Quantcast
Channel: มอเตอร์ไซค์ Archives - รถใหม่ 2025-2026 รีวิวรถ, ราคารถใหม่, ข่าวรถใหม่, รถยนต์
Viewing all 1453 articles
Browse latest View live

KTM 250 SX 2018 “ตัวจี๊ด สองจังหวะ พร้อมลุยทุกทางฝุ่น”

$
0
0

KTM 250 SX 2018 “ตัวจี๊ด สองจังหวะ พร้อมลุยทุกทางฝุ่น”
KTM-250-SX-2018
KTM 250 SX 2018

เครื่องยนต์ : 2 จังหวะ สูบเดียว

ระบบระบายความร้อน : ด้วยหม้อน้ำ

ความจุเครื่องยนต์ : 249 ซีซี.

ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชัก เท่ากับ : 66.4 x 72 มม.

ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง : ด้วยคาร์บูเรเตอร์ Flat Slide

ระบบเกียร์ : ธรรมดา 5 สปีด

ระบบคลัทช์ : แบบเปียกสั่งงานด้วยระบบไฮดรอลิค

ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ : คันสตาร์ทเท้า

ระบบขับเคลื่อน : ชุดโซ่และสเตอร์

เฟรม : เป็นการขึ้นรูปด้วย Chrome Molybdenum Steel แบบตัวถังจักรยานที่ใช้ในการแข่งให้ความเบาและแข็งแกร่งไปพร้อมๆ  กัน สวิงอาร์มเป็นอะลูมิเนียม เพื่อลดน้ำหนักและป้องกันสนิม

มิติตัวรถ
ระยะห่างฐานล้อ : 1,485 มม.
ความสูงจากพื้นถึงเบาะ : 960 มม.
ระยะจากพื้นถึงตัวรถ : 375 มม.

ล้อ/ยาง
– หน้า เป็นอะลูมิเนียมซี่ลวด ขนาด 80/100 R21
– หลัง เป็นอะลูมิเนียมซี่ลวด ขนาด 110/90 R19

ระบบกันสะเทือน
– หน้า เป็นเทเลสโคปิคหัวกลับ ขนาด 48 มม. ของ WP รุ่น AER 48 สามารถปรับตั้งได้เต็มรูปแบบ ทั้งค่าความแข็งและสปีดจังหวะของการคืนตัว ระยะการทำงาน 310 มม.
– หลัง เป็นช็อคอับเดี่ยว WP พ่วงด้วยกระปุกซับแท้งค์ การปรับตั้งแบบจัดเต็ม ครบทั้งค่าความแข็ง/ความสูง และสปีดช้าเร็วของการคืนตัว ระยะการยุบตัว 300 มม.

ระบบเบรค
– หน้า เป็นแบบเดี่ยวชนิดตายตัว ขนาด 260 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ BREMBO สั่งงานด้วยไฮดรอลิค
– หลัง แบบตายตัว ขนาด 220 มม. คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ BREMBO

KTM ถือเป็นตำนานทาวฃงฝุ่นที่ยังเดินหน้าผลิตรถออกมาสู่ตลาดอย่างสม่ำเสมอ อยากจะรู้จักกับค่ายนี้แบบตัวจริงเสียงจริง ก็ต้องมาลองขี่รถสูตรทางฝุ่นของค่ายนี้ดู แล้วจะรู้ว่า รถแข่ง กับรถที่แต่งเหมือนแข่ง นั้นมันต่างกันขนาดไหน จัด KTM 250 SX จอมแสบสองจังหวะมาให้ชมส่งท้ายปีกันหน่อย รับประกันความแรง

ขอขอบคุณภาพจาก www.ktm.com และ www.totalmotorcycle.com

3KTM-250-SX-2018876542


A.P.Honda จุดพลังฝันครั้งยิ่งใหญ่ “ความเท่ที่แท้จริง มาจากใจที่รู้จักให้”ชวนคนไทยร่วมบริจาคโลหิต ต่อเนื่องกว่า 14 ปี รวม 176 ล้านซีซี

$
0
0

A.P.Honda จุดพลังฝันครั้งยิ่งใหญ่ “ความเท่ที่แท้จริง มาจากใจที่รู้จักให้” ชวนคนไทยร่วมบริจาคโลหิต ต่อเนื่องกว่า 14 ปี รวม 176 ล้านซีซี

honda pr

บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย ร่วมกับ สภากาชาดไทยและโรงพยาบาลทั่วประเทศ พร้อมทั้งร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั้ง 77 จังหวัด จัดกิจกรรมบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 14 ปี ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2547 – 2560 โดยปัจจุบันมียอดโลหิตที่ได้รับการบริจาคสะสมแล้วกว่า 176 ล้านซีซี

กิจกรรมบริจาคโลหิตเป็นหนึ่งในโครงการ เอ.พี.ฮอนด้า จุดพลังฝัน ชวนประชาชนชาวไทยร่วมจุดพลังฝันสู่การเป็น คนดี มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รู้จักการให้ บริษัท ฯ จึงอาสาเป็นหน่วยงานที่จัดกิจกรรมบริจาคโลหิต เพื่อส่งมอบโลหิตให้ได้ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ ผ่านร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศที่มีมากกว่า 1,000 สาขา ซึ่งจัดมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 หรือกว่า 14 ปี ซึ่งคอนเซ็ปต์ในปี 2560 นี้คือ ความเท่ที่แท้จริง มาจากใจที่รู้จักให้” โดยได้รับเกียรติจาก ณอน บูรณะหิรัญ นักคิดและนักปรัชญารุ่นใหม่ มาร่วมเผยพลังความเท่ที่แท้จริงภายในงาน

ทั้งนี้ เอ.พี.ฮอนด้า จะจัดกิจกรรมบริจาคโลหิตทั่วไทย ทั้งหมด 3 ครั้ง คือในเดือน ส.ค. 60, ธ.ค. 60 และ ช่วงเดือน มี.ค. 61 ขอเชิญทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งใน “การให้ที่ยิ่งใหญ่” โดยการบริจาคโลหิต เพียง 1 ยูนิต สามารถช่วยชีวิตได้ถึง 3 ชีวิต ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ฮอนด้าวิงเซ็นเตอร์ใกล้บ้านท่าน หรือที่คอลเซ็นเตอร์ 02-725-4000

TRIUMPH Bonneville Bobber “เข้ม เท่ ดูคลาสสิค ตัวจริงต้องคันนี้”

$
0
0

TRIUMPH Bonneville Bobber “เข้ม เท่ ดูคลาสสิค ตัวจริงต้องคันนี้”
TRIUMPH Bonneville Bobber
TRIUMPH Bonneville Bobber

เครื่องยนต์ : Parallel Twin 8 วาล์ว SOHC

ระบบระบายความร้อน : ด้วยหม้อน้ำ

ความจุเครื่องยนต์ : 1,200 ซีซี.

กระบอกสูบ x ระยะชัก เท่ากับ : 97.6 x 80 มม.

ระบบการจ่ายเชื้อเพลิง : ระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิคส์

กำลังสูงสุด : 76 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ/นาที

แรงบิดสูงสุด : 106 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที

ชุดเกียร์ : แบบธรรมดา 6 สปีด

ระบบคลัทช์ : แบบเปียกสั่งงานด้วยสายสลิง

ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ : ด้วยระบบไฟฟ้า

ระบบขับเคลื่อน : โซ่/สเตอร์

เฟรม : ครึ่งหน้าก็เป็นเหมือน Bonneville ทั่วไป แต่มาหลังจากถังน้ำมันเชื้อเพลิง มันก็ได้รับการแก้ไข ให้ลากเส้นจากปลายถังลงมาประมาณ 45 องศา เพื่อลงมาต่อกับสวิงอาร์มในลักษณะเดียวกัน

ไฟหน้า : ทรงกลมดวงเดียว

แฮนด์ : เปลี่ยนแฮนด์ให้ต่ำลง และเกือบจะเป็นตรงๆ เลยทีเดียว

บังโคลนหน้า : ลดขนาดและตัดแต่งทรงจนบางแนบสนิทลงไปกับยางหน้า

บังโคลนหลัง : แนวย้อนยุค

กระจกมองหลัง : ทรงกลมสไตล์คลาสสิค

เบาะนั่ง : แบบใบเดี่ยวโค้งที่ด้านหลังเล็กน้อยเพื่อให้นั่งสบายขึ้น

วงล้อ/ยาง
– ด้านหน้า เป็นซี่ลวด ขนาด 100/90-19
– ด้านหลัง เป็นซี่ลวด ขนาด 150/80-16

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า เป็นเทเลสโคปิค ผิวแกนเคลือบด้วยฮาร์โครเมี่ยม ครอบทับแกนช็อคอับด้วยยางคุมแกนช็อคอับ ปรับตั้งไม่ได้ เป็นของ KYB ขนาด 41 มม. ระยะยุบตัว 90 มม.
– ด้านหลัง เป็นช็อคอับเดี่ยว จาก KYB ระยะการทำงาน 77 มม. ปรับตั้งค่าความกระด้างของขดสปริงได้

ระบบเบรค
– เบรคหน้า เป็นจานเดี่ยวขนาด 310 มม. คาลิเปอร์ NISSIN 2 ลูกสูบ สั่งงานด้วยแรงดันไฮดรอลิค
– เบรคหลัง จานเบรคขนาด 255 มม. คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ NISSIN ใช้ระบบไฮดรอลิคในการส่งแรงดัน

TRIUMPH ทนกระแสความต้องการไม่ได้ เลยจัดทีมนักออกแบบและสร้างรถ Bonneville Bobber ออกมาให้บรรดาสาวกได้กรี๊ดกร๊าดกับระดับความหล่อจากแต่ก่อนประมาณ 8 ขึ้นมาจนเกือบจะเต็ม 10 แล้ว

ขอขอบคุณภาพจาก www.triumphmotorcycles.co.uk

10111213123456897

YAMAHA VMAX VMX17 “ตัวแรงสายโหดของรุ่นใหญ่ จากแดนซามูไร”

$
0
0

YAMAHA VMAX VMX17 “ตัวแรงสายโหดของรุ่นใหญ่ จากแดนซามูไร”
YAMAHA VMAX VMX17
YAMAHA VMAX VMX17

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC

ระบบระบายความร้อน : ด้วยหม้อน้ำและออยล์คูลเลอร์

ความจุเครื่องยนต์ : 1,679 ซีซี.

จากกระบอกสูบ X ระยะชัก : 90 X 66 มม.

ระบบการจ่ายเชื้อเพลิง : ด้วยระบบหัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์

ขนานเรือนลลิ้นเร่ง : 48 มม.

ชุดเกียร์ : แบบธรรมดา 5 สปีด ยังมีการติดตั้งชุด Sipper Clutch ติดมาให้ด้วย

ระบบคลัทช์ : เป็นแบบเปียกสั่งงานด้วยระบบไฮดรอลิค

ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ : ระบบไฟฟ้า

ระบบขับเคลื่อน : ด้วยเพลา

ไฟหน้า : ทรงคล้ายเลข 8

กระจกมองข้าง : ทรงใบพาย

ชุดแผงหน้าปัด : เมาแนวๆ เดียวกับ Shift Light และมาตรวัดรอบมาคล้ายๆ กับของแต่งพวกรถยนต์อย่าง AUTO METER

บังโคลนหน้า : มาแบบแน่นๆ

แฮนด์ : เป็น T-Bar ทรงต่ำๆ  แต่ไม่เท่ากับรถสูตรทางฝุ่น รัศมีกว้างขึ้นทำให้ควบคุมรถได้ง่าย

ถังน้ำมัน : ย้ายจากด้านหน้าคนขี่มาอยู่ที่ใต้เบาะ ขนาดความจุประมาณ 15 ลิตร ส่วนที่เคยเป็นถังน้ำมันเชื้อเพลิงก็ยกพื้นที่ให้กับหม้อกรองขนาด XL

เบาะนั่ง : ทรงกระชับนั่งสบายให้ความเป็นสปอร์ตมากขึ้น ส่วนของคนซ้อนขนาดเล็กไม่มีที่จับกันตกด้านหลัง

ท่อไอเสีย : เป็นการออกแบบได้โหดมาก แต่ให้เสียงที่ไม่หนักมาก

ล้อ/ยาง
– หน้า เป็นอัลลอยสวมยางขนาด 120/70-18
– หลัง เป็นอัลลอยสวมยางขนาด 200/50-18

ระบบกันสะเทือน
– หน้า เป็นเทเลสโคปิค ผิวแกนเคลือบด้วย DLC
– หลัง เป็นช็อคอับเดี่ยว

เบรก 
– หน้าใช้เป็นดิสเบรก ขนาด 320 มม. คาลิเปอร์ 6 ลูกสูบของ BREMBO
– หลังใช้เป็นดิสเบรก 298 มม. คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบของ BREMBO

ในบรรการถครูสเซอร์สัญชาติญี่ปุ่นไม่น่าจะมีใครเร็วและแรงได้เทียบเท่ากับเจ้า VMAX ได้อีกแล้ว หลังจากที่ YAMAHA เคยสร้างปรากฏการณ์ช็อคโลกด้วยการเปิดตัว VMAX ขนาด 1,200 ซีซี. เมื่อหลายสิบปีก่อน มาถึงเวลานี้สายพันธู์แรงๆ ยังคงลงจากสายพานการผลิตออกมาอีก จาก VMAX 1200 ก็กลายเป็น VMAX VMX 17 ซึ่งมีขนาดความจุขยับขึ้นมาเฉียดๆ 1.7 ลิตร ส่วนเรื่องของความแรง บอกเลยว่านี่คือที่สุดของเครื่องยนต์ V 4 ในรูปแบบครูสเซอร์

ขอขอบคุณภาพจาก www.totalmotorcycle.com และ www.topspeed.com

1423

รีวิว Kawasaki Ninja 400 ใหม่ สัมผัสสปอร์ตคันใหม่ ตัวตายตัวแทน Ninja 300 ในสนาม ต้น-กลางจัดจ้านขึ้น แต่เบาคล่องกว่าเดิม

$
0
0

รีวิว Kawasaki Ninja 400 ใหม่ สัมผัสสปอร์ตคันใหม่ ตัวตายตัวแทน Ninja 300 ในสนาม ต้น-กลางจัดจ้านขึ้น แต่เบาคล่องกว่าเดิม

รีวิว Kawasaki Ninja 400

หลังจากที่ Kawasaki ได้เซอร์ไพรส์ เปิดตัว 2018 Ninja 400/ Ninja 250 ใหม่ ที่งาน Tokyo Motor Show 2017 เมื่อช่วงปลายเดือน ตค. ที่ผ่านมานั้น ทาง Kawasaki Motors Enterprise ก็ไม่รีรอได้เปิดตัวทั้ง 2 โมเดลอย่างเป็นทางการในประเทศไทยที่งาน Motor Expo 2017 เช่นเดียวกัน

Kawasaki-Ninja400-Impact_1

และในวันที่ 1 ธค. ที่ผ่านมาทาง Kawasaki Motors Enterprise ได้จัดกิจกรรมทดสอบให้กับบรรดาสื่อมวลชนสายมอเตอร์ไซค์ของไทยได้ทดลองเจ้า Ninja 400 เป็นครั้งแรก ณ สนาม Impact Speed Park ซึ่งทางสื่อ 9carthai ของเราได้รับเกียรติในการเข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย ทางเราจึงขอมา รีวิว Kawasaki Ninja 400 ใหม่ นี้ แบบสัมผัสแรก กันในสนามกันดีกว่าครับ

Ninja-Party_1

สำหรับการรีวิว KAWASAKI Ninja 400 ในครั้งนี้ เราขอเข้าเรื่องที่การสัมผัสตัวรถในช่วง 12 นาที สั้นๆ บนสนาม Impact Speed Park ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของการจัดทดสอบรถจักรยานยนต์ในสนาม Go Kart แห่งนี้

Ninja-Party_4

หลายคนที่อาจจะสงสัย หรือเคยสอบถามเข้ามาก่อนที่ Kawasaki จะเปิดตัว Ninja 400 ซึ่งในขณะนั้น ต่างพูดถึงกันว่า All Ninja 300/250 ใหม่ น่าจะมีการปรับโฉมในสไตล์ Sport Replica เหมือนอย่างค่ายปีกนก รวมไปถึงทางค่ายส้อมเสียงที่มีข้อมูลมาว่าจะผลิตโมเดลใหม่ในทิศทาง Sport Replica เช่นเดียวกัน ทำให้หลายคนต่างคิดว่ายักษ์เขียวจะมาแนว ZX-3R, ZX-25R หรือไม่ แต่ในวันนี้ได้ชี้ชัดแล้วว่า พวกเขาเลือกที่จะฉีกรูปแบบดังกล่างออกไป ให้แตกต่างโดยเป็นค่ายแรกที่เพิ่มพิกัดหนีขึ้นไปเป็น 400cc สำหรับรถในระดับ Sport Entry

Kawasaki-Ninja400-Impact_8

ทางทีมงาน 9carthai เราได้ยิงคำถามทีม R&D ของญี่ปุ่นไปว่าทำไมพวกเขาจึงเลือกอัพ cc แทนการใส่ออปชั่นมาในสไตล์ Sport Replica เราได้คำตอบกลับมาอย่างเรียบง่ายว่า “Kawasaki ต้องการเพิ่มความเร็วความแรงให้กับรถรุ่นนี้” เราจึงตีความได้ว่าพวกเขาต้องการให้รถตระกูล Ninja นั้นแรงทรงพลังกว่ารถคันอื่นในตลาดระดับเดียวกัน จึงใช้วิธีการเพิ่ม cc แทนยัดออปชั่น ซึ่งผมว่าทิศทางและเป้าหมายในการรุกตลาดชัดเจนดีครับ “ถ้าคุณต้องการความแรงในรถระดับ Sport Entry คำตอบคุณคงต้องเป็น Ninja”

Pon-Ninja400_7

มาเริ่มกันที่ สัมผัสแรกในเรื่องของท่านั่งทันทีที่คร่อม Ninja 400

Kawasaki-Ninja400-Impact_5

แม้ว่า KAWASAKI Ninja 400 มีความสูงเบาะ 785 มม. เท่ากันกับ Ninja 300 เดิม แต่การดีไซน์ให้เบาะที่แคบลงจึงทำให้ผู้ขี่เหยียบได้เต็มเท้ามากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าสะดวกแก่ผู้ที่มีสรีระไม่สูงนัก แถมตัวเบาะหนาขึ้นกว่าเดิม 40 มม. เรียกได้ว่านุ่มก้น นั่งสบายกว่าเดิมถ้าขี่นานๆ ไม่มีปวดเมื่อย

Kawasaki-Ninja400-Impact_3

แน่นอนว่า ท่านั่งโดยรวมจะไม่ใช่ Sport Replica เหมือนตระกูล ZX มันยังคงความสบาย เหมาะแก่การใช้งานในชีวิตประจำวัน จากแฮนด์ที่ไม่ต้องก้มให้เมื่อยหลังนัก และพักเท้าที่เยื้องไปทางด้านหน้าไม่ต้องงอเข่าให้ปวดข้อกันเวลาขี่

ขณะที่น้ำหนักตัวเบาลงกว่าเดิม รวมไปถึงความกว้าง และความยาวรถ ที่มีขนาดสั้นลงกว่าเดิม ระยะฐานล้อก็สั้นลงเช่นเดียวกัน

นั่นจึงทำให้ตัวรถดูกระชับและมีความคล่องตัวในการควบคุมดีขึ้นมาก พลิกเลี้ยวได้ง่าย

Kawasaki-Ninja400-Impact_4

ด้านถังน้ำมันขนาดเล็กลงเหลือเพียง 13 ลิตร จากเดิม 17 ลิตร ทำให้ช่วงลำตัวดู Slim กว่าเพื่อนๆ พิกัด 250-300cc ทั่วไป อย่างไรก็ดีทาง Kawasaki เคลมว่าน้ำมันเต็มถังวิ่งได้ 350 กม. ถือว่าวิ่งออกทริปได้แบบยาวๆ หายห่วง และอัตราสิ้นเปลืองไม่ได้หนีจากเดิมมากนัก

Pon-Ninja400

เริ่มต้นในการขี่จริงเจ้า Ninja 400 บนสนาม Impact Speed Park แห่งนี้ แม้จะเป็น Track Go Kart ที่ได้ลองกันแบบ Loop สั้นๆ แต่เราก็มีโอกาสได้กระแทกคันเร่งกันแบบเต็มๆ ไปถึง Redline เช่นเดียวกัน

บีบคลัทช์ออกตัว น้ำหนักคลัชท์ดูเบาลงกว่าเดิมเล็กน้อย เมื่อเปิดคันเร่ง อัตราเร่งช่วงต้น-กลาง นั้น มาไวแบบน่าประทับใจ แม้ Redline จะอยู่ที่ 12,000rpm แต่ลากคันเร่งไปไม่นานก็เข้าช่วง Redline อย่างรวดเร็ว ขึ้นพรวดมาไว รอบเครื่องตื้อเร็วเช่นเดียวกัน จนแอบรู้สึกว่ามาไว หมดไว อารมณ์ใกล้เคียงตัว 650cc เลยแฮะ (Ninja 650 Redline@10,000rpm) เรียกได้ว่า Ninja 400 ใหม่ คันนี้ไม่ใช่พวกที่ต้องเค้นเอาแรงเน้นรอบจัดจ้านแบบ Ninja 300/250 โฉมเก่า

Pon-Ninja400_5

ขณะที่ Slipper Clutch ชุดใหม่ ก็ทำหน้าที่ได้ดีเช่นเคย ช่วง Engine Brake จากเกียร์ 3 ลดลงมาเกียร์ 2 พบว่า ล้อหลังอาจมีจังหวะ Slip เบาๆ แต่เมื่อเบิิ้ลคันเร่งทิ้ง อาการเหล่านั้นก็ลดลงจนแทบจะหมดไป ซึ่งถือว่าการทำหน้าที่ของ Slipper Clutch ชุดใหม่นี้ ช่วยอย่างมากในการขี่ใน Track ที่ได้ใช้กำลัง Engine Brake ดึงชะลอความเร็วก่อนเข้าโค้งเช่นนี้

Pon-Ninja400_3_1

ในรอบแรกของการทดสอบ ผู้เขียนลองใช้เกียร์ 2 ในการเข้าโค้งในแต่ละจุด บน Track Go Kart แห่งนี้ แต่กลับพบว่ารอบเครื่องมันตื้อตึงมือเกินไป สัก 2 รอบถัดมา ลองใช้เกียร์ 3 เข้าโค้ง เน้นเบรกให้หนักขึ้น พบว่าประสิทธิภาพเบรกนั้นดีขึ้นจากการหันมาใช้ปั๊มเบรกตัวเดียวกับรุ่นพี่ Ninja 650 ทั้งหน้า-หลัง จาก Nissin แม้จะเป็นจานดิสก์เดี่ยวก็ตาม Ninja 400 มันชะลอความเร็วได้ดีเหมาะสมกับกำลังเครื่องที่มี น้ำหนักแม่ปั๊มดูแน่นมือมีกำลังในการชะลอความเร็วได้ดีขึ้น

ต่อด้วยการเดินคันเร่งที่เกียร์ 3 ในโค้ง พบว่ามันเดินได้เนียนยิ่งขึ้น มีกำลังเหลือเฟือในการเปิดคันเร่งออกโค้งไปได้แบบสบายๆ หลังจากนั้นผู้เขียนจึงใช้เกียร์ 3 เข้าโค้งขี่กันแบบสบายๆ ไม่ต้องเครียด พอมีโอกาสขึ้นเกียร์ 4 ในช่วงทางตรงยาวของ Track สั้นๆ

Kawasaki-Ninja400-Impact_6

สำหรับระบบช่วงล่าง นั้น Ninja 400 ให้แกนโช้กใหญ่กว่าเดิมขึ้นมาที่ 41 มม. ทำให้การซับแรงและช่วงเบรกจุ่มหนักๆ ดูมั่นคงยิ่งขึ้น แฮนด์ลิ่งไม่ดูโหวงเหวง สะบัดในช่วงเปิดคันเร่งออกหนักๆ

Pon-Ninja400_4_1

ขณะที่อีกจุดที่น่าประทับใจเลย คือ Ninja 400 อัพไซส์ยางหลัง หน้ากว้างขยับขึ้นมาเป็น 150 มม. จาก Ninja 300/250 เดิมที่ให้มา 140 มม. ถือได้ว่าเหมาะสม การเข้าโค้งหน้าสัมผัสมีเยอะขึ้น ทำให้การเทโค้งดูดีกว่าเดิม เทเลี้ยวโค้งดูง่ายขึ้น และยิ่งขนาดตัวรถที่เล็กลงและสั้นลงกว่าเดิมอีก ทำให้การเข้าโค้งใน Track ขนาดเล็กที่ต้องการความคล่องตัวอย่าง Impact Speed Park แห่งนี้ ขี่ได้สนุก และโชว์ความพร้ิ้วของเจ้า Ninja 400 คันนี้ออกมาได้เป็นอย่างดี

Kawasaki-Ninja400-Impact_7

สรุป
เบื้องต้น รีวิว KAWASAKI Ninja 400 ใหม่ แบบ 1st Impression ครั้งนี้ ทำให้เรารับรู้ได้ว่าตัวรถเบาช่วยให้การควบคุมรถดีขึ้น พริ้วคล่องตัว และมันยังเพิ่มความสบาย เอื้อเฟื้อต่อผู้ขี่มากกว่าเดิมด้วย

นอกจากนั้นขุมพลังแรงกว่าเดิมชัดเจน ทอร์คหนักตั้งแต่รอบต้น-กลาง เรียกได้ว่าการทดสอบเบื้องต้นเพียง 12 นาที นี้ช่วยให้เราพอจินตนาการภาพได้ว่า ถ้าใช้งานในเมืองมันน่าจะคล่องตัว, เร่งแซงได้ทันใจเหมาะแก่เป็นรถ Everyday Bike ขี่ใช้งานจริงได้ และมันยังขี่สนุก พร้อมออกทริปไปได้แบบสบายๆ ด้วยเช่นกัน

Kawasaki-Ninja400-Impact_2

ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver
สุภิญญา ชำนาญกุล Photo

ขอขอบคุณ Kawasaki Motor Enterprise
ขอบคุณภาพเพิ่มเติมจาก The Bank, และ พี่ TopsaVage ครับ

Kawasaki-Ninja400-Impact_1 Kawasaki-Ninja400-Impact_2 Kawasaki-Ninja400-Impact_7 Kawasaki-Ninja400-Impact_8 Ninja-Party_2 Ninja-Party_4 Ninja-Party_1 Ninja-Party_3 Kawasaki-Ninja400-Impact_9 Kawasaki-Ninja400-TIME2017 Kawasaki-Ninja400-Impact_3 Kawasaki-Ninja400-Impact_4 Kawasaki-Ninja400-Impact_5 Kawasaki-Ninja400-Impact_6 Pon-Ninja400 Pon-Ninja400_3_1 Pon-Ninja400_4_1 Pon-Ninja400_5 Pon-Ninja400_7

AAS Harley-Davidson® of Bangkok แรงอย่างต่อเนื่องคว้ายอดขายอันดับ 1 อีกครั้งในงาน Motor Expo 2017

$
0
0

AAS Harley-Davidson® of Bangkok แรงอย่างต่อเนื่องคว้ายอดขายอันดับ 1 อีกครั้งในงาน Motor Expo 2017

PIC EXPO2017_resize

ปิดฉากไปอย่างสวยงามสำหรับยอดจองรถฮาร์เล่ยฯ ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34 (Motor Expo 2017) ที่จัดขึ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 1–11 ธันวาคม 2560 และในปีนี้นับเป็นครั้งแรกที่แบรนด์รถจักรยานยนต์สัญชาติอเมริกัน อย่าง ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน (Harley-Davidson®) ได้เข้าร่วมเปิดบูธพร้อมทั้งเปิดตัวรถโมเดลใหม่ปี 2018 ครั้งแรกในไทยที่งาน Motor Expo 2017 ครั้งนี้

สำหรับงาน Motor Expo 2017 ทาง บริษัท แบงค็อก ไรเดอร์ จำกัด และ บริษัท อีสเทิร์น ไทย ไรเดอร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของแบรนด์รถจักรยานยนต์สัญชาติอเมริกัน ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน (Harley-Davidson®) ขอขอบคุณทุกความไว้วางใจที่ทุกท่านมอบโอกาสให้ทาง เอเอเอส ฮาร์เล่ย์ฯ ได้ดูแลและบริการตลอดระยะเวลาของงาน Motor Expo 2017 ที่ทำให้ เอเอเอส ฮาร์เล่ย์ฯ คว้ายอดขายอันดับ 1 ในงาน Motor Expo 2017

โดยรุ่นรถที่มียอดจองสูงที่สุด คือรถในตระกูล Softail 2018 ยอดจอง 24 คัน ตามมาด้วย ,รถตระกูล Sportster มียอดจอง 18 คัน ,รถตระกูล Touring 11 คัน และ ตระกูล CVO 2 คัน ซึ่งก่อนหน้างาน Motor Expo 2017 ทาง เอเอเอส ฮาร์เล่ย์ฯ ก็เคยคว้ายอดจองอันดับ 1 มาแล้วในงาน Motor Show 2017 เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา นับว่าเป็นการรักษายอดจองอันดับ 1 ของแบรนด์รถฮาร์เล่ย์ฯได้อย่างต่อเนื่อง

HONDA CB750 Custom “เปลี่ยนแบบนี้ถูกใจสายหมอบแนวคลาสสิค”

$
0
0

HONDA CB750 Custom “เปลี่ยนแบบนี้ถูกใจสายหมอบแนวคลาสสิค”
honda cb750
HONDA CB750 Custom

เครื่องยนต์ : มีการเสริมสมรรถนะให้กับบล็อคสี่สูบเรียง 7 แรงครึ่งนี้วิ่งไหลลื่นขึ้นด้วยการใส่ของเล่นปลายคาร์บูเรเตอร์กับชุดคิท Daynojet

ระบบระบายความร้อน : ด้วยอากาศ

ขนาดความจุ : 750 ซีซี.

กรองอากาศ : แบบเปลือย

ขับเคลื่อนด้วย : โซ่/สเตอร์

ไฟหน้า : ดวงกลมของเดิมถอดกรอบออกไปปัดเงา

ไฟท้าย : เป็น LED ดวงจิ๋ว

แฮนด์ : เปลี่ยนมาเป็นแฮนด์จับช็อคตาสไตล์สายหมอบ ก่อนจะติดตั้งชุดคอนโทรลหรือประกับของเดิม แล้วเปลี่ยนปลอกแฮนด์เป็นสีน้ำตาล

มาตรวัดค่า : ยกของใหม่มาใส่แทนที่ของเดิม

บังโคลน : เปลี่ยนใหม่

ถังน้ำมัน : เปลี่ยนใหม่มาเป็นของ CB550 ที่การันตีความคลาสสิค พร้อมสาดสีขาวครีมนวล และลายเซ็นประจำค่าย

ปั้นท้าย : ถอดของเดิมออกแล้วก็หั่นให้สั้นลง และตีให้เป็นหัวกระสุน

เบาะนั่ง : หุ้มนั่งสีน้ำตาลพร้อมกับออกแบบกล่องใต้เบาะสำหรับเก็บแบตเตอรี่และชุดไฟต่างๆ

ท่อไอเสีย : สั่งตีใหม่พันด้วยฉนวนกันความร้อนและรัดด้วยปลอกรัดโครเมี่ยม ปลายท่อทรงคลาสสิคสีดำด้านทั้งคู่

ล้อ/ยาง
– ยางเป็นของ PIRELLI Gran Turismo

ระบบกันสะเทือน
– ช็อคอับจาก SHOWA แบบมีซับแท้งค์พร้อมสปริงดำเงาเข้ากับส่วนอื่นๆ

อีกหนึ่งไอเดียของสายพันธุ์ดังที่ไม่ว่าจะนำไปเล่นแบบไหนก็ดูดีไปหมด โดยในวันนี้มาแบบง่ายๆ แต่ได้ใจความ และน่าสัมผัสพอตัว ซึ่งถ้ามีงบอีกเล็กน้อยหรืออยากให้ความคลาสสิคครอบงำมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงในลำดับต่อไปก็ไม่ใช่เรื่องยาก และไอเดียแบบนี้ล่ะที่เหมาะสมกับพวกเท่ๆ คลาสสิคอย่างพวกเรา

ขอขอบคุณภาพจาก www.returnofthecaferacers.com

19834567

SUZUKI GS750 Custom “ตัวโหดของจริง ขยายซีซี. เป็น 844 ซีซี.”

$
0
0

SUZUKI GS750 Custom “ตัวโหดของจริง ขยายซีซี. เป็น 844 ซีซี.”
SUZUKI GS750 Custom
SUZUKI GS750 Custom

เครื่องยนต์ : มีการขยายความจุจาก 750 ซีซี. ไปเป็น 844 ซีซี. ลูกสูฐของ WISECO คาร์บูเรเตอร์เดิมจูนใหม่

ขนาดความจุ : 844 ซีซี.

กรองอากาศ : แบบเปลือย

ขับเคลื่อนด้วย : โซ่/สเตอร์

ไฟหน้า : หาของแต่งดวงเล็กกว่าเดิมรูปทรงสวยพร้อมขายึดกำลังดีเติมความโดดเด่น

ไฟท้าย : เป็น LED ดวงเล็กซ่อนอยู่ตรงปลาย

แฮนด์ : จับช็อค Adon ส่วนปั๊มเบรก คลัทช์ใช้ของเดิม แต่จะมีการเคลือบสีทองก่อน

กระจก : ทรงกลมติดตั้งไว้ที่ปลายแฮนด์

ถังน้ำมัน : ยังคงใช้ของเดิมแต่จะมีการสาดสีใหม่ดำด้าน คาดลาย JSP (Lotus john Player Special Team) แห่งปี 1970 ที่เป็นตัวหนังสือสีทองพร้อมคาดลายเส้นทับถังน้ำมันอีกที

ปั้นท้าย : ถูกหั่นออกแล้วทำให้สั้นแบบทรงโค้งปลายเชิด

เบาะนั่ง : สั่งตีใหม่ให้เข้ารับกับบั้นท้าย

พักเท้า : ถอดของเก่าออกแล้วใส่ชุดใหม่สไตล์ซิ่งจาก TAROZZI

ท่อไอเสีย : สั่งตีใหม่ประกบกับปลาย GP พันฉนวนกันความร้อนเรียบร้อย

ล้อ/ยาง
– เป็นซี่ลวด Alpina Supermotard รัดด้วยยาง GOLDSPEED
– ด้านหลัง เป็น PIRELLI ขนาด 1601/60-17

ระบบเบรก
– ใช้จ่านแต่งแบบ Racing ประกบด้วยคาลิเปอร์จาก BREMBO
– ใช้จ่านแต่งแบบ Racing ประกบด้วยคาลิเปอร์จาก BREMBO

ระบบกันสะเทือน
– ช็อคอับแบบอับ-ไซด์ดาวน์ของ DUCATI 848 ทำหน้าที่ยืดยุบหนึบแน่นทุกเส้นทาง
– ช็อคอับ KYB กระบอกทอง สปริงดำรับกับส่วนอื่นๆ

SUZUKI ทำ GS750 ออกมาต่อกรสายแรงค่ายอื่นๆ สไตล์เดียวกันในยุคก่อน แต่ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างส่งผลให้รุ่นนี้ไม่ค่อยมีให้เห็นเท่าไหร่นักยิ่งโดยเฉพาะในปัจจุบันบ้านเราหาตัวเป็นๆ ยากพอสมควร ทว่าในต่างแดนรุ่นนี้ยังมีให้เห็นแถมยังมีการนำมาปรับแต่งเสริมดีกรีให้น่าสนใจยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคันที่ทุกท่านกำลังได้ชม หากว่าเป็นสาวกสายหมอบที่ไม่ชอบคลุมโม่งแล้ว แต่แบบนี้เรียกว่าโหดสุดๆ

ขอขอบคุณภาพจาก www.returnofthecaferacers.com

1243


ตั้งฉายานักบิดในดวงใจ “A.P.Honda Racing Thailand” ลุ้นรับฟรี ไอเท็มลับเฉพาะแฟนพันธุ์แท้ทีมแข่งค่ายปีกนก

$
0
0

ตั้งฉายานักบิดในดวงใจ “A.P.Honda Racing Thailand” ลุ้นรับฟรี ไอเท็มลับเฉพาะแฟนพันธุ์แท้ทีมแข่งค่ายปีกนก

AP-Honda-Racing-Thailand

ทีมแข่งขวัญใจมหาชน “เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ขอมอบความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่ ชวนแฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยร่วมสนุกลุ้นรับของขวัญสุดพิเศษ สำหรับเสื้อยืดลายนักแข่งสุดเท่ห์ ลิมิเต็ด อิดิชั่น ผลิตจำนวนจำกัดเพื่อสาวกแฟนพันธุ์แท้ทีมแข่งค่ายปีกนกโดยเฉพาะ

ทีมแข่ง เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ชวนแฟนกีฬาความเร็วชาวไทยทั่วประเทศ ร่วมเล่นเกมตอบคำถามเพื่อลุ้นรับเสื้อยืดลายกราฟฟิกสุดเท่ห์ของนักแข่งในสังกัด ได้แก่ ชิพ-นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์, ก้อง-สมเกียรติ จันทรา, โฟลท-รัฐพงษ์ วิไลโรจน์, ดรีม-สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง, เอ้-วรพงศ์ มาลาหวล และ มุกข์-มุกข์ลดา สารพืช ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นพิเศษ ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 24 ตัว สำหรับเทศกาลฉลองความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้เท่านั้น

สำหรับรายละเอียดกติกาการร่วมสนุกมีดังนี้
1.กดแชร์ข่าวนี้บนหน้าเฟสบุ๊กของตัวเอง (ตั้งฉายานักบิดในดวงใจ “เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ลุ้นรับฟรี ไอเท็มลับเฉพาะแฟนพันธุ์แท้ทีมแข่งค่ายปีกนก) และตอบคำถามว่า “คุณเป็นแฟนพันธุ์แท้นักแข่งคนใดในทีม เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ อยากตั้งฉายาอะไรให้นักแข่งคนนั้น พร้อมให้เหตุผลประกอบ เช่น จุดเด่นหรือลีลาการขับขี่ เป็นต้น” หลังจากนั้นติดแฮชแท็ก #APhondaracingthailand ในคอมเมนต์ใต้โพสต์

2.ระยะเวลาในการร่วมสนุก ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2560 ถึงวันที่ 10 มกราคม 2561

3.เกณฑ์การคัดเลือกผู้โชคดี คำตอบใครโดนใจนักแข่งที่ติดตามเชียร์ มีสิทธิ์รับของรางวัลเป็นเสื้อยืดลายกราฟฟิกสุดเท่ห์ของนักแข่งในสังกัด เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ จำนวน 24 รางวัล ประกาศผลในวันที่ 12 มกราคม 2561 ผ่านหน้าเว็บไซต์ www.aphonda.co.th/aphondaracingthailand และแฟนเพจ A.P.Hondaracing-FC

เกณฑ์การตัดสินผู้โชคดี
1.ทำถูกต้องตามกติกาทั้งหมด (กดแชร์ข่าว, ตอบคำถามครบถ้วนในคอมเม้นต์บนหน้าเฟสบุ๊กของตัวเอง, ติดแฮชแท็ก #APhondaracingthailand)
2.ร่วมสนุกภายในระยะเวลาที่กำหนด
3.การคัดเลือกคำตอบของนักแข่งแต่ละคนถือเป็นที่สิ้นสุด

เงื่อนไขในการรับรางวัล
หลังจากประกาศผลในวันที่ 12 มกราคม 2561 ผ่านหน้าเว็บไซต์ www.aphonda.co.th/aphondaracingthailand และแฟนเพจ A.P.Hondaracing-FCแล้ว ผู้โชคดีสามารถรายงานตัวผ่านทาง Inbox โดยแจ้งชื่อ-นามสกุล พร้อมที่อยู่และเบอร์โทรติดต่อ ภายในวันที่ 15 มกราคม 2561 โดยทีมงานจะจัดส่งของรางวัลไปให้ทางไปรษณีย์ตามที่อยู่ที่แจ้งไว้

หมายเหตุ
-ขอสงวนสิทธิ์ในการเลื่อนวันประกาศผลรางวัลโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
-ของรางวัลไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นเงินสด หรือโอนสิทธิ์ให้ผู้อื่นได้

Naughty Qyadro Custom “เปลี่ยนโฉมสปอร์ตไบค์สุดเท่ ให้เป็นสแคมเบอร์สุดแนว”

$
0
0

Naughty Qyadro Custom “เปลี่ยนโฉมสปอร์ตไบค์สุดเท่ ให้เป็นสแคมเบอร์สุดแนว”
Naughty Quadro
Naughty Qyadro

สำนักแต่ง : ออกแบบโดย Alexey Afanasyev

ถูกแปลงโฉมมาจาก : DUCATI 1299 Panigale

ขับเคลื่อนด้วย : โซ่/สเตอร์

ไฟหน้า : เปลี่ยนเป็นแบบกลมดวงเดียว

ถังน้ำมัน : ยกมาจากรุ่นน้องอย่าง DUCATI Scrambler

เฟรม : ช่วงท้ายที่ไม่จำเป็นมีการตัดออกเพื่อให้บั้นท้ายสั้นลง

เบาะนั่ง : เป็นแบบใบเดียวยาว

ท่อไอเสีย : แบบใหม่ถูกจัดวางให้อยู่ใต้เบาะ ไม่เกะกะสายตา

ล้อ/ยาง
– ซี่ลวดขอบ 17 นิ้ว รัดด้วยยางกึ่งเอนดูโร่สำหรับสายลุย
– ซี่ลวดขอบ 17 นิ้ว รัดด้วยยางกึ่งเอนดูโร่สำหรับสายลุย

ประเดิมคันแรกด้วยรถซูเปอร์สปอร์ตตัวแรงสัญชาติอิตาเลี่ยน ฟังไม่ผิดหรอครับเพราะเจ้ารถคันที่เห็นอยู่นี้คืออดีตรถซูเปอร์ไบค์ DUCATI 1299 Panigale แต่ตอนนี้ถูกตัดต่อพันธุกรรมจนกลายมาเป็นรถแนว Scrambler สุดโก๋ไปแล้ว ความแรงดูลดลงไป แต่ความไฉไลสไตล์เก๋าๆ เพิ่มมากขึ้นอย่างลงตัว

ขอขอบคุณภาพจาก www.asphaltandrubber.com

5789431261110

Suzuki ใส่ใจผู้ใช้รถใช้ถนน ร่วม “โครงการอาชีวะอาสา เทศกาลปีใหม่ 2561”

$
0
0

Suzuki ใส่ใจผู้ใช้รถใช้ถนน ร่วม “โครงการอาชีวะอาสา เทศกาลปีใหม่ 2561”

Suzuki-PR

บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ ซูซูกิ ได้เข้าร่วม “โครงการอาชีวะอาสา เทศกาลปีใหม่ 2561” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม พัฒนา และสร้างประสบการณ์ด้านทักษะวิชาชีพ ตลอดจนปลูกฝังให้นักเรียน นักศึกษา มีจิตอาสารู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง และสังคม ซึ่งภายในงาน ได้รับเกียรติจาก นายแพทย์ ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีเปิด ณ บริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม ด้านข้างกระทรวงศึกษาธิการ ในวันที่ 21 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ซูซูกิ ยังได้จัดนิทรรศการตรวจสอบรถก่อนการเดินทาง เพื่อความปลอดภัย พร้อมบริการตรวจเช็คสภาพรถ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ไส้กรองน้ำมันเครื่อง ฟรีให้แก่ประชาชน และมอบน้ำมันเครื่องสนับสนุนให้แก่ นักเรียน นักศึกษา ไปใช้ประกอบการปฏิบัติงานในศูนย์อาชีวะอาสา และสร้างเป็นสาธารณะประโยชน์ต่อไป ทั่วประเทศ 252 แห่ง เป็นจำนวน 600 ขวด

A.P.Honda มอบความสุขรับเทศกาลปีใหม่ เปิดจุดพัก-ตรวจเช็กรถฟรี

$
0
0

A.P.Honda มอบความสุขรับเทศกาลปีใหม่ เปิดจุดพัก-ตรวจเช็กรถฟรี

Honda-PR

เอ.พี.ฮอนด้า เปิดแคมเปญรณรงค์ลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ภายใต้โครงการ “ฮอนด้าเมืองไทยขับขี่ปลอดภัย” หวังมอบความสุขให้คนไทยเดินทางฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อย่างปลอดภัยทั่วประเทศ โดยเปิดจุดพักรถ A.P.Honda Rest Station ให้บริการเครื่องดื่มและเช็กความพร้อมรถจักรยานยนต์ บนเส้นทางหลัก 5 จุด, ให้บริการตรวจเช็กรถจักรยานยนต์ฟรี 10 รายการ ที่ศูนย์ Honda Wing Center กว่า 1,000 แห่ง ระหว่าง 21-23 ธันวาคมนี้ พร้อมขยายจุดบริการนอกสถานที่ ณ กรมการขนส่งทางบก เขตจตุจักร ในวันที่ 27 ธันวาคม 2560 รวมถึงสนับสนุนโครงการ “อาชีวะอาสาบริการประชาชน” มอบน้ำมันเครื่องจำนวน 6,048 ขวด มูลค่ากว่า 600,000 บาท ให้กับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ผนึกกำลังผู้แทนจำหน่ายฯ จัดฝึกอบรมนักเรียนและนักศึกษาก่อนเตรียมออกหน่วยให้บริการประชาชน 252 แห่งทั่วประเทศ ระหว่าง 28 ธันวาคม 2560-3 มกราคม 2561

นายอารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า พันธกิจหลักของ เอ.พี.ฮอนด้า มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการแบ่งปันความสุขสู่สังคมเสมอมา โดยเฉพาะการร่วมรณรงค์ลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวทุกปี ภายใต้แคมเปญ “Zero Accident อุบัติเหตุเป็นศูนย์ เริ่มที่ตัวคุณ” พร้อมกับสร้างวัฒนธรรมสังคมหัวแข็งด้วยการใส่หมวกกันน็อก เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนของทุกคน มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2556 ถึงปัจจุบัน

“ในโอกาสช่วงวันหยุดยาวนี้ จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุของเทศกาลปีใหม่ในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางท้องถนนอยู่ในเกณฑ์ที่สูงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสาเหตุหลักมาจากตัวผู้ขับขี่และความพร้อมของยานพาหนะ เหตุนี้เราจึงเปิดตัวแคมเปญรณรงค์ลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ภายใต้โครงการ “ฮอนด้าเมืองไทยขับขี่ปลอดภัย” หวังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดอุบัติเหตุ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ต้องการมอบความสุขให้คนไทยได้เดินทางกลับบ้านฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อย่างปลอดภัยโดยถ้วนหน้าทั่วประเทศ”

สำหรับการรณรงค์และดำเนินกิจกรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 เอ.พี.ฮอนด้า ได้ยกระดับโครงการรณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างครบวงจร ผ่านรูปแบบการให้บริการด้วย 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่

กิจกรรมแรก : “A.P. Honda Rest Station จุดพักรถ พักคน” เอ.พี. ฮอนด้า เปิดจุดบริการพักรถ สำหรับนักเดินทาง เพื่อรณรงค์ลดอุบัติเหตุบนท้องถนน สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และรถยนต์ โดยให้บริการเครื่องดื่มพร้อมการตรวจเช็กรถจักรยานยนต์ฟรี ระหว่างวันที่ 28-31 ธันวาคม 2560 บนเส้นทางหลัก 5 จุด คือ ลานหน้าเทวาลัยพระพรหม ถนนสายเอเซีย อ.เมือง จ.สิงห์บุรี, ลานหน้าค่ายจิรประวัติ ถนนสายเอเซีย อ.เมือง จ.นครสวรรค์, ตรงข้ามเทศบาลทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี, หน้าโรงเรียนมวกเหล็กวิทยา อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี และหน่วยบริการตำรวจทางหลวงวังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี

กิจกรรมที่สอง : “ฟรีเซอร์วิส” เอ.พี.ฮอนด้า ให้บริการตรวจเช็กสภาพความพร้อมของรถจักรยานยนต์ให้ฟรี 10 รายการ พร้อมอะไหล่ราคาพิเศษ ที่ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า วิง เซ็นเตอร์ (Honda Wing Center) จำนวนกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 21-23 ธันวาคม 2560 และขยายจุดบริการนอกสถานที่ ณ กรมการขนส่งทางบก เขตจตุจักร ในวันที่ 27 ธันวาคม 2560

กิจกรรมที่สาม : สนับสนุนโครงการ “อาชีวะอาสาบริการประชาชน” โดยผนึกกำลังกับร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า จัดฝึกอบรมนักเรียนและนักศึกษาก่อนเตรียมออกหน่วยให้บริการประชาชน 252 แห่งทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2560-3 มกราคม 2561 พร้อมมอบน้ำมันเครื่องจำนวน 6,048 ขวด มูลค่ากว่า 600,000 บาท ให้กับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เพื่อมาให้บริการประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 นี้

ทั้งนี้ สำหรับบริการตรวจเช็กรถฟรี (Free Service) ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้าสามารถนำรถเข้ารับตรวจฟรี 10 รายการ พร้อมมีส่วนลดพิเศษสำหรับอะไหล่ ณ ศูนย์จำหน่ายและบริการที่ศูนย์ฮอนด้า วิง เซ็นเตอร์ ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 21-23 ธันวาคม 2560 รวมทั้งที่กรมการขนส่งทางบก เขตจตุจักร ในวันที่ 27 ธันวาคม 2560ขณะที่ในส่วนของจุดพักรถ พักคน(A.P. Honda Rest Station) ทั้ง 5 จุด เปิดให้บริการเครื่องดื่มพร้อมตรวจเช็กรถจักรยานยนต์ฟรี ระหว่างวันที่ 28-31 ธันวาคม 2560 โดยผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.aphonda.co.th

URAL Baikal “ไซด์คาร์จอมบุกตะลุย สายพันธุ์รัสเซีย”

$
0
0

URAL Baikal “ไซด์คาร์จอมบุกตะลุย สายพันธุ์รัสเซีย”
URAL Baikal
URAL Baikal

เครื่องยนต์ : Boxer Flat Twin

ความจุเครื่องยนต์ : 749 ซีซี.

กระบอกสูบ X ระยะชัก เท่ากับ : 78 X 78 มม.

กำลังอัดเครื่องยนต์ : 8.6 : 1

วาล์ว : ควบคุมการกดวาล์วด้วยเพลากดกรเดื่องวาล์วแบบคู่เหมือนฝาสูบ (DOHC) และยังใช้การกดวาล์วแบบก้านกระทุ้ง

ระบบเกียร์ : ธรรมดา 4 สปีด พร้อมเกีย์ถอยหลังอีก 1 สปีด

คลัทช์ : เป็นแบบแห้ง Double Disc Dry สั่งงานด้วยสายสลิง

ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ : ด้วยระบบไฟฟ้าและคันสตาร์ทเท้า

ระบบขับเคลื่อน : ขับเคลื่อนด้วยเพลา

ไฟหน้า : เป็นแบบกลม และยังมีไฟติดอยู่ที่ด้านหน้าของไซด์คาร์ด้วย

ไฟเลี้ยว : ชุดไฟเลี้ยวด้านซ้ายอยู่ที่ตัวรถเป็นทรงกลม ส่วนด้านขวาจะอยู่บนบังโคลนของไซด์คาร์

แฮนด์ : เป็นแบบปีกนกทรงเตี้ย

เบาะนั่ง : ของไซด์คาร์เป็นแบบเหยียดขาได้ ส่วนของคนขับขี่เป็นแบบยาวไม่เล่นระดับ

ด้านหลังไซด์คาร์ : มีการติดตั้งยางอะไหล่

ท่อไอเสีย : เป็นแบบ 2-1-2

มิติตัวรถ
– กว้าง/ยาว/สูง : 1,615/2,509/1,379 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงเบาะนั่ง : 812 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงตัวรถ : 172 มม.
– น้ำหนักตัวรถ : 328 กิโลกรัม
– ถังน้ำมันเชื้อเพลิง : 22.7 ลิตร พร้อมด้วยถังสำรอง 10 ลิตร

วงล้อ/ยาง
– วงล้อทั้งหมดมีขนาด 2.15-19 นิ้ว
– ยางขนาด 4.00-19 นิ้ว

ระบบกันสะเทือน
– หน้า เป็นช็อคอับแบบสปริง วางอยู่กับคานเหล็กแบบพิเศษ เน้นความทนทานและบุกตะลุย ปรับตั้งค่าความกระด้างได้
– หลัง เป็นช็อคอับแบบคู่ ปรับตั้งได้เช่นกัน

ระบบเบรก
– ด้านหน้า เป็นดิสก์เบรกเดี่ยว
– ด้านหลัง ดิสก์เบรกและคาลิเปอร์

สำหรับโลกมอเตอร์ไซค์ URAL ถือเป็น OTOP ของดีประจำประเทศรัสเซีย จากแต่ก่อน URAL จะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในราชการสงคราม แต่เมื่อสงครามสิ้นสุดลง URAL จึงต้องดิ้นรนเพื่อหาหนทางที่จะพยุงให้ธุรกิจดำเนินต่อไป จึงมีการผลิตรถออกมาสำหรับพลเรือนและเป็นสิ้นค้าส่งออกทำกำไรให้ประเทศได้อีกด้วย ขอพาเพื่อนๆ ไปดู Limited Edition อีกรุ่นซึ่งน่าจะเหมาะกับการลุยหิมะมากถึงมากที่สุด

ขอขอบคุณภาพจาก www.uralbaikal.com

612345

ROYAL ENFIELD พาลูกค้าทั่วโลกร่วมขี่มอเตอร์ไซค์ บนดินแดนภาคเหนือในทริป ‘Tour of Thailand 2017’

$
0
0

ROYAL ENFIELD พาลูกค้าทั่วโลกร่วมขี่มอเตอร์ไซค์ บนดินแดนภาคเหนือในทริป ‘Tour of Thailand 2017’

6รอยัล เอนฟิลด์ รถมอเตอร์ไซค์คลาสสิคขนาดกลางสายพันธุ์อังกฤษที่มียอดขายเติบโตรวดเร็วที่สุดในโลก จัดทริปพาลูกค้ารอยัล เอนฟิลด์ ทั้งชาวไทยและต่างชาติออกเดินทางไกลสู่ภาคเหนือไปกับทริป ‘Tour of Thailand 2017’ ทริปการขับขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านเส้นทางที่มีทิวทัศน์สวยงามในเส้นทาง 1,557 กม. จากกรุงเทพฯ ถึงเชียงใหม่ตลอดระยะเวลา 7 วัน โดยมีเจ้าของออกเดินทางพร้อมมอเตอร์ไซค์คู่ใจถึง 30 กว่าชีวิต ผู้ร่วมทริปทุกคนจะได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่มอเตอร์ไซค์สไตล์โมเดิร์นคลาสสิคของรอยัล เอนฟิลด์ ในระยะทางไกล ภายใต้การผจญภัยในเส้นทางผ่านหุบเขาและทิวทัศน์ที่สวยงามของธรรมชาติตลอดเส้นทางขึ้นสู่ภาคเหนือของประเทศไทย

3สำหรับ ‘Tour of Thailand 2017’ ครั้งนี้นับเป็นทริปทางไกลครั้งแรกสำหรับลูกค้ารอยัล เอนฟิลด์ ทั้งชาวไทยและต่างชาติสำหรับการขี่รถในภาคเหนือประเทศไทย โดยทางรอยัล เอนฟิลด์ วางแผนจัดเป็นทริปประจำปี เพื่อให้ลูกค้ามีโอกาสสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ทางไกล ให้สอดคล้องกับปรัชญาของแบรนด์ที่มุ่งเน้นให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่อย่างแท้จริงจากมอเตอร์ไซค์สไตล์โมเดิร์นคลาสสิคของรอยัล เอนฟิลด์ โดยทริปนี้จะช่วยให้เติมเต็มความต้องการทางด้านประสบการณ์การขับขี่ของลูกค้าผ่านการขับขี่บนเส้นทางที่หลากหลายและมีความสนุกของเส้นทางที่แตกต่างกัน พร้อมชมทิวทัศน์อันสวยงาม ตลอดจนเข้าเยี่ยมชมสถานที่อันเป็นแลนด์มาร์คของจังหวัดต่างๆ ตลอดทางในระยะเวลา 1 สัปดาห์ เช่น การสักการะจิตรกรรมฝาผนังอุโบสถอันล้ำค้า ณ วัดภูมินทร์ และเที่ยวชมบ่อเกลือสินเธาว์ภูเขา ซึ่งเป็นบ่อเกลือเพียงแห่งเดียวในโลกที่อยู่บนภูเขาในจังหวัดน่าน การขี่รถเที่ยวชมกว๊านพะเยา การเยี่ยมชมวัดร่องขุ่น หนึ่งในวัดที่สวยงามที่สุดในประเทศไทย พร้อมการสัมผัสอากาศหนาวต่ำกว่า 10 องศา บนดอยแม่สลอง ของจังหวัดเชียงราย

4รวมถึงการขี่รถเทียวชมวิวภูเขา ณ ดอยแม่สะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนจะส่งท้ายทริป Tour of Thailand 2017 ด้วยปาร์ตี้มอบเกียรติบัตรให้แก่ผู้เข้าร่วมทริปทุกท่านที่สามารถพิชิตเส้นทางกว่าพันโค้งบนเขา และข้ามผ่านอุปสรรคบนถนนออฟโรดสุดท้าทาย ซึ่งเป็นเส้นทางในฝันของเหล่าไบค์เกอร์ ด้วยการขี่รถรอยัล เอนฟิลด์ตลอดระยะเวลา 7 วัน จนถึงจุดมุ่งหมายครั้งนี้ได้สำเร็จ7มอเตอร์ไซค์รอยัล เอนฟิลด์ทุกรุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทย ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในทริป Tour of Thailand 2017 ได้แก่ รอยัล เอนฟิลด์ บุลเล็ต, รอยัล เอนฟิลด์ คลาสสิคและคลาสสิค โครม, รอยัล เอนฟิลด์ คอนติเนนทัล จีที, และล่าสุดกับ รอยัล เอนฟิลด์ หิมาลายัน มอเตอร์ไซค์อเนกประสงค์ที่มาพร้อมสมรรถนะและความสะดวกสบายทุกการขับขี่ และมอเตอร์ไซค์ทุกคันในทริปนี้ผ่านการใช้งานอย่างเต็มสมรรถนะภายใต้การเดินทางอย่างต่อเนื่อง 7 วัน ด้วยระยะทาง 1,557 กม. จนถึงจุดหมาย

5นอกจากนี้ รอยัล เอนฟิลด์ยังมีการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลก อาทิ ไรเดอร์ มาเนีย (Rider Mania) กิจกรรมรวมตัวของผู้ขับขี่รถรอยัล เอนฟิลด์ทั่วโลก ณ ชายหาดเมืองโกอา ประเทศอินเดีย และหิมาลายัน โอดิสซีย์ (Himalayan Odyssey) หนึ่งในกิจกรรมที่มีเส้นทางขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ที่มีความท้าทายมากที่สุดในโลก บนเส้นทางเทือกเขาหิมาลัย รวมถึงกิจกรรม ‘วัน ไรด์’ (One Ride) ที่เป็นการรวมตัวของผู้คนทั่วโลก เพื่อขี่มอเตอร์ไซค์ในวันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายน

13 6 9 10 4 5 7 8 12 13 14 11

VESPA Sei Giorni “เจ้าอ้วนเขียวตัวจี๊ด 300 ซีซี.”

$
0
0

VESPA Sei Giorni “เจ้าอ้วนเขียวตัวจี๊ด 300 ซีซี.”

VESPA Sei Giorni

VESPA Sei Giorni 

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ 1 ลูกสูบ 4 วาล์ว

ระบบระบายความร้อน : ด้วยหม้อน้ำ

ขนาดความจุ : 278 ซีซี.

กระบอกสูบ x ระยะชัก : 75 x 63 มม.

ให้กำลังสูงสุด : 21 แรงม้า ความเร็วรอบที 7,500 มม.

ระบบจ่ายเชื้อเพลิง : ด้วยหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์

ชุดเกียร์ : เป็นแบบ AT

คลัทช์ : แบบแรงเหวี่ยง

ขับเคลื่อน : ด้วยสายพาน

สตาร์ทเครื่องด้วย : ระบบไฟฟ้า (ใช้มอเตอร์สตาร์ทใหม่ที่เงียบกว่าเดิม)

บังลมหน้า : ขนาดกะทัดรัดป้องกันแรงลมที่จะทำให้เกิดแรงหวนในเวลาขี่

ชุดเรือนไมล์ : จะคล้ายๆ กับแผงหน้าปัดของ VESPA PX

ไฟหน้า : แบบกลมติดตั้งอยู่ที่บังโคลนหน้า

แฮนด์ : แป๊ปที่ได้ต้นแบบมาจาก 1951 VESPA 125

ไฟท้าย : ดีไซน์เฉียบคมทรงคลาสสิค

เบาะนั่ง : ขนาดใหญ่นิ่มนั่งสบายเล่นระดับ

ชุดพื้นวางเท้า : กว้างวางเท้าได้สบาย

ท่อไอเสีย : มีการดีไซน์ความเป็นสปอร์ตที่ผสมผสานอย่างลงตัว

มิติตัวรถ
– ความยาว 1,950 มม.
– ความกว้าง 770 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงเบาะ : 790 มม.
– ระยะห่างฐานล้อ 1,375 มม.
– ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 9.5 ลิตร.

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า เป็นแขนเดี่ยว
– ด้านหลัง เป็นช็อคอับคู่

วงล้อ/ยาง
– ล้อหน้า เป็นอะลูมิเนียมอัลลอยแบบ 5 ก้านสีดำ ขนาด 120/70-12 นิ้ว
– ล้อหลัง เป็นอะลูมิเนียมอัลลอยแบบ 5 ก้านสีดำ ขนาด 130/70-12 นิ้ว

เบรก 
– หน้า เป็นแบบใช้ระบบไฮดรอลิค พร้อมด้วย ABS
– หลัง เป็นแบบใช้ระบบไฮดรอลิค พร้อมด้วย ABS

รุ่นนี้เป็นรถที่สวยเข้าขั้นต้องตามากๆ เลยอยากจะถึงมาแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกัน ชื่อรุ่นของมันก็จะแปลกๆ หน่อยคือ Sei Giorni ไปดูกันว่ารายละเอียดของมันเป็นแบบไหน

ขอขอบคุณภาพจาก www.vespa.com และ www.totalmotorcycle.com

12345


YAMAHA Star Eluder 2018 “ทั้งงดงามและมีเสน่ห์ส่งตรงจากแดนซามูไร”

$
0
0

YAMAHA Star Eluder 2018 “ทั้งงดงามและมีเสน่ห์ส่งตรงจากแดนซามูไร”
YAMAHA Star Eluder 2018
YAMAHA Star Eluder 2018

เครื่องยนต์ : เป็นแบบ 4 จังหวะ 2 สูบ V-twin

ระบบระบายความร้อน : ด้วยอากาศ

ความจุเครื่องยนต์ : 1,854 ซีซี.

กระบอกสูบ X ระยะชัก เท่ากับ : 100 X 118 มม.

วาล์ว : ไอดีกับไอเสีย 4 ชุด ต่อ 1 ห้องเผาไหม้

กำลังอัดเครื่องยนต์ : 9.5 : 1

ระบบการจ่ายเชื้อเพลิง : ระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิคส์จาก MIKUNI

เรือนลิ้นเร่ง : ขนาด 45 มม.

ชุดเกียร์ : แบบธรรมดา 6 สปีด

คลัทช์ : เป็นแบบชนิดเปียกสั่งงานด้วยสายสลิง

สตาร์ทเครื่องยนต์ : ด้วยระบบไฟฟ้า

ระบบขับเคลื่อน : สายพาน

ระบบอิเล็คทรอนิค : Traction Control และ Cruise Control และก็มีระบบ D เอาไว้ใช้ในการขับขี่

หน้ากาก : ทรงสปอร์ต พร้อมมีชิลบังลมขนาดเล็กที่ถูกออกแบบมาให้สายหมอบโดยเฉพาะ

ไฟหน้า : เป็นแบบ LED ฝั่งละ 2 ดวง

กระจกมองข้าง : มีการติดตั้งไฟเลี้ยวลงไปด้วย

แฮนด์ : แบบโน้มเข้าหาตัวคนขี่

เบาะนั่ง : แบบเน้นนั่งสบาย

กระเป๋าข้าง : ไว้เก็บสัมภาระได้แบบจุใจ

ท่อไอเสีย : เป็นแบบ 2-1-2

มิติตัวรถ
– กว้าง/ยาว/สูง : 975/2,490/1,275 มม.
– ระยะห่างฐานล้อ 1,710 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงเบาะนั่ง 700 มม.
– ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 25 ลิตร

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า เป็นช็อคอับเทเลสโคปิค ขนาด 46 มม. ช่วงยุบตัว 130 มม.
– ช็อคอับหลัง เป็นแบบช็อคเดี่ยว ระยะการทำงาน 110 มม.

ระบบเบรก
– เบรกหน้า เป็นแบบคู่ชนิดกึ่งให้ตัวได้ ขนาด 298 มม. คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ สั่งงานด้วยระบบไฮดรอลิค พร้อมด้วยระบบ ABS
– เบรกหลัง เป็นแบบเดี่ยว ขนาด 320 มม. คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ พร้อมด้วยระบบ ABS

ล้อ/ยาง
– หน้า เป็นแบบอัลลอย สวมยางขนาด 130/70-18 นิ้ว
– หลัง เป็นแบบอัลลอย สวมยางขนาด 200/55-16 นิ้ว

YAMAHA ขึ้นชื่อเรื่องสร้างทั้งรถแข่งและรถสปอร์ตติดอันดับต้นๆ ของโลกไปแล้ว แต่ก็มาสะดุดตรงเรื่องของการผลิตรถสูตรทางฝุ่น ไม่ใช่ว่าทำออกมาไม่ดี แต่ต้องใช้คำว่า โชคชะตายังมาไม่ถึง นอกเหนือไปจากรถที่เคยเขียนไปแล้ว YAMAHA ก็ยังทำรถครูสเซอร์ได้อย่างงดงามและมีเสน่ห์ที่สุดของเกาะญี่ปุ่นทำตลาดเป็นรองจากที่หนึ่งเพียงนิดหน่อยเท่านั้น

ขอขอบคุณภาพจาก www.yamahamotorsports.com

13876549101511121314

ใหม่ Yamaha GT 125 2018-2019 ราคา ยามาฮ่า GT 125 ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

$
0
0

ใหม่ Yamaha GT 125 2018-2019 ราคา ยามาฮ่า GT 125 ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

YAMAHA GT 125

IMG_3159 IMG_3162 IMG_3163 IMG_3164

YAMABA GT 125 ออกตัวแรง แซงทุกสไตล์
ออกตัวแรงด้วยเครื่องยนต์ Blue Core 125cc แรงจี๊ดสปีดจัดอันดับ 1 เหนือรถระดับเดียวกัน ดีไซน์สปอร์ตเท่ บิดมันส์ถึงใจ…เพื่อนซี้ใหม่ของวัยมันส์

ราคา YAMAHA GT 125 ราคา 43,500.

ราคา ยามาฮ่า GT 125 ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์
YAMAHA GT 125 ราคา, ตารางผ่อน

Yamaha GT 125

8910.11

3
Performance…แรงจัด แรงบิดสุดยอดในรอบต่ำ ลดการสั่นสะเทือน อัตราเร่งดี ขับขี่สบาย

– Fuel Efficiency…ประหยัดน้ำมัน เผาไหม้สมบูรณ์ขึ้น จุดระเบิดดีขึ้น ลดแรงเสียดทานและระบายความร้อนได้ดีขึ้น

– ECO – Friendly…รักษ์โลก ลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง เผาไหม้หมดจด ช่วยลดมลภาวะ

4
สปอร์ตบาดใจ ไฟหน้า FULL LED  เท่จัดเต็มกับไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟหรี่ และไฟเลี้ยวแยกส่วนบิวท์อินกับตัวรถ

5
ยางหลังใหญ่ พร้อมล้อแม็ก…สปอร์ตหนึบแน่น
ล้อแม็ก 14″ แข็งแกร่งทนทาน LED พร้อมยางหลังใหญ่ ขนาด 100/70 มม. ยึดเกาะถนนดี

6
Meter ดีไซน์สปอร์ต พร้อม ECO Lamp  แผงหน้าปัดทรงสปอร์ตดีไซน์ใหม่ พร้อมไฟ ECO Lamp บอกถึงการประหยัดในการขับขี่

7
Parking Break จอดมั่นใจในทางลาดชัน สวิตช์ล็อคเบรกหลัง แบบเบรกมือในรถยนต์ เพิ่มความมั่นใจเมื่อจอดรถในที่ลาดชัน

2
เครื่องยนต์บลูคอร์ 125 ซีซี. เทคโนโลยีแห่งความแรงและความประหยัดจากยามาฮ่า ระบบหัวฉีดอัจฉริยะและกระบอกสูบไดอะซิลที่พัฒนาใหม่เพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ในทุกระดับความเร็ว

เชิญชมหนังโฆษณา Yamaha GT125 ได้ที่นี่

Colors สี NEW YAMAHA GT 125
นิว ยามาฮ่า จีที 125 มีให้เลือก 4 สี ได้แก่  1.สีเทา-ดำ  2.สีน้ำเงิน-ขาว  3.สีแดง-ดำ  4.สีดำ-แดง

12
NEW YAMAHA GT 125 สีเทา-ดำ

13
NEW YAMAHA GT 125 สีน้ำเงิน-ขาว

14
NEW YAMAHA GT 125 สีแดง-ดำ

15
NEW YAMAHA GT 125 สีดำ-แดง

Specification NEW YAMAHA GT 125

รหัสรุ่น GT 125
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์แบบ 4 จังหวะ สูบเดี่ยว SOHC 2 วาล์ว
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี.) 125 ซีซี
ระบบระบายความร้อน ด้วยอากาศ
ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก (มม.) 52.4 x 57.9 มม.
อัตราส่วนกำลังฉีด 9.5 : 1
ชนิดหัวเทียน NGK/CR6HSA
ระบบจ่ายน้ำมัน ระบบหัวฉีด
ระบบจุดระเบิด T.C.I.
ระบบคลัทช์ คลัตช์แห้ง ชนิดแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางอัตโนมัติ
ระบบสตาร์ท สตาร์ทมือด้วยระบบไฟฟ้า และสตาร์ทเท้า
น้ำมันเชื่อเพลิง น้ำมันแก๊สโซฮอล์ค่าออกเทน 91 ขึ้นไป หรือ E20
ความจุน้ำมันเชื้อเพลิง 4.2 ลิตร
ความจุน้ำมันเครื่อง 0.8 ลิตร
ระบบส่งกำลังขับ ออโตเมติก แบบสายพานตัววี (V-Belt)
อัตราทดอัตโนมัติ(หน้า-หลัง) 2.478-0.829 : 1
อัตราทดเฟืองท้าย 10.156 : 1
กรองอากาศ แบบกรองกระดาษเคลือบน้ำมัน
โครงรถ
ชนิดของเฟรม อันเดอร์โบน
ช่วงศูนย์กลางระหว่างล้อ 1,350 มม.
มุมคาสเตอร์/ระยะเทล 26.5 / 100 มม.
กว้าง x ยาว x สูง 685 x 1,870 x 1,070 มม.
ความสูงจากพื้นถึงเบาะ 773 มม.
ระยะห่างจากพื้นถึงเครื่อง 135 มม.
ช่วงศูนย์กลางระหว่างล้อ 1,260 มม.
รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 1,900 มม.
น้ำหนักรวมน้ำมันเครื่อง และน้ำมันเชื้อเพลิงเต็มถัง 96 กก.
ระบบกันสะเทือน
หน้า เทเลสโคปิค
หลัง ยูนิตสวิง
ระบบเบรก
เบรกหน้า ดิสก์เบรกลูกสูบเดี่ยว
เบรกหลัง ดรัมเบรก
ยาง
ล้อหน้า 80/80R-14M/C 43P (แบบมียางใน)
ล้อหลัง 100/70R-14M/C 51P (แบบมียางใน)
ระบบไฟ
ไฟหน้า LED
แบตเตอรี่ 12 V, 3.0 Ah GTZ4V

KAWASAKI Z900RS “ทรงนี้ยังไงก็เท่ โชว์ความเก๋าในแบบยุคก่อน”

$
0
0

KAWASAKI Z900RS “ทรงนี้ยังไงก็เท่ โชว์ความเก๋าในแบบยุคก่อน”
Kawasaki-Z900RS
KAWASAKI Z900RS 

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ 2 สูบเรียง  16 วาล์ว DOHC

ระบายความร้อน : หม้อน้ำและชุดพัดลมไฟฟ้า

ความจุ : 948 ซีซี.

ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชัก : 73.4 x 56 มม.

ให้กำลังสูงสุด : 111 แรงม้า ที่ 8,500 รอบ/นาที

อัตราสิ้นเปลือง : 5.3 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร

ระบบเกียร์ : ธรรมดา 6 สปีด

ระบบคลัทช์ : แบบเปียกสั่งงานด้วยสายสลิง

ระบบจ่ายเชื้อเพลิง : หัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์

ระบบขับเคลื่อน : โซ่/สเตอร์

สตาร์ทเครื่องยนต์ : ด้วยระบบไฟฟ้า

ไฟหน้า : เป็นแบบจอกลม

แฮนด์ : เป็นแบบ T-Bar ชนิดที่ไม่มีคานค้ำกลาง จับยึดแผงคอด้านบนด้วยตุ๊กตาแฮนด์

ถังน้ำมัน : ยกแบบมาจาก Z 1

เบาะนั่ง : เป็นแบบใบเดียวยาวเล่นระดับเล็กน้อย

กระจกมองข้าง : ตั้งสูงแบบกลม

ระบบท่อไอเสีย : มาในแบบ 4-1-1

มิติตัวรถ
– กว้าง/ยาว/สูง : 865/2,100/1,150 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงเบาะ : 800 มม.
– ระยะห่างฐานล้อ : 1470 มม.
– น้ำหนักตัวรถ : 214 กิโลกรัม

ล้อ/ยาง
– หน้า เป็นอัลลอยขนาด 17 นิ้ว สวมยางขนาด 120/70 ZR 17
– หลัง เป็นอัลลอยขนาด 17 นิ้ว สวมยางขนาด 180/55 ZR 17

ระบบกันสะเทือน
– หน้า แบบเทเลสโคปิคผิวแกนเคลือบด้วยฮาร์ดโครเมี่ยม
– หลัง ช็อคอัปเดี่ยวปรับตั้งค่าความกระด่างของขดสปริงได้

ระบบเบรก
– หน้า เป็นแบบคู่ชนิดกึ่งให้ตัวได้ ขนาด 300 มม. คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ TOKICO เรเดียลเม้าท์ สั่งการด้วยระบบไฮดรอลิค
– หลัง เป็นแบบเดี่ยวขนาด 250 มม. คาริเปอร์ 1 ลูกสูบ

ใครที่เกิดทันและเคยลองขี่รถในยุคนั้นถึงจะรู้มุมมองและการออกแบบในแนวๆ นี้ได้เป็นอย่างดี KAWASAKI Z900RS มีแรงบันดาลใจจาก Z 1 และบางมุมก็คล้ายๆ กับ Balius 250 ซึ่งส่วนผสมทั้งสองรุ่นก็ดูเหมือนจะลงตัวกับเฟรมและเครื่องยนต์ในขนาด 900 ซีซี. มันให้อารมณ์ที่ไม่ต่างไปจาก New Beetle ที่ยังคงเสน่ห์และ DNA ของเดิมๆ เอาไว้ เพิ่มเติมความทันสมัยและปรับสมรรถนะให้เร็วและแรงยิ่งขึ้น

ขอขอบคุณภาพจาก www.totalmotorcycle.com

1
2

CAN AM Spyder F3-S “ไม่เหมือนใครที่สุดแห่งยานยนต์ 3 ล้อ”

$
0
0

CAN AM Spyder F3-S “ไม่เหมือนใครที่สุดแห่งยานยนต์ 3 ล้อ”
CAN AM Spyder F3-S
CAN AM Spyder F3-S 

เครื่องยนต์ : แบบ 4 จังหวะ 3 สูบเรียง จาก ROTAX

ขนาดความจุ : 1,330 ซีซี.

กระบอกสูบ x ระยะชัก : 84 x 80 มม.

ระบบระบายความร้อน : ด้วยหม้อน้ำ

ให้กำลังสูงสุด : 105 แรงม้า ที่รอบเครื่อง 6,000 รอบ/นาที

แรงบิดสูงสุด : 130 นิวตัน-เมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที

ชุดเกียร์ : ธรรมดา 6 สปีด ชนิด Semi-Automatic

ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ : สตาร์ทด้วยไฟฟ้า

ระบบขับเคลื่อน : ด้วยสายพาน (คล้ายๆ กับการขับเคลื่อนของ HARLEY-DAVIDSON)

เฟรม : จะมีลักษณะตัว Y แยกตามวงล้อทั้ง 3

แฮนด์ : การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของ CAN AM

เบาะนั่ง : แบบใบเดียวโค้งรับให้นั่งสบาย

มิติตัวรถ
ยาว/กว้าง/สูง : 2,642/1,497/1,099 มม.
ความสูงจากพื้นถึงเบาะ : 675 มม.
ระยะห่างฐานล้อ : 1,709
น้ำหนักตัวรถ : 408 กิโลกรัม

ระบบกันสะเทือน
– หน้า เป็นแบบปีกนกคู่ใกล้เคียงกับของ ATV
– หลัง คล้ายกับของรถมอเตอร์ไซค์แนวของช็อคอับเหมือนจะตั้งฉากกับพื้นดิง

ระบบเบรค
– หน้า ถูกยกมาจากรถยนต์พร้อมทั้งคาลิเปอร์เน้นในการหยุดรถให้หนึบ
– หลัง คล้ายกับของมอเตอร์ไซค์

ล้อ/ยาง
– หน้า ขนาด ขนาดกระทะล้ออยู่ที่ 15 นิ้ว คล้ายกับรถยนต์ สวมยาง 165/55 R 15
– หลัง วงล้อขนาด 15 นิ้ว  คล้ายกับรถมอเตอร์ไซค์ สวมยาง 225/50 R 15 นิ้ว

ถือว่าเป็นความรู้สึกใหม่เลยถ้าใครเคยได้ลองขี่ยานยนต์สามล้อที่มีชื่อว่า CAN AM เพราะมันไม่เหมือนใครและมันไม่มีใครเหมือนได้เลยบนโลกใบนี้ แต่เป็น CAN AM รถที่เกิดมาเพื่อเป็นยานยนต์สามล้อนับตั้งแต่อยู่ในสมองของนักออกแบบ

ขอขอบคุณภาพจาก can-am.brp.com และ www.totalmotorcycle.com

48712561039

MV AGUSTA F4 RC Limited Edition “จอมปีศาจพลังทำลายล้าง 1,000 ซีซี.”

$
0
0

MV AGUSTA F4 RC Limited Edition “จอมปีศาจพลังทำลายล้าง 1,000 ซีซี.”
MV AGUSTA F4 RC Limited Edition
MV AGUSTA F4 RC Limited Edition

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ 4 สูบ 16 วาล์ว

ชุดวาล์ว : เป็นไททาเนี่ยม

ระบบระบายความร้อน : ด้วยน้ำ

ความจุเครื่องยนต์ : 998 ซีซี.

ส่งกำลังสูงสุด : 202 แรงม้า ที่ 13,450 รอบ/นาที

แรงบิดสูงสุด : 151 นิวตัน-เมตร ที่ 9,300 รอบ/นาที

ชุดคิทท่อไอเสีย : SC-Poroject Full Titanium แบบ 4-2-1-2 เพิ่มแรงม้าให้เป็น 212 แรงม้า ที่ 13,600 รอบ/นาที

กำลังอัดเครื่องยนต์ : 13.4 : 1

จากกระบอกสูบ X ระยะชัก เท่ากับ : 79 X 50.9 มม.

ระบบการจ่ายเชื้อเพลิง : ระบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิคส์ MVICS (Motor & Vehicle Integrated Control System) ที่พัฒนามาจาก MIKUNI 1 ห้องเผาไหม้มีหัวฉัด 2 ชุด

ชุดเกียร์ : แบบธรรมดา 6 สปีด พร้อมติดตั้ง Quick-Shift ตัดต่อควบคุมระบบอิเล็คทรอนิคส์ โอกาสจะเข้าเกียร์ผิดพลาดถือเป็นศูนย์ พร้อมสลับเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว

คลัทช์ : เป็นแบบชนิดเปียกสั่งงานด้วยระบบไฮดรอลิค BREMBO

ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ : ด้วยระบบไฟฟ้า

ระบบขับเคลื่อน : โซ่/สเตอร์

เฟรม : เป็นแบบท่ออะลูมิเนียมเกรดพิเศษและเหล็กโครงโมลี่แบบเดียวกับที่ใช้สร้างจักรยานแข่งขันที่เน้นความเบาและแข่งแรง

รายละเอียดตัวรถ : ผลิตออกมาแค่ 250 คัน มีการสลักหมายเลขไว้ที่แผงคอรถ ชุดแฟริ่งเป็นคาร์บอนเคฟล่าร์ทั้งคันพร้อมกับลายกร๊าฟฟิคแบบใหม่ ลดน้ำหนักได้ประมาณ 4 กิโลกรัม ใช้น็อตไททาเนียมทั้งหมด 333 ตัว มีการปรับแต่ง Race ใช้ชิ้นส่วนแม็กนีเซียม 11 ชิ้น และอีก 11 ชิ้นจากคาร์บอนไฟเบอร์

มิติตัวรถ
– ความยาว 2115 มม.
– ความกว้าง 750 มม.
– เบาะนั่ง 810 มม.
– ระยะห่างฐานล้อ 1430 มม.
– ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 17 ลิตร
– น้ำหนักตัวรถ 175 กิโลกรัม

วงล้อ/ยาง
– ด้านหน้า เป็นอะลูมิเนียมอัลลอยฟอร์จ 9 ก้าน ขนาด 3.50X17 นิ้ว สวมยาง 120/70 ZR 17
– ด้านหลัง เป็นอะลูมิเนียมอัลลอยฟอร์จ 9 ก้าน ขนาด 6.00X17 นิ้ว สวมยาง 200/55 ZR 17

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า ช็อคอับเทเลสโคปิคหัวกลับขนาด 43 มม. มีระยะยุบตัว 120 มม. จาก OHLINS ผิวแกนเป็นสีทองแบบเดียวกับตัวแข่ง Moto GP โดยจะเรียกย่อๆ ว่า TiN ปรับตั้งได้เต็มรูปแบบ
– ด้านหลัง เป็นช็อคอับเดี่ยว OHLINS รุ่น TTX36 มีระยะยุบตัว 120 มม. และยังมีโหมดการปรับตั้งที่ระเอียดสุดๆ

เบรก
– เบรกหน้า เป็นแบบคู่ชนิดกึ่งให้ตัวได้ขนาด 320 มม. คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบรุ่น GP จาก BREMBO สั่งงานด้วยระบบไฮดรอลิค
– เบรกหลัง มาด้วยขนาด 210 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ จาก BREMBO พร้อมระบบ ABS

MV AGUSTA F4 RC คือมอเตอร์ไซค์ที่มีความเร็วและศาสตร์แห่งงานศิลป์ในการออกแบบ และยังใส่เทคโนโลยีไว้มากมายเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการขับขี่ ทุกชิ้นส่วนออกแบบมาอย่างพิถีพิถันหลายคนอาจจะคุ้นเคยกับรหัสต่อท้ายของ MV AGUSTA F4 รหัสด้วย R, RR เป็นต้น แต่ในรุ่นนี้จะพิเศษตรงที่เป็นรหัส F4 RC ซึ่งย่อมาจาก Reparto Corse ซึ่งแปลเป็นภาษาอิตาลีได้ความหมายเท่ากับ Racing Department หรือ รถสายซิ่งนั่นเอง แถมในปี 2018 ยังต่อท้ายรหัส RC ด้วย Limited Edition ย้ำความพิเศษไปอีกต่างหาก โดยให้สมรรถนะแบบเดียวกับรถแข่งขันในรายาร World Superbike Championship จากทีม MV AGUSTA

ขอขอบคุณภาพจาก www.mvagusta.com

12345678910

Viewing all 1453 articles
Browse latest View live