได้สำเร็จ

ส่วนนักบิดไทยอย่าง เฉลิมพล ผลไม้ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม เข้าป้ายในอันดับ 4 ตามหลังแชมป์ 6.385 วินาที ตามด้วย ฐิติพงศ์ วโรกร จาก คาวาซากิ ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ในอันดับ 5 ตามหลังแชมป์ 6.498 วินาที และ เดชา ไกรศาสตร์ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ในอันดับ 6 ตามหลังแชมป์ 15.868 วินาที ด้าน รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ จาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ จบการแข่งขันอันดับ 11 ตามหลังแชมป์ 20.653 วินาที

โดยผลการแข่งขันในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. ซึ่งดวลความเร็วทั้งสิ้น 10 รอบสนาม ปรากฏว่าแชมป์ตกเป็นของ โทโมโยชิ โคยาม่า อดีตนักบิดโมโตจีพีชาวญี่ปุ่นจาก รามา ฮอนด้า ด้วยเวลา 19 นาที 9.799 วินาที เฉือน อนุภาพ ซามูล ดาวรุ่งจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม หน้าเส้นชัยเพียง 0.040 วินาที เท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ เจอร์รี่ ซาลิม แชมป์ประจำปีชาวอินโดนีเซียนจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม ตามหลังแชมป์ 7.733 วินาที

ด้าน พีระพงศ์ หลุยบุญเป็ง และ พีระพงศ์ บุญเลิศ นักบิดไทยจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ไล่บี้กับกลุ่มกลางอย่างสุดมันส์ คว้าอันดับ 4 และ 5 ตามลำดับ ตามหลังแชมป์คนละ 8.577 วินาที และ 8.661 วินาที เฉียดการขึ้นโพเดี้ยมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ขณะที่ วรพงศ์ มาลาหวล จาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ออกสตาร์ทจากกริดที่ 9 ทะยานขึ้นมาจบการแข่งขันในอันดับ 6 ขณะที่ มุกข์ลดา สารพืช ยอดนักบิดสาวไทย มีลุ้นโพเดี้ยมตลอดการแข่งขัน ทว่าในรอบสุดท้ายโดนคู่แข่งเบียดในโค้งทำให้เสียจังหวะ ก่อนนำรถเข้าป้ายในอันดับ 8 เพียงพอที่จะคว้าแต้มส่งท้ายฤดูกาล 2017 สำหรับ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่จากการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2017 โดยได้รับความไว้วางใจให้เป็นสนามปิดท้ายฤดูกาล และจัดงานฉลองแชมป์ประจำปีอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน


TRIUMPH Tiger 800 XCA 2018 “เจ้าเสือสายลุย”

$
0
0

TRIUMPH Tiger 800 XCA 2018 “เจ้าเสือสายลุย”

TRIUMPH Tiger 800 XCA 2018

TRIUMPH Tiger 800 XCA 2018

เครื่องยนต์ : เป็นแบบ 3 สูบ 12 วาล์ว DOHC

ระบบระบายความร้อน : ด้วยน้ำ

ขนาดความจุ : 799 ซีซี.

ขนาดกระบอกสูบ x ระยะชัก : 74.1 x 61.9 มม.

ระบบจ่ายเชื้อเพลิง : ด้วยระบบหัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์ EFI พร้อมด้วยระบบ Rude-by-Wire ที่ช่วยคำนวณอัตราการสั่งจ่ายน้ำมัน

ชุดเกียร์ : แบบธรรมดา 6 สปีด

คลัทช์ : ไฮดรอลิคเป็นแบบเปียก

สตาร์ทเครื่องด้วย : ระบบไฟฟ้า

ระบบขับเคลื่อน : โซ่และสเตอร์

กำลังสูงสุด : 95 แรง ที่รอบ 9,250 รอบ/นาที

แรงบิดสูงสุด : 79 นิวตัน-เมตร ที่ 7,850 รอบ/นาที

ระบบพิเศษ : TRIUMPH Tiger 800 XCA ยังมีระบบ (TTC) Triumph Traction Control ที่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานทำงานร่วมกับโหมดการขับขี่ 3 แบบโดยนอกเหนือจากโหมดปกติแล้วยังมี Rain-Sport และ Off Road ในส่วนของระบบ Traction Control จะปรับอัตโนมัติเพื่อให้เหมาะสมกับการขับขี่บนถนนและทางฝุ่น Cruiser Control จะเป็นโหมดควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมทั้งเสริมความปลอดภัยด้วยระบบ ABS

เฟรม : เป็นท่อเหล็กทรงกลมที่ให้ความแข็งแรงทนทาน

ไฟหน้า : เป็นแบบ 2 ดวง ขนาดใหญ่ดีไซน์เฉียบ

ไฟตัดหมอก : เป็นแบบ LED

ไฟท้าย : ทับทิมแดงทรงเหลี่ยม

แผ่นบังลม : แบบใสปรับองศาได้ด้วยระบบมือหมุน

เรือนไมล์ : ดิจิตอลแบบ LED ที่แสดงผลแบบคอมพิวเตอร์ออนบอร์ด มีทั้งค่าความเร็ว ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง อุณหภูมิระดับเกียร์

แฮนด์ : เป็นแบบกริ๊ปอุ่นมือ พร้อมการ์แฮนด์

เบาะนั่ง : เป็นแบบ แบ่ง 2 ระดับ สไตล์ทัวร์ริ่ง (สามารถปรับความสูงได้)

ใต้เบาะ : มีช่องเสียบเพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์พกพาขนาด 12 V และช่องเสียบ USB 5 V

ท่อไอเสีย : ออกแบบสวยงามเข้ากันกับตัวรถ

มิติตัวรถ
– กว้าง/ยาว/สูง : 865/2,215/1,390-1,400 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงเบาะนั่ง : 845 มม.
– ระยะห่างฐานล้อ : 1,545 มม.
– ความจุถังน้ำมัน 19 ลิตร
– น้ำหนักตัวรถ 203 กิโลกรัม

วงล้อ/ยาง
– ด้านหน้า เป็นอะลูมิเนียมซี่ลวดขนาด 21 นิ้ว สวมยางไซส์ 90/90-21 นิ้ว
– ด้านหลัง เป็นอะลูมิเนียมซี่ลวดขนาด 17 นิ้ว สวมยางไซส์ 150/70-17 นิ้ว

ระบบกันสะเทือน (ถูกออกแบบมาให้รองรับได้ทั้งการขับขี่แบบแบบลุย)
– ด้านหน้า เป็นช็อคอับแบบเทเลสโคปิคหัวกลับ ขนาด 45 มม. ของ WP ปรับตั้งค่าได้ ระยะการทำงาน 220 มม.
– ด้านหลัง แบบเดี่ยว ของ WP เช่นกัน ปรับตั้งค่าความหนืดได้ ระยะการทำงาน 215 มม.

ระบบเบรค
– ด้านหน้า จานเบรกหน้าแบบคู่ ขนาด 308 มม. คาลิเปอร์ NISSIN 2 ลูกสูบ
– ด้านหลัง จานเบรคเดี่ยวขนาด 255 มม. คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ มีระบบ ABS (ที่สามารถเลือกเปิด/ปิดได้)

TRIUMPH เป็นค่ายรถที่มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และออกแบบให้ตรงใจผู้ใช้งาน และผลิตออกมาให้ผู้ที่ชืนชอบการเดินทางท่อเที่ยวสไตล์ Adventure พร้อมกับลุยได้ทุกเส้นทาง แต่ถ้าหากไม่ต้องการรถที่มีขนาดใหญ่เกินไปเพราะจะทำให้ไม่คล่องตัว ก็ยังมีตัวเลือกขนาดกลางอย่าง TRIUMPH Tiger 800 XCR ออกมาให้เลือกใช้งานขับขี่

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก www.totalmotorcycle.com และ www.zigwheels.com

1234958761011

HUSQVARNA FE 350 2018 “ม้าศึกชั้นยอดในสายทางฝุ่น”

$
0
0

HUSQVARNA FE 350 2018 “ม้าศึกชั้นยอดในสายทางฝุ่น”
HUSQVARNA FE 350 2018
HUSQVARNA FE 350 2018

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ สูบเดียว

ระบบระบายความร้อน : ด้วยหม้อน้ำ

ขนาดความจุ : 349.7 ซีซี.

กระบอกสูบ X ระยะชัก : 88 X 57.5 มม.

ระบบจ่ายเชื้อเพลิง : หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ DFI

เรือนลิ้นเร่งขนาด : 44 มม.

เกียร์ : แบบธรรมดา 6 สปีด

คลัทช์ : เป็นแบบเปียก Wet Multi-Disc Clutch DDS สั่งงานด้วยระบบไฮดรอลิค

สตาร์ทเครื่องด้วย : ระบบไฟฟ้า

ขับเคลื่อนด้วย : โซ่/สเตอร์

เฟรม : โครงสร้างของเฟรมถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน ด้านหน้าจะเป็นท่อเหล็กทำจากวัสดุผสมที่ให้ความแข็งแรงทนทานแต่น้ำหนักเบา ไม่เป็นสนิมและทนต่อแรงกระแทกได้อย่างเี ส่วนซับเฟรมท้ายรถจะเป็นการขึ้นรูปด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ ที่มีน้ำหนักเบาและเหนียวพอที่จะรับแรงกระแทกเวลาขับขี่

ไฟหน้า : ดวงเดียวที่ใช้ส่องสว่างในการขับขี่ในที่มืด

เรือนไมล์ : เป็นแบบดิจิตอล เอาไว้บอกสถานะ รอบเครื่องยนต์ ความเร็ว ตำแหน่งของเกียร์ และสัญญาณไฟต่างๆ

เบาะนั่ง : ทรงบางได้เน้นความนิ่มสบายเพราะส่วนใหญ่จะยืนขี่

พักเท้า : เป็นแบบหนามแหลมช่วยยึดเกาะเวลาขับขี่

ท่อไอเสีย : เป็นแบบ 1:1 ปลายท่อเก็บเสียง

ชิ้นงานบอดี้พาร์ท
– การ์ดแกนช็อคอับหน้าซ้าย/ขวา
– บังโคลนหน้า
– หน้ากากไฟหน้า
– การ์ดแฮนด์ซ้าย/ขวา
– ปีกหม้อน้ำซ้าย/ขวา
– การ์ดรังผึ้งซ้าย/ขวา
– ถังน้ำมันเชื้อเพลิง
– เบาะนั่ง
– แป้นเบอร์ด้านข้างซ้าย/ขวา
– บังโคลนหลัง
– ชุดประกอบไฟท้ายและป้ายทะเบียน
– แผ่นกันกระแทกใต้ทองเครื่องยนต์
– การ์ดสเตอร์หน้า
– ตัวดันโซ่หน้าสเตอร์หลัง

มิติตัวรถ
– ระยะห่างฐานล้อ 1,490 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงตัวรถ 370 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงเบาะนั่ง 970 มม.
– ถังน้ำมันเชื้อเพลิง 8.5 ลิตร
– น้ำหนักรวม 109.3 กิโลกรัม

วงล้อ/ยาง
– ล้อหน้า เป็นอะลูมิเนียมซี่ลวดขนาด 1.60X21 สวมยาง 80/90-21
– ล้อหลัง เป็นอะลูมิเนียมซี่ลวดขนาด 2.15X18 สวมยาง 110/80-18

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า เทเลสโคปิคหัวกลับจาก WP ขนาด 48 มม. ผิวแกนเคลือบด้วยฮาร์โครเมี่ยม ระยะการทำงาน 300 มม. การปรับตั้งมาแบบเต็มรูปแบบ
– ด้านหลัง ช็อคอับเดี่ยวที่มาพร้อมกับซับแท้งค์จาก WP  ระยะการยุบตัว 330 มม. ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มเป็นอะลูมิเนียมแขนคู่

ระบบเบรก
– ด้านหน้า จานเบรกหน้าเป็นแบบเดี่ยว ขนาด 260 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ จาก MAGURA
– ด้านหลัง จานเบรกหน้าเป็นแบบเดี่ยว ขนาด 220 มม. คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ จาก MAGURA

ถ้าเราคิดว่า FERRARI คือม้าเหล็กชั้นดีในเซอร์กิตแบบทางเรียบ HUSQVARNA ก็คงเป็นม้าศึกชั้นยอดในสายทางฝุ่น เพราะทุกชิ้นส่วนที่เอามาประกอบขึ้นเป็นรถ ดูเหมือนว่าจะเน้นแต่ของเด็ดๆ ทั้งสิ้น แม้ว่าเราจะไม่ค่อยได้เห็น HUSQVARNA ในการแข่งขันมานัก แต่ถ้าได้ถามนักขี่จริงๆ ว่างชอบ HUSQVARNA บ้างไหม เชื่อว่าใน 100 คน ต้องมี 80 คน ที่ตอบกลับมาว่า นี่คือรถชั้นเลิศที่น่าเก็บสะสมมากที่สุด

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ocktm.com และ www.totalmotorcycle.com

1234567

Triumph Motorcycles พาจัดชมหนัง Justice League

$
0
0

Triumph Motorcycles พาจัดชมหนัง Justice League

Triumph-PR

นายจักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด (เสื้อขาว) จัดกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟด้วยการพาลูกค้าและสื่อมวลชนร่วมชม “จัสติซ ลีก” (Justice League) ภาพยนตร์รวมฮีโร่ฟอร์มยักษ์แห่งปี เพื่อขอบคุณที่ให้การสนับสนุนไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ด้วยดีมาตลอด โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้น เมื่อเร็วๆ นี้ ณ โรงภาพยนตร์ 4DX พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ชั้น 5 สยามพารากอน

ทั้งนี้สามารถติดตามข่าวสารและกิจกรรมอื่นๆ ได้ที่ www.facebook.com/TriumphMotorcyclesThailand

Honda .. สู้สู้ เชียร์สนั่นแทร็ก ซ้อมใหญ่รับ MotoGP

$
0
0

Honda .. สู้สู้ เชียร์สนั่นแทร็ก ซ้อมใหญ่รับ MotoGP

AP_Honda_Day2_1

รูดม่านปิดฉากความเร้าใจไปแล้ว สำหรับศึกชิงเจ้าความเร็วสองล้อแห่งเอเชีย รายการเอเชีย โรด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ ประจำปี 2017 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
ไฮไลต์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ร่วมชมเกมการแข่งขันอย่างมากมาย โดยนอกจากผลงานของเหล่านักบิดยอดฝีมือชาวไทยที่สามารถคว้าชัยชนะยืนบนโพเดียมได้แล้ว ยังมีกิจกรรมที่เรียกเสียงฮือฮาได้สนั่นแทร็กไม่น้อย กับโอกาสการยลโฉม “ฮอนด้า RC213V-S” สุดยอดรถสปอร์ตที่ถอดแบบรถของแชมป์โลกได้โลดแล่นอยู่ในสนามแข่งขัน จำนวน 7 คัน มูลค่าคันละ 8.7 ล้านบาท

AP_Honda_Day2_4

ขณะเดียวกันหากย้อนมองกลับมาที่อัฒจันทร์หรือสแตนด์คนดู อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของเรซส่งท้ายครั้งนี้ต้องยกให้กับบรรยากาศความคึกคักของกลุ่มแฟนคลับค่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ที่ยกทัพเดินทางเข้ามาร่วมเชียร์ทีมแข่งขวัญใจคนไทย “เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ถึงในสนามจำนวนกว่า 2,000 คน

AP_Honda_Day2_3

ภาพของกองทัพสาวกนักบิดค่ายปีกนก ดีลเลอร์ ตลอดจนพนักงานพร้อมครอบครัวของ บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ที่พร้อมใจรวมพลยกทัพมากันทั้งครอบครัว พ่อ แม่ พี่ น้อง เพื่อมาร่วมให้กำลังใจและส่งเสียงเชียร์ “ฮอนด้า…สู้สู้ ฮอนด้า…สู้สู้” ถือเป็นการเริ่มต้นปรากฏการณ์ที่ดี การเตรียมตัวให้กับความเข้าใจในกีฬาชนิดนี้ ด้วยการเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามาสัมผัสด้วยตัวเอง เพื่อรับรู้ถึงความสนุกตื่นเต้นและมีความน่าสนใจชวนติดตามไม่แพ้ชนิดกีฬาอื่นๆ รวมถึงมีความปลอดภัยจากมาตรฐานการจัดแข่งขันในสนามระดับโลก ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะช่วยขยายความนิยมให้จำนวนแฟนมอเตอร์สปอร์ตในบ้านเรามีมากขึ้น

AP_Honda_Day2_2

อย่างที่ทราบกันดีว่า แทร็กดวลความเร็วแดนเซราะกราวได้ถูกบรรจุอยู่ในปฏิทินการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก สำหรับศึกโมโตจีพี ฤดูกาล 2018 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 5-7 ตุลาคม 2561

AP_Honda_Day2_5

ดังนั้น การเข้ามามีร่วมส่วนของกองเชียร์ในศึกโฮมเรซครั้งนี้ จึงเสมือนเป็นการซ้อมใหญ่เพื่อต้อนรับศึกใหญ่ดังกล่าวด้วย

จากเสียงเชียร์สนั่นแทร็กเพื่อเชียร์ทีมแข่งขวัญใจคนไทย จะดังต่อเนื่องถึงปีหน้าเพื่อเชียร์นักบิดหนึ่งเดียวของไทย “ชิพ-นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์” ดาวรุ่งนักบิดชาวขอนแก่น ผู้ได้รับโอกาสลงทำการแข่งขันตลอดฤดูกาลเป็นปีที่สอง ในรุ่นโมโตทรี สังกัดฮอนด้า ทีม เอเชีย หมายเลข 41

“ฮอนด้า…สู้สู้ ฮอนด้า…สู้สู้” ในฐานะเจ้าบ้านต้องซ้อมไว้ให้ขึ้นใจ เพราะเสียงเชียร์ที่ดังกระหึ่มจะเป็นหัวใจสำคัญช่วยเพิ่มบรรยากาศในสนามให้สนุกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

เหนืออื่นใดยังช่วยกระตุ้นความฮึกเหิมให้กับคนฟังเป็นอย่างยิ่ง

Yamaha ร่วมเปิดประสบการณ์การแข่งขันจักรยานระดับโลก

$
0
0

Yamaha ร่วมเปิดประสบการณ์การแข่งขันจักรยานระดับโลก

Yamaha-PR

นายสมเกียรติ พูลขวัญ (คนที่ 5 จากซ้าย) รองผู้จัดการใหญ่ด้านบริหาร และนางสรวงสุดา มนัสบุญเพิ่มพูล (คนที่ 5 จากขวา) ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายสื่อสารการตลาด และประชาสัมพันธ์ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด พร้อมผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า และสื่อมวลชนร่วมพิธีเปิดการแข่งขันปั่นจักรยาน รายการ WTJ Road to Roma โดยมี ม.ล. กัลยกร เกษมศรี (คนกลาง) ผู้จัดงาน ร่วมเป็นเกียรติถ่ายภาพในพิธีเปิดครั้งนี้

WTJ Road to Roma การแข่งขันปั่นจักรยาน 113 กิโลเมตร ชิงโล่รางวัลชนะเลิศ พร้อมรับสิทธิ์เข้าร่วมปั่นจักรยานในงาน Granfondo Campagnolo Roma ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลี และตั๋วเครื่องบินไปกลับ พร้อมที่พัก โดยในครั้งนี้ ยามาฮ่าให้การสนับสนุนเป็นปีที่ 3 ต่อเนื่อง พร้อมทั้งสนับสนุนรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า จำนวน 50 คัน ไว้สำหรับทีมมาแชลอำนวยความสะดวกเหล่านักแข่งในระหว่างการแข่งขัน ซึ่งจัดขึ้น ณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเร็วๆ นี้

Viewing all 1454 articles
Browse latest View live