“กำแพงวิทยา” แบทเทิลจุดพลังฝันสำเร็จ ผงาดแชมป์ภาคใต้คว้าสิทธิ์ทีมที่ 3 ตบเท้าลุยอังกฤษกับ “สพฐ.-เอ.พี.ฮอนด้า เรด แชมเปี้ยน แข่งขันทักษะฟุตบอลชิงแชมป์ไปอังกฤษปี 7″

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมกับ บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย จัดกิจกรรม “สพฐ.-เอ.พี.ฮอนด้า เรด แชมเปี้ยน แข่งขันทักษะฟุตบอลชิงแชมป์ไปอังกฤษปี 7″ ประจำปี 2560 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี พร้อมเฟ้นนักเตะเยาวชนไทยอายุ 12-15 ปี ที่กำลังศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษา ที่มีทักษะฟุตบอลขั้นพื้นฐานดีที่สุด จาก 5 ภาครวม 25 คน จากสถานศึกษาทั่วประเทศ ไปอบรมทักษะฝีเท้าในรูปแบบ Short Training Course กับสโมสรฟุตบอลชั้นนำถึงประเทศอังกฤษ

ล่าสุดการแข่งขันสนามที่ 3 “ชิงแชมป์ภาคใต้” ณ สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (วิทยาเขตหาดใหญ่) จ.สงขลา ผลปรากฎว่าทีมแชมป์ตกเป็นของ โรงเรียนกำแพงวิทยา (ทีมกำแพงวิทยา A) สนับสนุนโดย บจก. เซาเทอร์นมอเตอร์เซลส์ จ.สตูล ที่โชว์ความสามารถแบทเทิลทักษะฟุตบอล 5 สถานี คือ เดาะ-เลี้ยง-ส่ง-โหม่ง-ยิง ได้คะแนนรวม 203 คะแนน คว้าชัยเหนือทั้งหมด 70 ทีมจากแดนด้ามขวานไทยที่ลงแข่งขันในครั้งนี้ พร้อมคว้าโควตาเป็นทีมที่ 3 ที่ได้โอกาสเดินทางไปพัฒนาทักษะลูกหนังถึงเมืองผู้ดี

นายอารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า “ขอแสดงความยินดีกับเยาวชนจากโรงเรียนกำแพงวิทยา ที่ฝึกซ้อมทักษะฟุตบอลมาอย่างเต็มที่จนสามารถคว้าชัยชนะในการชิงแชมป์ภาคใต้ได้สำเร็จในครั้งนี้ บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า และ ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเยาวชนไทยสู่การเป็นกำลังสำคัญของชาติ ปีนี้เรายังคงให้ความสำคัญกับพื้นฐานทักษะฟุตบอล 100% เช่นเดิม โดยการแบทเทิลทักษะ สพฐ.-เอ.พี.ฮอนด้า เรด แชมเปี้ยน ปีที่ 7 สนามต่อไปสนามที่ 4 จะเป็นการชิงแชมป์ภาคเหนือ ณ สนามกีฬา ม.ราชภัฏพิบูลสงคราม จ.พิษณุโลก วันที่ 9 ก.ย.นี้ ขอให้เยาวชนทุกคนตั้งใจฝึกซ้อมกันอย่างเต็มที่เพื่อลุ้นคว้าโอกาสสุดพิเศษเป็นตัวแทนประเทศไทยเดินทางไปพัฒนาฝีเท้าและทักษะลูกหนังต่อที่ประเทศอังกฤษ”

ทั้งนี้แชมป์ 2 สนามแรก ประกอบด้วย แชมป์สนามแรกภาคกลาง คือ โรงเรียนวังตะเคียนวิทยาคม จากจังหวัดปราจีนบุรี สนับสนุนโดย หจก.ประสิทธิ์มอเตอร์ปราจีนบุรี ได้คะแนนรวม 367 คะแนน และแชมป์สนามสองกรุงเทพฯ และปริมณฑล คือ โรงเรียนราชวินิตบางเขน ทีม A สนับสนุนโดย บจก. ชาญกิจเจริญ ได้คะแนนรวม 248 คะแนน

สำหรับ “สพฐ.-เอ.พี. ฮอนด้า เรดแชมเปี้ยน แข่งขันทักษะฟุตบอลชิงแชมป์ไปอังกฤษปี 7″ แบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 รอบ ได้แก่รอบการคัดเลือกระดับ สพม. ดำเนินการโดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ และรอบชิงแชมป์ระดับภาคตามกำหนดการดังต่อไปนี้ 26 ส.ค. ชิงแชมป์ภาคกลาง ณ สนามกีฬาธูปะเตมีย์, 27 ส.ค. ชิงแชมป์กรุงเทพฯและปริมณฑล ณ สนามกีฬาธูปะเตมีย์, 2 ก.ย. ชิงแชมป์ภาคใต้ ณ ม.สงขลานครินทร์ จ.สงขลา, 9 ก.ย. ชิงแชมป์ภาคเหนือ ณ สนามกีฬา ม.ราชภัฏพิบูลสงคราม จ.พิษณุโลก และ 16 ก.ย. ชิงแชมป์ภาคอีสาน ณ สนามกีฬากลาง จ.ขอนแก่น

ผู้ชนะเลิศทั้ง 5 ทีม จาก 5 ภาค รวม 25 คน จะได้ไปฝึกทักษะฟุตบอลแบบมืออาชีพในรูปแบบ Short Training Course กับสโมสรฟุตบอลชั้นนำที่ประเทศอังกฤษในช่วงต้นปี 2561 และทีมที่มีคะแนนสูงสุดเพียงทีมเดียวจะได้รับถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี

เยาวชนที่สนใจจะเติมเต็มความฝันสู่นักฟุตบอลอาชีพ สามารถสมัครร่วมการแข่งขันได้ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศโดยติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.aphonda.co.th

เปิดตัวแล้ว Honda CB150R ExMotion ใหม่ วันนี้
ซึ่งมีด้วยกัน 4 รุ่นย่อย 4 ราคา ได้แก่

สำหรับ Honda CB150R ExMotion มีราคาที่ 99,800 บาท มี 4 สี ได้แก่ เทา-ดำ, แดง-ดำ, เขียว-ดำ และ ดำ
และ Honda CB150R ABS ราคา 109,800 บาท มี 2 สี ได้แก่ เทา-ดำ และ ดำ

Honda CB150R Street Cafe ผลิตแค่ 500 คัน ราคา 135,200 บาท

Honda CB150R Scrambler Cafe ผลิตจำกัด 1,000 คัน 118,400 บาท

และรุ่น CB150R Moriwaki Edition ที่จะเริ่มจำหน่าย ต.ค. 2017 เป็นต้นไป
ผู้สนใจสามารถสั่งจองได้ทาง Honda Wing Center ทั่วประเทศ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมจะมาอัพเดทกันอีกทีครับ

เปิดตัว Honda CB150R ExMotion 4 ไลน์อัพ

เปิดตัวแล้ว Honda CB150R ExMotion รถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ ล่าสุดจากค่ายปีนก ซึ่งในวันนี้นับเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในโลก
เราขอพาเพื่อนๆ มารับชมตัวจริงกันเลยครับ

Honda CB150R ExMotion มีไฮไลท์ที่น่าสนใจ ได้แก่

ไฟหน้าทรงกลม แบบ Full LED

ไฟท้าย และไฟเลี้ยวแบบ LED เช่นเดียวกัน

ดีไซน์ท่อไอเสียออกใต้ท้องสั้น สุดเท่ ในแบบรถสปอร์ตยุคใหม่ ซึ่งช่วยในเรื่องจุดศูนย์ถ่วงที่ดีอีกด้วย

สวิงอาร์ม Light Weight

มาตรวัดดิจิตอล Full LCD Backlight สีฟ้า
บอกครบทั้ง ความเร็วเป็นตัวเลข, รอบเครื่องเป็นสเกลทางด้านบน (Redline 10,500rpm), เลขบอกตำแหน่งเกียร์, เกจ์น้ำมัน, นาฬิกา พร้อมไฟ Shift Light

ตัวเบาะเป็นแบบ 2 ตอนสไตล์สปอร์ต

เครื่องยนต์ 150cc บล็อกใหม่ 4 วาล์ว DOHC

ระบบกันสะเทือนโช้กหน้า UpSideDown กระบอกสีทองขนาดแกนใหญ่ถึง 41 มม.

ระบบเบรกดิสก์ ด้านหน้าปั๊มเบรกเรเดียลเม้าท์จาก Nissin คาลิปเปอร์ 4 ลูกสูบ พร้อม ABS G-Sensor (รุ่น ABS)

ขนาดยางหลังหน้ากว้างถึง 150 มม.

เริ่มที่ CB150R รุ่น STD จะมี 4 สี
รุ่น CB150R ABS มี 2 สี

รุ่น Street Cafe ผลิต 500 คันเท่านั้น

รุ่น Scrambler Cafe ผลิต 1,000 คันเท่านั้น

และรุ่น Moriwaki ที่แต่งท่อไอเสีย พร้อมบังโคลนหน้าคาร์บอน

Yamaha มอบหมวกนิรภัยให้แก่หน่วยงานราชการใน จังหวัดเชียงใหม่

นายปพน ภูมิพาณิชย์ (คนที่ 6 จากขวา) ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายภาคเหนือ พร้อมผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด และผู้จำหน่ายในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ บริษัท เจริญมอเตอร์เชียงใหม่ จำกัด บริษัท แสงชัยมอเตอร์เซลส์ จำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด ลิ้มเม่งจั้ว และบริษัท ทวียนต์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ร่วมทำการมอบหมวกนิรภัย จำนวน 60 ใบ ให้แก่หน่วยงานราชการในจังหวัดเชียงใหม่ โดยมี พันเอก สุปกรณ์ เรืองสติ (คนที่ 6 จากซ้าย) ผู้แทนผู้บัญชาการ มณฑลทหารบกที่ 3 เป็นผู้รับมอบ

สำหรับการมอบหมวกนิรภัยในครั้งนี้ ยามาฮ่าได้ตระหนักถึงความปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในทุกพื้นที่ ที่จัดกิจกรรม พร้อมร่วมรณรงค์การขับขี่อย่างปลอดภัย และสวมหมวกนิรภัยใส่ใจกฏจราจร

โดยการมอบหมวกนิรภัยในครั้งนี้มีขึ้นในกิจกรรม Yamaha Cup Race สนามที่ 4 ณ ลานประเสริฐแลนด์ จ.เชียงใหม่ เมื่อเร็วๆ นี้

Yamaha ส่งท้ายความมันส์สุดเร้าใจกับการแข่งขัน Yamaha Cup Race 2017 สนามสุดท้ายของปี

นายธีระพงษ์ โอภาสกรกุล ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส ฝ่ายกีฬายานยนต์ และสถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า พร้อมผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด และผู้จำหน่ายในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และ 3 นักแข่งดีกรีแชมป์ นำโดย ตี-อนุภาพ ซามูล เบิร์ด-ประวัติ ญาณวุฒิ และ เติ้ล-พีระพงษ์ หลุยบุญเป็ง เข้าร่วมพิธีเปิดกิจกรรม Yamaha Cup Race สนามที่ 4 โดยได้รับเกียรติจาก พันเอก สุปกรณ์ เรืองสติ ผู้แทนผู้บัญชาการ มณฑลทหารบกที่ 3 เป็นประธานในพิธีเปิดเกมการแข่งขันเพื่อค้นหาดาวรุ่งดวงใหม่มาประดับวงการมอเตอร์สปอร์ตของประเทศไทย

สำหรับการแข่งขัน Yamaha Cup Race ที่ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด จัดขึ้นมีเป้าหมายเพื่อเฟ้นหานักแข่งหน้าใหม่พร้อมผลักดันให้ก้าวสู่วงการมอเตอร์สปอร์ตของประเทศไทยติดต่อกันมาเป็นปีที่ 14 ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากมาย อาทิเช่น อนุภาพ ซามูล นักบิดดีกรีแชมป์ประเทศไทยในรุ่น Super Sport 600 cc และรุ่น Super Stock 1000 cc, ประวัติ ญาณวุฒิ แชมป์ประเทศไทย รุ่น Super Sport 600 cc โดยล่าสุดทั้ง 2 คนร่วมทีมคว้าแชมป์ Suzuka 4Hours Endurance Race 2017 มาครองได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของนักบิดไทย, อานนท์ สังวาลย์ แชมป์ประเทศไทยในรุ่น Super Stock 1000 cc โดยอยู่ภายใต้สังกัด YAMAHA THAILAND RACING TEAM และ YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM เป็นต้น

สำหรับกิจกรรม Yamaha Cup Race สนามที่ 4 ซึ่งเป็นสนามสุดท้ายของปีนี้ จัดขึ้น ณ ลานประเสริฐแลนด์ จ.เชียงใหม่ เมื่อเร็วๆ นี้

ใหม่ NEW HONDA CB 150R EXMOTION 2017-2018 ราคา ฮอนด้า CB150R EXMOTION ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

HONDA CB150R EXMOTION รถจักรยานยนต์สายพันธุ์สปอร์ต  ดีไซน์โดดเด่นด้วยสไตล์โมเดิร์นคาเฟ่ เส้นสายการออกแบบที่เฉียบคมและใส่รายละเอียดของสไตล์ในทุกชิ้นส่วน เพียบพร้อมด้วยนวัตกรรมใหม่ล่าสุดครั้งแรกในโลก ด้วยการนำเทคโนโลยีจากบิ๊กไบค์มาใส่รถสปอร์ตขนาด 150 ซีซี. แบบเต็มรูปแบบ ตั้งแต่เครื่องยนต์ออกแบบใหม่ขนาด 150 ซีซี. Generation 2017 DOHC 4 วาล์ว แบบ Roller Rocker Arm เกียร์ 6 สปีด ลูกสูบเคลือบโมลิบดีนั่ม ระบายความร้อนด้วยน้ำ จ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI มาตรฐานไอเสียระดับ 6 ทำให้เครื่องแรง อัตราเร่งดี เร้าใจทุกการขับขี่ แต่ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง

ส่วนโช้คอัพหน้าแบบหัวกลับขนาดใหญ่ 41 มม. ใหญ่สุดในรถสปอร์ต 150 ซีซี ขนาดเดียวกับ X-ADV 750 บิ๊กไบค์สายลุย ท่อไอเสียแบบสั้น ดีไซน์ใหม่ ที่วางอยู่ใกล้กับเครื่องยนต์

ระบบไฟ Full LED ทั้งคัน พร้อมเรือนไมล์ Full LCD Multifunction Meter ที่บอกฟังก์ชั่นการใช้งานอย่างครบครัน

HONDA CB 150R มาพร้อมกับความสุดยอด 5 ประการ มีดังนี้

ความสุดยอดที่ 1 เริ่มตั้งแต่ผู้ที่พัฒนารถรุ่นนี้เป็นผู้พัฒนารถ RC211, RC213V-S และรถซุปเปอร์สปอร์ตหลายๆรุ่นของฮอนด้า อาทิ CBR600RR ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีความรู้และความชำนาญเกี่ยวกับรถสปอร์ตเป็นอย่างดีและได้ถ่ายทอด DNA ความเป็นสปอร์ตมาสู่ CB150R คันนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ความสุดยอดที่ 2 คือ เครื่องยนต์ใหม่ขนาด 150 ซีซี. ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แรงและเร้าใจกับผู้ได้ขับขี่

ความสุดยอดที่ 3 คือ การออกแบบที่คิดมาอย่างพิถีพิถันที่เน้นการรวมมวลมาที่จุดศูนย์ถ่วงของตัวรถมากที่สุด และมีการทำให้มีน้ำหนักเบาด้วยการออกแบบให้มวลน้ำหนักมาอยู่ใกล้ผู้ขับขี่ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้ง่ายและขับขี่สนุก

ความสุดยอดที่ 4 คือ อุปกรณ์ต่างๆที่ใส่มาในรถคันนี้เป็นสเป็คระดับเดียวกันกับรถบิ๊กไบค์ ไม่ว่าจะเป็น โช้คอัพหัวกลับขนาดเดียวกับ X-ADV 750 หรือเบรกหน้าเรเดียลเมาท์ 4 พอต พร้อม ABS G- Sensor ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีอยู่ใน CBR1000RR

ความสุดยอดที่ 5 คือ Honda ได้ร่วมกับแบรนด์ตกแต่งชั้นนำจากญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น Moriwaki, G’Craft และ Kitaco มาร่วมออกแบบและผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่ง เพื่อเสริมให้ CB150R คันนี้โดดเด่นและดึงดูดทุกสายตา พร้อมสะท้อนความมีสไตล์ของโมเดิร์นคาเฟ่ได้อย่างลงตัว

HONDA CB150R ราคา
ราคา HONDA CB150R ฮอนด้า CB 150R รุ่น Standard 99,800.
ราคา HONDA CB150R ฮอนด้า CB 150R รุ่น ABS 109,800.

HONDA CB150R รุ่นตกแต่งพิเศษราคา
ราคา HONDA CB150R ฮอนด้า CB 150R รุ่น Scramble Café  118,400. (1,000 คัน)
ราคา HONDA CB150R ฮอนด้า CB 150R รุ่น Street Café  135,200. (500 คัน)
ราคา HONDA CB150R ฮอนด้า CB 150R รุ่น Moriwaki Edition พร้อมวางจำหน่าย ต.ค. ราคายังไม่เปิดเผย
*เป็นราคาแนะนำ

*รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม, ไม่รวมทะเบียน และ พ.ร.บ.

**ราคาอาจเปลี่ยนแปลงตามแต่ละ Dealer และพื้นที่

AP HONDA เริ่มทยอยวางจำหน่าย Honda CB150R ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ณ ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศ

ราคา HONDA CB 150R ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

HONDA CB150R H2C

เป็นอิสระจากทุกนิยามทั่วไป… หลงใหลเรื่องราวคลาสสิค แต่ก็เข้าใจว่าโลกหมุนเร็วแค่ไหน แค่สไตล์ สปีด และชีวิตที่ใช้ ก็ให้ความหมายใหม่ บนเส้นทางไร้ขีดจำกัด CB150R Modern Cafe

FULL LED LIGHTING SYSTEM – ไฟหน้าทรงกลม สไตล์คาเฟ่ พร้อมระบบไฟส่องสว่าง LED รอบคัน เท่ ทันสมัยปลอดภัยไปอีกขั้น

FULL LED LIGHTING SYSTEM – พร้อมระบบไฟส่องสว่าง LED รอบคัน เท่ ทันสมัย ปลอดภัยไปอีกขั้น

MUSCULAR DESIGNED FUEL TANK – ดีไซน์ถังน้ำมันโดดเด่นไม่ซ้ำใคร ให้อารมณ์สปอร์ต เท่ ดุดัน พร้อมฝาถังน้ำมันแบบ Airplane tank Cap สะดวกในการใช้งาน

NEW FULL LCD MULTIFUNCTION METER – เรือนไมล์ LCD พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานครบครัน เช่น
– ไฟเตือนการเปลี่ยนเกียร์ เมื่อรอบเครื่องยนต์สูงถึงรอบที่ตั้งไว้
– ฟังก์ชั่นบอกตำแหน่งเกียร์
– ค่าหน่วงรอบสูงสุดเครื่องยนต์
– การจับเวลาการขับขี่
– ค่าประหยัดน้ำมัน กม./ลิตร

NEW 150CC DOHC 4 VALVE ENGINE – ขุมพลังใหม่ ถ่ายทอดเทคโนโลยีฮอนด้าจากสนามแข่ง ด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ 150 ซีซี DOHC 4 วาล์ว แบบ Roller Rocker Arm เกียร์ 6 สปีด พร้อมลูกสูบเคลือบโมลิบดีนั่ม ให้อัตราเร่งเร้าใจทุกการขับขี่

Compact Hi-Density Radiator – หม้อน้ำประสิทธิภาพสูง ให้การระบายความร้อนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

New Design Muffler – ท่อไอเสียแบบสั้น ดีไซน์ใหม่ มี่ว่างอยู่ใกล้กับเครื่องยนต์ตามแนวคิดการออกแบบรวมมวลที่จุดศูนย์ถ่วง ส่งผลให้รถมีการทรงตัวดี

150 mm-Weight Rear Tire – เร้าใจไปกับทุกการขับขี่ด้วยยางหลังขนาดใหญ่ หน้ายางกว้าง 150 มม. ที่ให้ความมั่นใจแม้ช่วงความเร็วสูง

Light Weight Swingarm – สวิงช์อาร์มใหม่ ดีไซน์บิ๊กไบค์ แข็งแกร่ง น้ำหนักเบา

Inner Pivot Type Diamond Frame – เฟรมที่ได้รับการออกแบบใหม่ โดยพัฒนาจากรถสายพันธุ์โมโตจีพี ที่วางจุดศูนย์รวมของน้ำหนักให้อยู่ใกล้ผู้ขับขี่มากที่สุด เพื่อการควบคุมง่ายทุกสไตล์การขับขี่

การจัดวางน้ำหนักของรถอยู่ระหว่างศีรษะของผู้ขับขี่ ศูนย์กลางล้อหน้า ศูนย์กลางล้อหลัง ในส่วนของน้ำหนักที่อยู่นอกจากพื้นที่สามเหลี่ยม เช่น น้ำหนักมวลขอไฟหน้า มวลของไฟท้าย และท่อไอเสีย จะถูกจัดวางให้อยู่ใกล้กับจุดศูนย์ถ่วงของตัวรถมากที่สุดและมีการทำให้มีน้ำหนักเบา ด้วยการออกแบบที่มวลน้ำหนักวางอยู่ใกล้กับตัวผู้ขับขี่ ทำให้การควบคุมง่ายยิ่งขึ้น

ABS with G-Sensor (ABS Type Only) – เบรก ABS หน้า – หลัง พร้อมระบบ G-Sensor เทคโนโลยีล่าสุดจาก Super Sport ระดับโลก ที่ ABS จะทำงานร่วมกับ G-Sensor ปรับแรงดันน้ำมันเบรกงให้เหมาะสม เพื่อป้องกันอาการท้ายปัด ท้ายยก ควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ

Radial Mount 4 Pot Calipers – ดิสก์เบรกหน้าจุดยึดแบบเรเดียลเมาล์ จานเบรกแบบแยกชิ้น ขนาด 296 มม. พร้อมคาลิปเปอร์ 4 พอต เช่นเดียวกับเทคโนโยยีสนามแข่ง หยุดอย่างมั่นใจทุกช่วงความเร็ว

41mm Upside-Down Front Suspension – โช้กหัวกลับขนาดใหญ่ 41 มม. สมรรถนะระดับรถบิ๊กไบค์ให้การทรงตัวดีเยี่ยมในทุกสภาพถนน

Colors สี HONDA CB 150R EXMOTION
ฮอนด้า ซีบี 150อาร์ อีเอ็กซ์โมชั่น มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ 1.สีเทา – ดำ  2.สีดำ  3.สีเขียว – ดำ  4.สีแดง – ดำ

หมายเหตุ : ระบบเบรค ABS มีเฉพาะสี Pearl Cadet Gray (G-B) / สีเทา-ดำ และ Asteroid Black Metallic (BLK) / สีดำเท่านั้น

HONDA CB 150R EXMOTION สีเทา – ดำ

HONDA CB 150R EXMOTION สีดำ

HONDA CB 150R EXMOTION สีเขียว – ดำ

HONDA CB 150R EXMOTION สีแดง – ดำ

Specification HONDA CB 150R EXMOTION

BMW Motorrad ส่งสองนักบิดตัวแทนประเทศไทย ร่วมทีมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการแข่งขัน BMW Motorrad International GS Trophy 2018

ในภาพ คุณจักรกริช ถาวงษ์เพีย (ที่ 5 จากซ้าย) ตัวแทนประเทศไทย และมร.แอริส คิววาส (ที่ 6 จากซ้าย) จากประเทศฟิลิปปินส์ ผู้ชนะจากการแข่งขันรอบคัดเลือก BMW Motorrad GS Trophy Southeast Asia Qualifier 2017 ซึ่งจะเข้าร่วมกับตัวแทนจากประเทศมาเลเซีย เพื่อรวมตัวเป็นทีม Southeast Asia ชิงชัยในการแข่งขัน BMW Motorrad International GS Trophy 2018 ณ ประเทศมองโกเลีย พร้อมกันนี้ ยังมี คุณวันวิสาข์ ภิรมย์ (ที่ 4 จากซ้าย) นักขี่หญิงไทยเพียงหนึ่งเดียวที่จะไปเข้าร่วมในการแข่งขัน International GS Trophy Female Qualifier ระดับนานาชาติ ณ ประเทศแอฟริกาใต้ในช่วงปลายปีนี้ เพื่อเฟ้นหาตัวแทนทีมหญิงไปเข้าร่วมการแข่งขัน BMW Motorrad International GS Trophy 2018 ณ ประเทศมองโกเลีย ในปีหน้า โดยมีคณะผู้บริหารจากบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย นำโดยคุณมาร์คุส เกลเซอร์ (ที่ 7 จากซ้าย) ผู้อำนวยการ บีเอ็ม ดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย และคุณกฤษฏา อุตตโมทย์ (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ร่วมแสดงความยินดี

บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย จัดการแข่งขันมอเตอร์ไซค์เอ็นดูโร่ระดับโลก พร้อมประกาศผลผู้ที่ได้เป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมทีมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประกอบด้วยนักบิดชาวไทย ชาวฟิลิปปินส์ และชาวมาเลเซีย ในการแข่งขัน BMW Motorrad International GS Trophy 2018 ณ ประเทศมองโกเลีย พร้อมทั้งตัวแทนนักบิดเอ็นดูโร่หญิง ที่จะไปเข้าร่วมในการแข่งขัน International GS Trophy Female Qualifier ณ ประเทศแอฟริกาใต้ ปลายปี 2560 นี้ เพื่อคัดเลือกตัวแทนทีมหญิงเพียงทีมเดียวไปเข้าร่วมการแข่งขัน BMW Motorrad International GS Trophy 2018 ณ ประเทศมองโกเลีย ในปีหน้า

BMW Motorrad International GS Trophy เป็นการแข่งขันมอเตอร์ไซค์เอ็นดูโร่ระดับโลกซึงจัดขึ้นทุก 2 ปี โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องควบมอเตอร์ไซค์ตระกูล GS เข้าฝ่าฟันกับบททดสอบในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่บนสภาพพื้นผิวที่ท้าทาย หรือทักษะการทำงานเป็นทีม

สำหรับการแข่งขัน BMW Motorrad GS Trophy Southeast Asia Qualifier 2017 นั้น มีนักบิดเอ็นดูโร่เข้าร่วม 80 ท่าน ซึ่งนอกจากจะเป็นการประชันทักษะในด้านการขับขี่แล้ว ยังเป็นบททดสอบในด้าน ทีมเวิร์ค เนวิเกชั่น เทคนิคและความแข็งแกร่งของร่างกายและจิตใจ ซึ่งจะทดสอบขีดจำกัดของทั้งผู้ขับขี่และมอเตอร์ไซค์ไปพร้อมๆกัน

เตรียมตัวและรถให้พร้อม! เดอะ ดิสธิงกวิช เจนเทิลแมน ไรด์ 2017 บิ๊กอีเวนต์ระดับโลกเพื่อผู้ชาย เตรียมปรากกฎในเมืองไทยอีกครั้ง

ในโลกในนี้หากพูดถึงผู้ชายก็จะมักถูกมองว่าเพศชายเป็นเพศที่มีความแข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บป่วย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วพบว่ามีผู้ชายหลายล้านคนทั่วโลกต้องประสบกับปัญหาทั้งด้านสุขภาพร่างกาย ตลอดจนสุขภาพจิตมากมายที่ยังรอคอยความช่วยเหลือไม่แพ้กัน จากภาพรวมสถิติทั่วโลกต่อปีจะมีผู้ชายจำนวนกว่า 5 แสนคนฆ่าตัวตาย และยิ่งไปกว่านั้นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากก็เป็นหนึ่งในโรคร้ายที่ผู้ชายอายุ 35 – 50 ปี มักจะเป็นอีกด้วย

‘เดอะ ดิสธิงกวิช เจนเทิลแมน ไรด์’ (The Distinguished Gentleman’s Ride) จึงได้กำเนิดขึ้น โดยเป็นกิจกรรมรณรงค์เพื่อสุขภาพผู้ชายโดยเฉพาะ มุ่งเน้นการสนับสนุนสถาบันหรือกองทุนวิจัยเรื่องมะเร็งต่อมลูกหมาก สุขภาพจิต รวมถึงโรคร้ายที่เกิดกับผู้ชายทั่วโลก ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าวเริ่มต้นในปี 2012 โดย Mark Hawwa ชายหนุ่มที่หลงใหลการขี่มอเตอร์ไซค์ชาวออสเตรเลียที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ของนักขับขี่มอเตอร์ไซค์ในสายตาคนทั่วไปให้ดีขึ้น ด้วยการแต่งกายใส่สูทสุดเนี้ยบพร้อมขับขี่รถมอเตอร์ไซค์สไตล์คลาสสิกออกมาโลดแล่นบนท้องถนน หลังจากได้แรงบันดาลใจมาจากการได้เห็นภาพ Don Draper พระเอกจากซีรี่ย์อเมริกันชื่อดังเรื่อง Mad Men ในชุดสูทหล่อเนี้ยบนั่งคร่อมอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิก

แต่การให้สุภาพบุรุษออกมารวมตัวกันแต่งตัวใส่สูทแล้วขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกไปรอบเมืองเพียงอย่างเดียวอาจดูเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ จึงได้เพิ่มความพิเศษของกิจกรรมนี้ด้วยการเป็นอีกช่องทางที่จะได้ช่วยเหลือสังคม นอกเหนือจากการรวมคนหลงใหลชื่นชอบการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ให้ได้มาพบปะพูดคุยกัน จึงให้ผู้เข้าร่วมงานร่วมบริจาคเงินเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเป็นกองทุนไว้บริจาคและสนับสนุนให้กับสถาบันหรือมูลนิธิที่ศึกษาเรื่องมะเร็งต่อมลูกหมาก ตลอดจนโรคร้ายที่มักเกิดขึ้นกับเพศชาย ซึ่งพบว่าการจัดงานครั้งแรกมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 2,500 คนจาก 64 เมือง และปี 2016 ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 56,000 คน จาก 500 เมือง ครอบคลุม 90 ประเทศทั่วโลก ได้เงินบริจาครวมกันกว่า 3.6 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ

ด้วยเหตุนี้ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์พรีเมี่ยมสัญชาติอังกฤษ มองเห็นถึงโอกาสอันดีที่จะได้นำเสนอเรื่องราวของผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ในอีกมุมหนึ่ง ซึ่งช่วยสะท้อนให้เกิดภาพลักษณ์ใหม่แก่ผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ในสายตาคนทั่วไป จึงได้เข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลัก และให้การสนับสนุนงานเป็นอย่างดีมาโดยตลอดเป็นระยะเวลาหลายปี

นายจักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เผยว่า เป็นที่น่าดีใจที่ ‘เดอะ ดิสธิงกวิช เจนเทิลแมน ไรด์ 2017’ (The Distinguished Gentleman’s Ride 2017) มีกำหนดจัดขึ้นในประเทศไทย โดยไฮไลท์ที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้คือคาราวานรถมอเตอร์ไซค์ที่จะรวมตัวกันออกไปขี่รอบเมือง โดยกรุงเทพฯ จะเริ่มต้นขี่จากบริเวณห้าง เอ็มโพเรี่ยม ขับผ่านเส้นทางถนนสุขุมวิท พระราม 4 เข้าสยาม ผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และมาสิ้นสุดที่ห้างดิ เอ็มควอเทียร์ ส่วนต่างจังหวัดก็มีการจัดกิจกรรมดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น เชียงใหม่ พิษณุโลก ลพบุรี อุบลราชธานี ขอนแก่น หาดใหญ่ และภูเก็ต ซึ่งคาดว่าจะมีคนร่วมงานในประเทศไทยรวมกันมากกว่า 1,000 คน ทั่วประเทศ และแน่นอนว่าทั้งหมดจะได้ร่วมขี่ไปพร้อมกันกับอีก 90 ประเทศทั่วโลกอย่างแน่นอน สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมงานเพียงแต่งกายใส่สูท หรือชุดที่ดูเป็นสุภาพบุรุษ มาพร้อมกับรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจสไตล์คลาสสิกหรือวินเทจก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของงานได้ทันที งานนี้ไม่จำกัดว่าต้องเป็นเฉพาะสุภาพบุรุษเท่านั้น คุณสุภาพสตรีก็สามารถเข้าร่วมงานได้เช่นกัน

ขณะที่อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการจัดงานคือการบริจาคเงินสมทบทุนโครงการ ‘เดอะ ดิสธิงกวิช เจนเทิลแมน ไรด์ 2017’ (The Distinguished Gentleman’s Ride 2017) สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงคลิกเข้าไปที่ https://www.gentlemansride.com/donate รวมถึงสามารถร่วมบริจาคได้ ณ สถานที่จัดงานทั่วประเทศเช่นกัน ซึ่งรายได้จากการบริจาคทั้งหมดจะถูกส่งมอบให้กับงานต่อไป นอกจากนี้ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ยังได้เปิดจำหน่าย DGR Digby Riding Jacket เสื้อแจ็คเกตลิมิเต็ด อิดิชั่น ที่รังสรรค์ขึ้นมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ โดยรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายจะถูกนำไปมอบให้งานดังกล่าว ซึ่งผู้สนใจสามารถสอบถามและสั่งซื้อได้จากตัวแทนจำหน่ายไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ทั้ง 11 สาขาทั่วประเทศ เตรียมสูทและรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจของคุณให้พร้อมแล้วรอไปพบกันที่งานได้เลย นายจักรพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย

อย่าพลาดมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมดีๆ ระดับโลกอย่างงาน ‘เดอะ ดิสธิงกวิช เจนเทิลแมน ไรด์ 2017’ (The Distinguished Gentleman’s Ride 2017) ในวันอาทิตย์ที่ 24 กันยายน 2560 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น. ณ บริเวณ ลาน Quartier Avenue ชั้น G ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ กรุงเทพฯ ส่วนต่างจังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น ลพบุรี พิษณุโลก อุบลราชธานี ภูเก็ต และหาดใหญ่ สามารถสอบถามรายละเอียดการจัดงานได้ที่ตัวแทนจำหน่ายไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.gentlemansride.com

DUCATI Monster 1200S “อสูรร้ายบนทางเรียบ”

DUCATI Monster 1200S

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ 2 ลูกสูบ Testastretta แบบ L-Twin ใช้เทคโนโลยีวาล์ว Desmodromic

ระบบระบายความร้อน : ด้วยน้ำ พร้อมออยล์คลูเลอร์

ขนาดความจุ : 1,198 ซีซี.

จากกระบอกสูบ X ระยะชัก เท่ากับ  :  106 x 67.9 มม.

กำลังอัดเครื่องยนต์ : 13.0:1

แรงม้าที่ : 160 แรงม้า ที่ 9,250 รอบ/นาที

แรงบิดสูงสุด : 131.4 นิวตัน-เมตร ที่ 7,750 รอบ/นาที

ระบบจ่ายเชื้อเพลิง : หัวฉีดอิเล็กทรอนิคส์

ชุดเกียร์ : แบบธรรมดา 6 สปีด

คลัทช์ : แบบเปียกสั่งงานด้วยไฮดรอลิค

สตาร์ทเครื่องด้วย : ระบบไฟฟ้า

ขับเคลื่อนด้วย : โซ่/สเตอร์

เทคโนโลยีที่มากับตัวรถ : ระบบปรับโหมดการขับขี่ 3 โหมด Sport, Touring และ Urban, หน่วยวัดแรงเฉื่อย (IMU) ระบบ Inertial Measurement Unit เซ็นเซอร์ตรวจจับทิศทางการเคลื่อนที่ของรถ ระบบ DWC (Ducati Wheelie Control) ช่วยควบคุมการยกล้อ และระบบ DSP (Ducati Safety Pack) ทำงานควบคู่กับระบบ DTC (Ducati Traction Control) ป้องกันล้อหมุนฟรีช่วยให้ยึดเกาะถนนได้ดีกว่าเดิม

ไฟหน้า : เป็น LED ดวงโตที่ส่องสว่างชัดเจนพร้อมไฟส่องกลางวัน LED Daylight

ไฟท้าย : เป็น LED รับกับช่วงท้ายอย่างลง

เรือนไมล์ : มาแบบจัดเต็มด้วยจอ TFT ดิจิตอล

แฮนด์ : บาร์ทรงกว้างเน้นการควบคุมที่สบาย

เฟรม : เป็นงานดีไซน์เอกลักษณ์ของค่าย แบบท่อเหล็กถักทรงกลม ทนทานต่อแรงบิดมากๆ

เบาะนั่ง : ชิ้นเดียวปาดเว้า 2 ชั้นมาพร้อมกับฝาครอบเบาะสีเดียวกับตัวรถ

บังโคลนหน้า : คาร์บอนไฟเบอร์

ไฟเลี้ยวหน้า/หลัง : เป็นแบบ LED

ท่อไอเสีย : แบบ 2-1-2 ปลายท่อคู่ทรงสปอร์ต

มิติตัวรถ
– กว้าง/ยาว/สูง : 830/2121/1150 มม.
– ระยะห่างฐานล้อ 1508 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงเบาะ 830
– ถังน้ำมันความจุ 17 ลิตร

วงล้อ/ยาง
– ด้านหน้า เป็นอัลลอยลาย 3 กาน ตัว Y ยาง PIRELLI Diablo Rosso II ขนาด 120/70 R 17
– ด้านหลัง เป็นอัลลอยลาย 3 กาน ตัว Y ยาง PIRELLI Diablo Rosso II ขนาด 190/55 R 17

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า เป็นช็อคอับ Up-Side Down ของ OHLINS ขนาดแกน 43 มม. ระยะการทำงาน 130 มม.
– ช็อคอับหลัง เป็นแบบช็อคเดี่ยวของ OHLINS ปรับตั้งค่าการทำงานได้หลายแบบ ระยะการทำงาน 159 มม.

ระบบเบรค
– เบรคหน้า เป็นดิสก์คู่ขนาด 330 มม. คาลิเปอร์ BREMBO M50 4 ลูกสูบ พร้อมระบบ ABS
– เบรคหลัง เป็นแบบเดี่ยวขนาด 245 มม. คาลิเปอร์ BREMBO 2 ลูกสูบ พร้อมระบบ ABS

DUCATI Monster 1200S เป็นรุ่นที่ใหญ่ที่สุดในตระกูล Monster และเป็นรถสไตล์เนคเก็ตไบค์ที่แฝงความสปอร์ตอย่างลงตัว จากการนำเอาเอกลักษณ์ความเป็น Monster มาพัฒนาให้เป็นรถที่มีความทันสมัย สปอร์ตยิ่งขึ้นตัดในส่วนที่ไม่จำเป็นออกไป โดยได้แรงบันดาลใจจาก 1993 DUCATI Models ด้วยแนวคิด Sport Naked Bike พร้อมกับบรรจุเทคโนโลยีสุดล้ำหลายลายการ หนึ่งในนั้นมาพร้อมกับเทคโนโลยีจาก 1299 Panigale ด้วย

ขอขอบคุณภาพจาก www.ducati.com และ www.sportrider.com

เปิดตัว Vespa PX 125 Touring Edition พิเศษ 200 คัน

บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์ชั้นนำ “พิอาจิโอ” และ “เวสป้า” พร้อมทั้งมอเตอร์ไซค์ระดับตำนาน “อาพริเลีย” และ “โมโต กุซซี่” สัญชาติอิตาเลี่ยนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดตัวสาวกเวสป้าคนใหม่ล่าสุด “กรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา” ในฐานะตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่รักและหลงใหลในการขับขี่เวสป้า อีกทั้งยังถือโอกาสนี้เพื่อตอบสนองความต้องการอันหลากหลายของลูกค้ารวมถึงขอบคุณสาวกเวสป้าที่ให้การต้อนรับการมาถึงของรถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมเวสป้า พีเอ็กซ์ 125 ก่อนหน้านี้อย่างอบอุ่น พร้อมเผยโฉมอย่างเป็นทางการด้วยสุดยอดสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมสุดคลาสสิกในตำนาน “เวสป้า พีเอ็กซ์ ทัวร์ริ่ง อิดิชั่น (Vespa PX Touring Edition)” ที่ครองใจสาวกเวสป้ามาตั้งแต่ยุค 70 ให้ทุกการเดินทางเปรียบเสมือนต้องมนต์เสน่ห์แบบเหนือกาลเวลาตามแบบฉบับความเป็นแบรนด์ไอคอนของคนทั่วโลก ในโอกาสเดียวกันนี้ ยังร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี แห่งการถือกำเนิดเวสป้า รุ่น “พีเอ็กซ์ (PX)” ซึ่งเป็นที่นิยมของสาวกเวสป้าทั่วโลกอีกด้วย และตอกย้ำแคมเปญสุดยิ่งใหญ่แห่งปี NOT FOR EVERYONE. IS IT FOR YOU? ภายใต้บรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่และเป็นเอกลักษณ์ด้วยกลิ่นอายการขับขี่สไตล์อิตาเลี่ยนอย่างแท้จริง ณ โมโตเพล็กซ์ แบงค็อก

คุณพรนฎา เตชะไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “บริษัทฯ ได้รับเกียรติจากคุณกรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา มาร่วมถ่ายทอดความเป็นคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบและหลงใหลในความคลาสสิก มีตำนานของเวสป้าและยังรักการเดินทางด้วยรถพรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์อย่างเวสป้า โดยบุคลิกพร้อมทั้งสไตล์อันโดดเด่นและชัดเจนในมาดเซอร์แต่แฝงไปด้วยความคลาสสิกของคุณกรรณ สามารถสะท้อนเรื่องราวการเดินทางที่น่าสนใจและแตกต่าง และยังสอดคล้องกับแคมเปญสุดยิ่งใหญ่ ‘NOT FOR EVERYONE. IS IT FOR YOU?’ ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมที่จะขนกิจกรรมสนุกๆ รวมถึงปรากฏการณ์ความยิ่งใหญ่ เตรียมเซอร์ไพรซ์บรรดาสาวกเวสป้า เพื่อสร้างประสบการณ์การเดินทางอันน่าตื่นเต้นและไม่เหมือนใครกันแบบข้ามปีอีกด้วย”

สำหรับ เวสป้า พีเอ็กซ์ ทัวร์ริ่ง อิดิชั่น มาพร้อมดีไซน์สุดคลาสสิกเหนือกาลเวลาด้วยรายละเอียดการออกแบบที่เน้นความเรียบง่าย โดยสานต่อแรงบันดาลใจจากเวสป้ารุ่น พีเอ็กซ์ ในตำนานที่ถือกำเนิดมาตั้งแต่ยุค 70 ซึ่งยังคงครองใจและเป็นที่รักของสาวกเวสป้าตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน สะดุดตาด้วยสีพิเศษ “สีฟ้าเงิน Azzurro 70” โดดเด่นด้วยวัสดุโครงเหล็กแบบดั้งเดิมที่มอบความแข็งแรงทนทาน ให้ความรู้สึกอยากออกเดินทางในรูปแบบที่สะท้อนความเป็นตัวเอง

มาพร้อมกับชิวด์สั้นบังลม สามารถบรรทุกสัมภาระด้วยตะแกรงโครเมี่ยมทั้งด้านหน้า-หลัง พิเศษยิ่งขึ้นด้วยการประดับเพลทเหล็กโลโก้เลขไทย “๔๐” ในตำแหน่งด้านหน้ารถ ผลิตมาเพื่อจัดจำหน่ายในตลาดประเทศไทยเพียง 200 คันเท่านั้น เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบสี่สิบปีของการผลิตและจัดจำหน่ายเวสป้ารุ่นดังกล่าว และตกแต่งด้วยเพลทเหล็ก

ลิมิเต็ด อิดิชั่น ต้องมนต์เสน่ห์ในทุกการเดินทางไปกับฟีเจอร์ดั้งเดิมในตำนานที่แฟนพันธุ์แท้เวสป้าต่างรอคอย อาทิ เครื่องยนต์ 2 จังหวะ เกียร์มือ 4 สปีด เบรกหลังที่เท้า ยางและล้ออะไหล่ที่ตัวถังด้านซ้าย โดยเวสป้า พีเอ็กซ์ ทัวร์ริ่ง อิดิชั่น วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ในราคา 224,900 บาท สนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้จากตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้าน

และเพื่อเพิ่มการเดินทางทุกขณะขับขี่ให้สนุกและโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น เวสป้า พีเอ็กซ์ ทัวร์ริ่ง อิดิชั่น ทุกคันมาพร้อมชุดของพรีเมี่ยมพิเศษมากมายที่ได้รับการออกแบบมาอย่างเข้าชุดกันพร้อมด้วยโลโก้ครบรอบ 40 ปี ได้แก่ หมวกกันน็อค ธงติดรถ กระเป๋าสะพายข้าง แก้วน้ำ ตราประทับ ชุดเข็มกลัด และชุดโปสการ์ด

“สาวกเวสป้าและนักสะสมที่ชื่นชอบเวสป้า พีเอ็กซ์ ทัวร์ริ่ง อิดิชั่น รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ เตรียมพบกับกิจกรรมความสนุกจากเวสป้าได้เร็วๆ นี้ ผม… ในฐานะหนึ่งในสาวกเวสป้าและตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการเดินทางในสไตล์ที่เป็นตัวเอง และต้องมนต์เสน่ห์ความคลาสสิกไร้ซึ่งกาลเวลาของรถเวสป้า พร้อมที่จะพาทุกท่านร่วมออกเดินทางและสัมผัสกับประสบการณ์การขับขี่สไตล์อิตาเลี่ยนอย่างแท้จริง” คุณกรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา กล่าวทิ้งท้าย

Yamaha ปลูกจิตสำนึกวินัยจราจรให้เด็กนักเรียน ผ่านกิจกรรม YAMAHA Road Safety For Children 2017

นายสมเกียรติ พูลขวัญ (คนกลาง) รองผู้จัดการใหญ่ด้านบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ร่วมเปิดกิจกรรม YAMAHA Road Safety For Children 2017 เพื่อปลูกจิตสำนึกวินัยจราจรให้กับนักเรียนโรงเรียนวัดศรีวารีน้อย จ.สมุทรปราการ โดย ยามาฮ่าได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการปลูกจิตสำนึกด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน และการเสริมสร้างวินัยจราจรให้กับเด็ก และเยาวชน โดยเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความสามารถอย่างสนุกสนาน และได้รับความรู้ผ่านการเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว อีกทั้งเป็นการกระตุ้นให้ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในการเสริมสร้างระเบียบวินัยในการใช้รถใช้ถนนอย่างถูกต้องปลอดภัยอีกด้วย โดยกิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้น ณ สถาบันฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า (YRA) โดยกิจกรรมในครั้งต่อไปจะจัดให้กับเด็กนักเรียน โรงเรียนวัดบางพลีน้อย ในวันพุธที่ 20 กันยาน 2560

BMW เผยโฉมมอเตอร์ไซค์ GS รุ่นใหม่ถึง 4 รุ่นในงานการแข่งขันรอบคัดเลือก BMW Motorrad GS Trophy Southeast Asia Qualifier 2017

บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย เสริมทัพมอเตอร์ไซค์ในตระกูล GS เปิดตัว 4 รุ่นใหม่ที่พร้อมสร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่นักบิดผู้รักการผจญภัย ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 700 GS ใหม่ พร้อมโฉมใหม่ในรุ่น บีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS Adventure และบีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS Adventure Triple Black

มอเตอร์ไซค์ในตระกูล GS ทั้ง 4 รุ่นใหม่ ซึ่งได้เผยโฉมเนื่องในโอกาสการแข่งขันรอบคัดเลือก BMW Motorrad GS Trophy Southeast Asia Qualifier 2017 ในประเทศไทย ต่างเปี่ยมด้วยสมรรถนะที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อตอกย้ำจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยของมอเตอร์ไซค์ตระกูล GS สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS บีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS Adventure ใหม่นั้นมาพร้อมโหมดการขับขี่แบบใหม่ที่จะช่วยให้การขับขี่ในแบบออฟโร้ดมีความราบรื่นยิ่งขึ้น ในขณะที่ บีเอ็มดับเบิลยู F 700 GS Trophy Edition ใหม่ มีช่วงล่างในรูปแบบที่แตกต่างกันให้เลือกสรร ส่วนมอเตอร์ไซค์ในตระกูลเอ็นดูโร่ยอดฮิตอย่างบีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS Adventure นั้น หวนคืนบัลลังก์ด้วยสี Triple Black ที่เน้นย้ำคาแรกเตอร์อันดุดันของ บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS Adventure ได้เป็นอย่างดี

มร. มาร์คุส เกลเซอร์ ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย กล่าวว่า “การเปิดตัวมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ถึง 4 รุ่น ยังถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ทั้งยังเป็นข้อพิสูจน์ของความสำเร็จของเราในตลาดบิ๊กไบค์ประเทศไทย โดยในครั้งนี้ เราได้เสริมความแข็งแกร่งของมอเตอร์ไซค์ในตระกูล F ซีรี่ส์ ในด้านของประสิทธิภาพการขับขี่แบบออฟโรด ในขณะที่ บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS Adventure ใหม่ จะสร้างความประทับใจให้กับผู้ขับขี่อย่างแน่นอน ด้วยสมรรถนะเหนือระดับและเทคโนโลยีล้ำสมัย”

บีเอ็มดับเบิลยู F 700 GS F 800 GS Trophy Edition และ F 800 GS Adventure ใหม่
บีเอ็มดับเบิลยู F 700 GS ราคา: 485,000 บาท (ราคารวม VAT)
บีเอ็มดับเบิลยู F 700 GS Trophy Edition ราคา: 510,000 บาท (ราคารวม VAT)
บีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS Trophy Edition ราคา: 575,000 บาท (ราคารวม VAT)
บีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS Adventure ราคา: 699,000 บาท (ราคารวม VAT)

มอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู GS ในซีรีส์ F เป็นตัวแทนจิตวิญญาณแห่งอิสรภาพของนักบิด เปี่ยมด้วยสมรรถนะอันปราดเปรียวทั้งบนท้องถนนและเส้นทางออฟโรด สำหรับในรุ่นล่าสุดนี้ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดได้พัฒนามอเตอร์ไซค์เอนดูโร่พันธุ์แท้นี้ให้เหนือชั้นยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 798 ซีซี ที่ปรับลดอัตราการปล่อยมลภาวะตามมาตรฐาน EU4

ระบบคันเร่งไฟฟ้าแบบใหม่ มาพร้อมกับโหมดการขับขี่แบบ “Rain” และ “Road” สำหรับการขับขี่บนพื้นผิวที่ชื้นหรือแห้ง สำหรับรุ่น F 700 GS และรุ่น F 800 GS Trophy Edition และยังมีอีกสองโหมดจากระบบ Riding Modes Pro ให้ลูกค้าเลือกแต่งได้เป็นพิเศษเฉพาะในรุ่น F 800 GS Adventure คือโหมด “Enduro” และ “Enduro Pro”

บีเอ็มดับเบิลยู F 700 GSบีเอ็มดับเบิลยู F 800 GSสำหรับบีเอ็มดับเบิลยู F 700 GS ใหม่นั้น มีจำหน่ายในสองรุ่นย่อยคือ รุ่นธรรมดาและรุ่น GS Trophy Edition (สีขาวเท่านั้น) ที่มาพร้อมกับช่วงล่างที่สูงขึ้น พร้อมระบบ ESA (Electronic Suspension Adjustment) หรือการปรับช่วงล่างด้วยระบบไฟฟ้า แลระบบ ASC (Automatic Stability Control) ขณะที่รุ่นธรรมดามีให้เลือกสองสีด้วยกัน ได้แก่สีแดง Racing Red และสีเทา Singapore Grey metallic matt

ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS Trophy Edition ใหม่ ตกแต่งให้สะดุดตาด้วยสติ๊กเกอร์ลาย GS Trophy ในรุ่นสีขาว เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการแข่งขัน GS Trophy ในครั้งนี้ พร้อมกับการ์ดป้องกันเครื่องยนต์และแครชบาร์

และรุ่น F 800 GS Adventure ใหม่ที่ถือเป็นตำนานแห่งตระกูลเอนดูโร่ มาพร้อมช่วงล่างที่สูงขึ้นกว่ารุ่น F 800 GS ที่วางขายในประเทศไทย 70 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเพิ่มความจุมากขึ้น 8 ลิตร อีกทั้งยังมีระบบทำความร้อนที่แฮนด์และไฟเลี้ยว LED เพิ่มเข้ามาในอุปกรณ์มาตรฐาน

บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS Adventure Triple Black ใหม่
ราคา: 1,085,000 บาท (ราคารวม VAT)
บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS Adventure กลับมาอีกครั้งของเหล่าสาวกบิ๊กไบค์ตามคำเรียกร้องในสีดำ Triple Black ที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่นสะดุดตา พร้อมลุยกับทุกการผจญภัย ด้วยความจุถังน้ำมัน 30 ลิตร ขับเคลื่อนแบบออฟโรดด้วยเครื่องยนต์บ๊อกเซอร์สองสูบ 4 จังหวะ ระบบหล่อเย็นด้วยอากาศและน้ำ มอบกำลังสูงสุดถึง 125 แรงม้าพร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 125 นิวตันเมตร

R 1200 GS Adventure Triple Black ยังมาพร้อมกับนวัตกรรมล้ำสมัยอีกมากมายเช่นในรุ่นเดิม เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น ระบบ Dynamic ESA (Electronic Suspension Adjustment) หรือการปรับช่วงล่างด้วยระบบไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด ที่สามารถปรับเปลี่ยนระหว่างโหมดการขับขี่แบบ Pro ต่างๆ ให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทาง ระบบช่วยเปลี่ยนเกียร์โดยไม่ต้องบีบคลัตช์ Gear Shift Assistant Pro และระบบการขับขี่แบบไร้กุญแจ หรือ Keyless Ride และอื่นๆ อีกมากมาย

SUZUKI Boulevard M109R B.O.S.S. 2017 “ครูสเซอร์ไซส์ใหญ่ สไตล์ดุดัน”

SUZUKI Boulevard M109R B.O.S.S. 2017

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ 2 ลูกสูบ V-twin วางเอียง 54 องศา

ระบบวาล์ว : แบบ DOHC

ระบบระบายความร้อน : ด้วยน้ำ

ขนาดความจุ : 1,783 ซีซี.

ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก เท่ากับ : 112 × 90.5 มม.

อัตราส่วนกำลังอัด : 10.5 : 1

ระบบจ่ายเชื้อเพลิง : ด้วยหัวฉีดอิเล็คทรนิคส์

ให้กำลังสูงสุด : 125 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที

แรงบิดสูงสุด : 160 นิวตัน-เมตร ที่ 3,200 รอบ/นาที

ชุดเกียร์ : แบบธรรมดา 5 สปีด

ระบบคลัทช์ : แบบเปียกสั่งงานด้วยสายสลิง

ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ : ด้วยระบบไฟฟ้า

ระบบขับเคลื่อน : ชุดเพลาขับ

แฮนด์ : ยกสูงโน้มมาทางด้านหลังให้ผู้ขับขี่สบาย

เรือนไมล์ : จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ด้านบนจะเป็นเรือนไมล์แบบดิจิตอลที่โชว์ระดับรอบเครื่องยนต์กับไฟบอกเกียร์และสัญญาณไฟต่างๆ ส่วนด้านล่างที่ติดกับทั้งน้ำมันจะเป็นเรื่อนไมล์แบบอะนาล็อกบอกความเร็วและระดับเชื้อเพลิง

ถังน้ำมัน : ทรงหยดน้ำ

ไฟหน้า : ดวงใหญ่พร้มหน้ากากที่ยกสูงขึ้นครอบถึงเรือนไมล์

ไฟท้าย : เป็น LED ดวงใหญ่

ไฟเลี้ยว หน้า/หลัง : เป็นหัวกระสุนใส่หลอดสีเหลืองด้านใน

เบาะ : แบบ 2 ชั้นแยกด้านหลังเสริมครอบท้ายมาให้เพิ่มความสปอร์ตยิ่งขึ้น

บังโคลนหลัง : สไตล์ Ducktail

ท่อไอเสีย : แบบแยก 2-1-2 ให้เสียงเร้าใจ

มิติตัวรถ
– กว้าง/ยาว/ระยะห่างฐานล้อ : 875/2,450/1,710 มม.
– ระยะห่างจากพื้นถึงตัวรถ : 130 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงเบาะ : 705 มม.
– น้ำหนักรวม 347 กิโลกรัม พร้อมคนขี่
– ความจุถังน้ำมัน 18.5 ลิตร

วงล้อ/ยาง
– หน้า ขนาด 18 นิ้ว สวมยางพิเศษ 130/70-18
– หลัง ขนาด 240/40-18

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า ช็อคอับแบบเทเลสโคปิคหัวกลับ Up-side Down ขนาดแกน 46 มม. ปรับตั้งค่าการทำงานได้ ระยะการทำงาน 130 มม.
– ด้านหลัง เป็นแบบเดี่ยวปรับเซ็ทได้แบบฟรีโหลด ระยะการทำงาน 118 มม. ทำงานร่วมกับสวิงอาร์ม

ระบบเบรก
– ด้านหน้า ดิสก์เบรกคู่ขนาด 320 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ จาก TOKICO
– ด้านหลัง ดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 275 มม. คาลิเปอร์ TOKICO 2 ลูกสูบ

สปอร์ตตัวแรงๆ ของ SUZUKI มีออกมามากมาย แต่ก็ใช่วาจะมีแต่รถสปอร์ตอย่างเดียว รถครูเซอร์ของค่ายนี้ก็แรงไม่น้อยหน้าใคร เรียกได้ว่าเทียบชั้นกับรถครูสเซอร์สัญชาติอเมริกันหลายๆ รุ่นได้อย่างสบาย นี่คือ Boulevard M109 R B.O.S.S. (Blacked Out Special Suzuki) ครูสเซอร์ไซส์ใหญ่ที่พกพาความดุดันมาพร้อมกับเทคโนโลยีชั้นนำของโลกที่ใช้ในรถสปอร์ตทรงพลังหลายๆ รุ่น

ขอขอบคุณภาพจาก www.suzuki.ca และ www.motorcyclecruiser.com

Royal Enfield ร่วมกับ Canon จัดคลาสถ่ายรูปกับรถคู่ใจ

ไม่ว่าใครที่มีบิ๊กไบค์ แน่นอนว่าอยากจะอวดความหล่อของพาหนะคู่ใจลงโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นรูปรถมอเตอร์ไซต์กับแสงหรือวิวสวยๆ ที่ขี่ไปพบเจอระหว่างวันหรือจะเป็นรูปการออกทริปที่มีวิวธรรมชาติสวยงามเป็นพื้นหลัง…แต่จะถ่ายภาพมอเตอร์ไซต์ของคุณอย่างไรให้สะท้อนมุมมองและความคิดของคุณออกมา

“รอยัล เอนฟิลด์” ร่วมกับ “แคนนอน” จัดคลาสถ่ายรูป “Royal Enfield LIFE SHOT” เชิญคุณนก-อรรณพ รัมมะฉัตร หรือเป็นที่รู้จักในวงการถ่ายภาพในนาม sleepy-nokkie มีความเชี่ยวชาญและขึ้นชื่อในด้านการถ่ายภาพสไตล์ Automotive Photography, Interior และ Photojournalism มาแนะนำเทคนิคการถ่ายทอดความคิดให้ออกมาเป็นภาพถ่าย พร้อมฝึกจริง ถ่ายจริง กันแบบเอ๊กซ์คลูซีฟ เมื่อวันเสาร์ที่ 2 กันยายน 2560 ณ โชว์รูมรอยัล เอนฟิลด์ ทองหล่อ

เทคนิคการถ่ายรูปมอเตอร์ไซต์ที่คุณ sleepy-nokkie ได้ให้คำแนะนำไว้ มีดังนี้
1. องค์ประกอบของภาพ (Composition) คือความลงตัวของภาพ ไม่ว่าจะเป็นฉากหลัง ฉากหน้า สี กรอบ มุม หรือแม้แต่องค์ประกอบเล็กน้อยล้วนเป็นสิ่งที่นักถ่ายภาพควรคำนึงถึงเสมอ เพราะภาพจะออกมาดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบเหล่านี้ ทั้งนี้ ก่อนจะลงมือถ่ายภาพมอเตอร์ไซต์ ควรเดินวนรอบรถเพื่อหาจุดเด่น และขยับกล้องเพื่อหามุมที่เหมาะสมสัก 2- 3 มุม อีกทั้ง การจัดวางรถให้เอียงประมาณ 45 องศา ก็สามารถช่วยให้เห็นส่วนต่างๆ ของรถทั้งคัน และยังเป็นมุมที่ถ่ายภาพมอเตอร์ไซต์ออกมาสวยงามอีกมุมหนึ่งเช่นกัน

2. แสงเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ภาพออกมาสวยงาม เราควรหลีกเลี่ยงการถ่ายภาพในขณะแสงจ้าเพราะรถมอเตอร์ไซต์มีส่วนประกอบที่มีลักษณะโค้งเยอะ จึงทำให้เกิดแสงสะท้อนเมื่อถ่ายภาพได้ การหาที่กำบัง เช่น ใต้ต้นไม้หรือใต้อาคาร ก็สามารถช่วยให้ลดแสงสะท้อนได้ ทั้งนี้ เวลาที่เหมาะสมที่สุดในการถ่ายภาพมอเตอร์ไซต์คือประมาณ 4-5 โมงเย็น เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่แสงไม่จ้าเกินไป ทำให้รถมอเตอร์ไซต์มีความเงา ภาพที่ได้จะสมดุลมากขึ้น สำหรับใครที่ชอบถ่ายภาพเวลากลางคืน ควรใช้แสงจากโทรศัพท์มือถือ เพราะแฟลชของกล้องถ่ายรูปจะทำให้ภาพสว่างเกินจริง

3. การถ่ายภาพขณะรถเคลื่อนที่หรือแพนนิ่ง ควรตั้งกล้องโหมด TV หรือ Shutter Priority และปรับค่าความเร็ว (speed) ให้อยู่ที่ 1/60 หรือ 1/125 ควบคู่การถ่ายภาพแบบต่อเนื่อง นอกจากนี้ ควรตั้งระบบติดตาม (tracking focus) ของแสง และใช้ขาตั้งกล้อง (monopod) เพื่อลดจำนวนรูปเสีย

4. หากถ่ายภาพรถมอเตอร์ไซต์ที่มีคนอยู่ด้วย ควรโฟกัสภาพทั้งคนและรถ ผู้ถ่ายควรวัดระยะห่างการยืนถ่ายภาพให้เหมาะสมกับคนและรถมอเตอร์ไซต์ด้วย

5. ปัญหาที่นักถ่ายภาพพบเจอและมักเป็นกังวลคือ ภาพถ่ายมืดหรือสว่างจนเกินไป และภาพถ่ายติดวัตถุอื่น ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการทำโฟโต้ช็อป เพียงแค่ศึกษาวิธีทำ เราก็สามารถลบภาพที่ไม่ต้องการและได้ภาพที่โดนใจ

6. สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มถ่ายภาพ ควรเริ่มจากโหมดออโต้ก่อน เพื่อฝึกดูมุมกล้องและองค์ประกอบของภาพ หากคล่องแล้ว จึงค่อยๆ พัฒนาไปใช้โหมด AV และ TV และฝึกการปรับแต่งภาพด้วยโหมด manual

ด้าน คุณสมรรถ รอบบรรเจิด ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เจเนอร์รัล ออโต้ ซัพพลาย จำกัด ตัวแทนจำหน่าย และศูนย์บริการ รอยัล เอนฟิลด์ กล่าวว่า “นับเป็นกิจกรรมที่รอยัล เอนฟิลด์จัดขึ้นอีกครั้งเพื่อลูกค้าของเรา เพราะปัจจุบัน การขี่มอเตอร์ไซต์ไม่ใช่แค่ความมันส์เพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงไลฟ์สไตล์ผู้ขับขี่ และยิ่งในยุคดิจิตัลเรามักจะเห็นว่าผู้คนชอบถ่ายทอดไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันผ่านรูปถ่ายในโซเชียลมีเดีย และมอเตอร์ไซต์ที่เป็นยานพาหนะในชีวิตประจำวันก็เป็นส่วนหนึ่งในไลฟ์สไตล์เหล่านั้นไปแล้ว ภาพถ่ายมอเตอร์ไซต์สามารถบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางต่างๆ ของเรา และยังเป็นการบันทึกความทรงจำที่เรามีต่อมอเตอร์ไซต์คันโปรดได้อีกด้วย”

Ducati Super Sale! สินค้าครั้งใหญ่ พร้อม Demo Bike ราคาโดนใจ สุดสัปดาห์นี้

ดูคาติ วิภาวดี โชว์รูมจัดจำหน่ายรถบิ๊กไบค์ดูคาติและศูนย์บริการทันสมัยใจกลางเมืองแบบครบวงจร จัดกิจกรรม Ducati Vibhavadi – Super Sale! ครั้งใหญ่ เปิดบ้านลดราคาสินค้า Riding Gear ไอเทมต่างๆ ทั้งแจ็คเก็ตขี่รถดูคาติ, หมวกกันน็อคดูคาติ รวมถึงสินค้า Apparel เสื้อผ้า เครื่องแต่งกายไลฟ์สไตล์แบบ Super Sale! อีกด้วย

นอกจากนี้ ทางดูคาติ วิภาวดี ยังได้นำรถ Demo Bike และ Used Bike สภาพใหม่หลากหลายรุ่น มาจัดจำหน่ายในราคาพิเศษ อาทิเช่น Monster 821, Monster 1200, Multistrada 1200, Multistrada 1200 Enduro และ XDiavel พร้อมเงื่อนไขพิเศษเพื่อให้ผู้ที่สนใจรถบิ๊กไบค์พรีเมียมสัญชาติอิตาลี เป็นเจ้าของรถดูคาติได้ง่ายมากยิ่งขึ้นกับแคมเปญพิเศษสุด อาทิเช่น ดาวน์ 0% หรือฟรีประกันภัยและฟรีจดทะเบียนทุกรุ่น

Monster 821 Red (Demo Bike) ราคาจำหน่าย 379,900 บาท พร้อมแคมเปญดาวน์ 0%

Monster 1200 Red (Demo Bike) ราคาจำหน่าย 659,900 บาท พร้อมแคมเปญดาวน์ 0%

Multistrada 1200 Enduro Grey (Demo Bike) ราคาจำหน่าย 849,000 บาท พร้อมแคมเปญดาวน์ 0%

XDiavel S (Used Bike) ราคาจำหน่าย 850,000 บาท

งานนี้ เรียกได้ว่า ใครมาก่อน มีสิทธิ์เลือกช้อปเป็นเจ้าของกันไปก่อน อย่ารอช้าเพราะสินค้าราคาพิเศษสดๆ แบบนี้มีจำนวนจำกัด กับงาน Ducati Vibhavadi – Super Sale! ที่ดูคาติ วิภาวดี เฉพาะวันที่ 8-10 กันยายน 2560 เวลา 10.00-18.00 น. นี้เท่านั้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.02-5133333

รีวิว GPX Demon 150 GN เครื่องแรงกว่าเดิม ตอบโจทย์ทั้งในเมืองและเดินทาง

เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว กับรถมินิไบค์พิกัด 150cc สัญชาติไทย อย่าง GPX Demon 150 GN ซึ่งสานต่อความสำเร็จของ GPX Demon 125 ด่วยการดีไซน์ใหม่ วางเครื่อง 150cc ใส่คลัทช์มือ จับกลุ่มตลาดที่ต้องการ Minibike ขั้นกว่า และในวันนี้ทาง 9carthai เราได้มีโอกาสมารีวิวให้เพื่อนๆ ผู้สนใจมองหา Minibike ที่จัดเต็มเกินมินิไบค์ทั่วๆไปแล้วล่ะก็ ลองมารับชมกันได้เลยครับ

เริ่มที่รูปลักษณ์นั้น GPX Demon 150 GN มีดีไซน์ที่โดดเด่น และสวยงาม จาก

ไฟหน้าดีไซน์โฉบเฉี่ยวพร้อมไฟ Day Light แบบ LED

ไฟท้ายดูแหลมคม ลุคสปอร์ต โดดเด่นสวยงามไม่แพ้กัน

ไฟเลี้ยวก็ใช้แบบ LED เช่นกัน

เบาะแบบแยกตอน 2 ชิ้น สไตล์สปอร์ตขนานแท้

เฟรมถักตาข่ายสีแดงเชื่อมรอบคัน ทั้งสวยงาม และแข็งแรงทนทายแบบรถ Superbike

อกล่างในแบบสปอร์ต ไม่ต้องไปติดตั้งเอง

ล้อลาย 5 ก้านคู่ ขนาด 14″ ใหญ่กว่า เพื่อนๆ Minibike คันอื่น พร้อมสวมยาง Pirelli Diablo Scooter แบรนด์ดังที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพความหนึบ

ท่อไอเสียทรงสั้นใต้ท้องรถตามสมัยนิยม

หน้าปัดแบบ Digital ปรับสีได้ 3 สี ได้แก่ ส้ม, แดง, น้ำเงิน มีลูกเล่นที่ไฟบอกเกียร์

ด้านใต้หน้าปัดมีช่องจ่ายไฟ USB สำหรับชาร์จโทรศัพท์ได้

สำหรับ มิติรถนั้น
ด้วยเบาะเตี้ยเพียง 770 มม. ทำให้ผู้ที่มีสรีระไม่ใหญ่นั้น สามารถนั่งคร่อมยืนได้อย่างมั่นใจ

ขณะที่น้ำหนักตัวอยู่ที่ 130 กก.

ถังน้ำมัน 8 ลิตร สำรอง 1.5 ลิตร ถือได้ว่า เพียงพอต่อการเดินทางออกทริประยะ 200 กม. +

และหากถังแรกหมด ก็สามารถบิดเข้าถังสำรอง ซึ่งวิ่งได้อีกราว 50 กม. เพื่อที่จะหาปั๊มที่ใกล้ที่สุดเพื่อเติมน้ำมัน

ในส่วนของท่านั่ง พบว่า Demon 150 GN มีตำแหน่งพักเท้าต่ำ องศาดันมาด้านหลังไม่มากเกินไป นั่งสบายไม่เมื่อย

ตำแหน่งแฮนด์ทรงกลางค่อนข้างแคบ และปลายแฮนด์งุ้มเข้าหาลำตัวพอประมาณ ทำให้การเลี้ยววงแคบ หรือลัดเลาะในเมืองทำได้คล่องแคล่ว ติดเพียงกระจกมองข้างเล็กน้อยที่อาจต้องเบี่ยงหลบกระจกรถยนต์นิดหน่อยเท่านั้น

เครื่องยนต์ 1 สูบ พิกัด 150cc ถูกยกมาจาก CR5 มาแทนที่บล็อกเดิม 125cc จับใส่คลัทช์มือ ขี่มันส์กว่าเดิม
จับคู่เกียร์ 5 สปีด

ด้วยการการันตีที่ใช้มาอย่างยาวนานในรุ่น CR5 150cc
ออกตัวกำคลัทช์เตะเกียร์อาจพบการเตะงัดเกียร์ ควรจะต้องเตะขึ้นในจังหวะเดียวเมื่อเครื่องยนต์กวาดถึงรอบที่พอเหมาะ ในรอบต่ำอาจพบว่าคันเกียร์ค่อนข้างแข็ง

การทำงานของเครื่องยนต์ ถือว่าทำได้ดีระดับหนึ่ง ในช่วงบออกตัวรอบต่ำอาจต้องรีดทอร์คกันนิดหน่อย แต่เมื่อเดินคันเร่งลากยาวเข้าช่วงรอบเครื่องย่านกลาง และปลาย ถือได้ว่ากำลังแรงดีสำหรับการใช้งานในรถมินิไบค์

ในด้านความเร็วปลาย Top Speed ถือได้ว่าไม่ธรรมดาเลย จากที่ GPX เคลมได้มากกว่า 125 กม./ชม. ทีมงานเราทดสอบไปได้ไกลถึง 133 กม./ชม. เลยทีเดียว

ระบบกันสะเทือน โช้กหน้าแบบ UpSideDown จาก KYB แกนสีทอง

โช้กหลังเดี่ยว ทำมุมราว 60 องศา

โช้กอัพหน้าจาก KYB ยี่ห้อนี้ การันตีสมรรถนะ ความหนึบแน่น อาการช่วงล่างออกแน่นเฟิร์มติดแข็งเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกระเด้งกระดอน และซับแรงได้ดีพอประมาณ

โช้กหลังเดี่ยวจากค่ามาตรฐานเดิมของโรงงานพบว่าขี่เดินทางคนเดียวกำลังสบาย หากซ้อน 2 พบว่าดูจะอ่อนไปนิด

นอกจากนี้การควบคุมรถในการเข้าโค้ง ถือว่าทำได้อย่างมั่นใจ แม้เป็น Minibike แต่ด้วยฐานล้อที่ยาว 1,240 มม. ทำให้การคอนโทรลรถดี

ขณะที่ยางใช้แบรนด์ดัง Pirelli Diablo Scooter ซึ่งตระกูลปีศาจ Diablo ได้ชื่อในเรื่องความหนึบแน่นกับการใช้งานบนท้องถนน ซึ่งหากเทียบกับยาง Minibike คันอื่นๆ ทั่วๆไป Demon 150 GN ถือว่าให้ยางมาแบบสมราคา ไม่ต้องไปเสียเงินเปลี่ยนยางตั้งแต่แรกเริ่ม

ระบบเบรก จานดิสก์เดี่ยวทั้งหน้า-หลัง
การเบรกชะลอความเร็วทำได้ดี มีพละกำลังเพียงพอในการหยุดรถเครื่องยนต์พิกัด 150cc นี้ได้แบบอยู่มือ

สำหรับเบรกหลัง กดเบรกหนักนิดอาจมีล้อล็อกเบาๆให้เห็น ซึ่งสามารถสนุกกับรถได้ด้วยการทำ Engine Brake ลงเกียร์ต่ำ พร้อมกดเบรกหลัง ท้ายปัดล็อกสไลด์ท้ายออกได้ง่ายๆ โดยไม่สูญเสียการควบคุม

สรุป GPX Demon 150 GN ถือได้ว่าเป็นรถมินิไบค์ที่ให้ความโดดเด่น ทั้งในด้านรูปลักษณ์ และออปชั่นที่ให้มา เรียกได้ว่าออกรถมาขี่ได้แบบหล่อๆ ไม่ต้องไปทำอะไรเพิ่มเติมกันเปลือง และวุ่นวายลำบาก

ซึ่งทาง GPX ได้ทำการต่อยอดความสำเร็จ Demon 125 ให้กับผู้ที่ต้องการหา มินิไบค์ที่มีประสิทธิภาพ และออปชั่นที่มากกว่า คลัทช์มือ และกำลังเครื่องบล็อกใหญ่ขึ้น รวมถึงขนาดมิติตัวที่ใหญ่ขึ้น

เรียกได้ว่าหากคุณมีประสบการณ์ในการขี่รถแล้วล่ะก็ Demon 150 GN ถือได้ว่าเป็นรถที่ตอบโจทย์ความต้องการ ให้กับผู้ที่ต้องการมินิไบค์ ที่ตอบโจทย์การเดินทางทั้งขี่ในเมือง และเดินทางไกล ในราคาเบาๆ ไม่ถึง 6 หมื่นบาท

ขอขอบคุณ บริษัท จีพี มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด สำหรับรถทดสอบ GPX Demon 150 GN ราคา 59,800 บาท
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver, Photos

HARLEY-DAVIDSON FLTRX Road Glide 2017 “รุ่นใหญ่สายเที่ยว”

Harley-Davidson-FLTRX-Road-Glide-2017

เครื่องยนต์ : ขนาด Big Size 4 วาล์ว

ขนาดความจุ : 1,746 ซีซี.

ขนาดกระบอกสูบ x ระยะชัก : 100 x 111.1 มม.

กำลังอัดเครื่องยนต์ : 10.0 : 1

ระบบระบายความร้อน : อากาศ

ระบบเกียร์ : แบบแยกชนิดธรรมดา 6 สปีด

ระบบครัทช์ : แบบเปียกสั่งงานด้วยสายสลิง

ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ : ด้วยระบบไฟฟ้า

จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย : หัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์ ESPFI

ระบบขับเคลื่อน : สายพาน

แผ่นบังลมหน้า : มีขนาดที่สั่นๆ

ไฟหน้า : 2 ดวง ประจำอยู่ที่อยู่ในโคมเดียวกันแบบเหลี่ยม

ไฟท้าย : แบบ LED

กระจกข้าง : เนื้องาน โครเมี่ยม จัดวางบนแฮนด์ 2 ฝั่ง แบบเล็กๆ สั้นๆ

เรือนไมล์ : มาด้วยกัน 4 ช่อง หน้าจอแต่ละอันเป็นจอกลม ซ้าย/บน < มาตรสัดปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงในถัง ซ้าย/ล่าง : มาตรวัดความเร็ซ ขวา/ล่าง : มาตรวัดรอบเครื่อง ขวา/บน : มาตรวัดกระแสไฟ ส่วนหน้าจอตรงกลางเอาไว้รายงานเส้นทาง

แฮนด์บังคับ : แบบยกระดับไม่สูงขนาดแฮนด์โหน

ถังน้ำมัน : ทรงมาตรฐานของ H-D มีฝาครอบเติมน้ำมันเชื้อเพลิงแบบที่ต้องใช้กุญแจเปิดก่อน

เบาะ : นั่งใบเดียวแบบตอนยาว

บังโคลมหน้า : ทรงอเมริกันทัวริ่งกินพื้นที่การป้องกันราวๆ 50% ของยาง

มิติตัวรถ
– ยาว/สูงของตัวรถ/ความสูงของเบาะนั่ง/ระยะห่างฐานล้อ : 2423/122/658-684/1625 มม.
– น้ำหนักของตัวรถพร้อมผู้ขับขี่ : 387 กิโลกรัม
– ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง : 22.7 ลิตร

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า เทเลสโคปิค ปรับตั้งไม่ได้
– ด้านหลัง ช็อคอับอยู่ด้านหลังกระเป๋าใช้การปรับด้วยวิธีอัดอากาศ

วงล้อ / ยาง
– ล้อหน้าอัลลอย ขนาดยาง 130/60-19
– ล้อหลังอัลลอย ขนาดยาง 180/65-16

สยบทุกความคิดว่าเครื่องยนต์ใหม่ของฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน จะวิ่งดีและเร็วแรงขนาดไหน…เพราะครั้งนี้มาด้วยขนาดความจุถึง 107 คิวบิก-นิ้ว หรือราวๆ 1,746 ซีซี. แถมยังเป็นรถเดินทางที่มาเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก Road Glide คันนี้มาพร้อมครบถ้วนทุกความต้องการ แถมยังมาแบบ วิน-วิน ทั้งสองฝ่าย ผู้ชายได้ขี่รถเที่ยว และผู้หญิงก็ไม่ต้องมานั่งเมื่อยหลังจากการแบบของอีกต่อไป

ขอขอบคุณภาพจาก www.totalmotorcycle.com

HUSQVARNA FC 250 “สายแข่งตัวลุยฝุ่น”

HUSQVARNA FC 250

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ 1 สูบ

วาล์ว : การกดวาล์ว DOHC

ขนาดความจุ : 249.4 ซีซี.

กระบอกสูบ x ระยะชัก : 78 x 52.3 มม.

ระบบจ่ายน้ำมันเชื่อเพลิง : หัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์

ระบายความร้อน : ด้วยน้ำ

ระบบเกียร์ : เกียร์ธรรมดา 5 สปีด

ระบบขับเคลื่อน : โซ่และสเตอร์

สตาร์ทเครื่องยนต์ : ด้วยระบบไฟฟ้า

ชิ้นส่วนบอดี้พาร์ทมี 16 ชิ้น
– การ์ดแกนช็อคอับหน้า
– การ์ดแฮนด์
– บังโคลนหน้า
– หน้ากากแป้นเบอร์
– ปีกหม้อน้ำ
– การ์ดรังผึ้ง
– ถังเชื้อเพลิง
– เบาะนั่ง
– แป้นเบอร์ด้านข้าง
– บังโคลนหลัง
– ตัวดันโซ่หน้าและสเตอร์หลัง

เฟรม : จะเป็นวัสดุ  25CrMo4 ที่ให้ความแข็งแรงและน้ำหนักเบา สวิงอาร์มเป็นอะลูมิเนียขึ้นรูปและเชื่อมประกอบ

มิติตัวรถ
– ระยะห่างฐานล้อ 1,485 มม.
– ความสูงของรถจากพื้น 370 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงเบาะนั่ง 960 มม.
– ความจุถังน้ำมัน : 7 ลิตร

วงล้อหน้า/หลัง
– หน้า เป็นวงล้ออะลูมิเนียมลายซี่ลวด ยางสไตล์ Dirt เน้นดอกโตๆ
– หลัง เป็นวงล้ออะลูมิเนียมลายซี่ลวด ยางสไตล์ Dirt เน้นดอกโตๆ

ระบบเบรค
– ด้านหน้า เป็นดิสก์เดี่ยว 260 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ ของ BREMBO
– ด้านหลัง เป็นดิสก์เบรคขนาด 200 มม. คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า เป็นของ WP ขนาด 48 มม. ชนิดเทเลสโคปิคหัวกลับ ปรับตั้งได้ ระยะการทำงาน 310 มม.
– ด้านหลัง เป็นช็อคอับเดี่ยว WP พร้อมปรับตั้งได้เต็มรูปแบบระยะการทำงาน 300 มม.

ถ้าจะถามถึงประเทศที่เป็นแหล่งก่อตั้ง HUSQVARNA ก็ต้องย้อนกลับไปราวๆ ปี ค.ศ.1903 ที่เมือน Huskvarna ในประเทศสวีเดน แต่มามีสำนักงานใหญ่ในประเทศออสเตรีย นับรวมอายุของบริษัทนี้ก็เกินศตวรรษไปนานแล้ว และยังสร้างแต่รถทางฝุ่นเท่านั้น ขอดึงเอารถแข่งสายโมโตคอสอย่าง FC 250 มาอวดกันสักหน่อย

ขอขอบคุณภาพจาก www.husqvarna-motorcycles.com

“โรงเรียนวชิราลัย” คืนฟอร์มแกร่ง! ทวงแชมป์ภาคเหนือ “สพฐ.-เอ.พี. ฮอนด้า เรด แชมเปี้ยน แข่งขันทักษะฟุตบอลชิงแชมป์ไปอังกฤษปี 7″ ลัดฟ้าพัฒนาศาสตร์ลูกหนังที่แดนผู้ดีเป็นสมัยที่ 3

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมกับ บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย จัดกิจกรรม “สพฐ.-เอ.พี. ฮอนด้า เรดแชมเปี้ยน แข่งขันทักษะฟุตบอลชิงแชมป์ไปอังกฤษปี 7″ ประจำปี 2560 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเฟ้นนักเตะเยาวชนไทยอายุ 12-15 ปี ที่กำลังศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษา ที่มีทักษะฟุตบอลขั้นพื้นฐานดีที่สุด จาก 5 ภาครวม 25 คน จากสถานศึกษาทั่วประเทศ ไปอบรมทักษะฝีเท้าในรูปแบบ Short Training Course กับสโมสรฟุตบอลชั้นนำถึงประเทศอังกฤษ

ล่าสุดการแข่งขันสนามที่ 4 รอบชิงแชมป์ภาคเหนือ ณ สนามกีฬามหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม วิทยาเขตทะเลแก้ว จังหวัดพิษณุโลก ผลปรากฎว่าทีมโรงเรียนวชิราลัย ทีม A จาก จ.เชียงใหม่ สนับสนุนโดย บจก.นัติมอเตอร์ ซึ่งเป็นแชมป์เก่า 2 สมัย ในการแข่งขันประจำปี 2557 และ 2558 สามารถโชว์ทักษะฝีเท้าได้อย่างยอดเยี่ยม แบทเทิลทักษะฟุตบอล 5 สถานี เดาะ-เลี้ยง-ส่ง-โหม่ง-ยิง เหนือคู่แข่งจนกลับมาผงาดคว้าแชมป์ภาคเหนือได้สำเร็จอีกครั้ง จากทั้งหมด 85 ทีม (425 คน) ที่เข้าแข่งขัน พร้อมทำคะแนนได้รวม 361 คะแนน คว้าสิทธิ์เดินทางไปพัฒนาฝีเท้าต่อที่ประเทศอังกฤษเป็นทีมที่ 4 ได้สำเร็จ

ทั้งนี้ผู้ชนะในการแข่งขัน “สพฐ.-เอ.พี. ฮอนด้า เรดแชมเปี้ยน แข่งขันทักษะฟุตบอลชิงแชมป์ไปอังกฤษปี 7″ ประจำปี 2560 ทั้ง 3 สนามที่แข่งขันไปเรียบร้อยแล้วก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย แชมป์สนามแรกภาคกลาง คือ โรงเรียนวังตะเคียนวิทยาคม ทีม B จากจังหวัดปราจีนบุรี สนับสนุนโดย หจก.ประสิทธิ์มอเตอร์ปราจีนบุรี ได้คะแนนรวม 367 คะแนน, แชมป์สนามสองกรุงเทพฯ และปริมณฑล คือ โรงเรียนราชวินิตบางเขน ทีม A สนับสนุนโดย บจก. ชาญกิจเจริญ คะแนนรวม 248 คะแนน และแชมป์สนามสามภาคใต้ คือ โรงเรียนกำแพงวิทยา ทีม A สนับสนุนโดย บจก. เซาเทอร์นมอเตอร์เซลส์ จ. สตูล คะแนนรวม 203 คะแนน

ขณะที่สนามสุดท้ายสนามที่ 5 ชิงแชมป์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะแข่งขันวันที่ 16 ก.ย.นี้ ณ สนามกีฬากลางจังหวัดขอนแก่น จ.ขอนแก่น เฟ้นหาเยาวชนสุดยอดทักษะทีมสุดท้ายเดินทางไปจุดพลังฝันที่เมืองผู้ดี

สำหรับ “สพฐ.-เอ.พี. ฮอนด้า เรดแชมเปี้ยน แข่งขันทักษะฟุตบอลชิงแชมป์ไปอังกฤษปี 7″ แบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 รอบ ได้แก่รอบการคัดเลือกระดับ สพม. ดำเนินการโดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ และรอบชิงแชมป์ระดับภาค 5 ภาค โดยผู้ชนะเลิศแต่ละภาคทั้ง 5 ทีมรวม 25 คนจะได้ไปฝึกทักษะฟุตบอลแบบมืออาชีพในรูปแบบ Short Training Course กับสโมสรฟุตบอลชั้นนำที่ประเทศอังกฤษในช่วงต้นปี 2561 และทีมที่มีคะแนนสูงสุดเพียงทีมเดียวจะได้รับถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

เยาวชนที่สนใจจะเติมเต็มความฝันสู่นักฟุตบอลอาชีพ สามารถสมัครร่วมการแข่งขันได้ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศโดยติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.aphonda.co.th

SUZUKI RM-Z450 2018 “ไม้เด็ดสายฝุ่นจากแดนซามูไร”

SUZUKI RM-Z450 2018

เครื่องยนต์ : 4 จังหวะ 1 ลูกสูบ 4 วาล์ว DOHC

ขนาดความจุ : 449 ซีซี.

กระบอกสูบ x ระยะชัก เท่ากับ : 96 x 62.1 มม.

กำลังอัดเครื่องยนต์ : 12.5 : 1

ระบบระบายความร้อน : ด้วยน้ำ

ระบบควบคุมการจุดระเบิดด้วยระบบ : CDI

ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ : ด้วยคันสตาร์ทเท้าเพียงอย่างเดียว

ระบบจ่ายเชื้อเพลิง : ด้วยหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์

ชุดเกียร์ : ธรรมดา 5 สปีด

ถังน้ำมัน : เปลี่ยนเป็นแบบถังพลาสติก

ระบบคลัทช์ : แบบเปียกสั่งงานด้วยสายสลิง

ระบบขับเคลื่อน : โซ่และสเตอร์ ขนาด 13/50 T

เฟรม : ผลิตจากอะลูมิเนียมชนิดพิเศษ และปรับระยะให้สั้นลงกว่าเดิมพร้อมกับลดน้ำหนักตัวเฟรมลงไปอีก 700 กรัม เพิ่มเสถียรภาพการพลิกตัวได้เร็วขึ้นคล่องยิ่งขึ้น

สวิงอาร์ม : ผลิตจากอะลูมิเนียมชนิดพิเศษ และปรับระยะให้สั้นลงกว่าเดิมพร้อมกับลดน้ำหนักลงไปอีก 100 กรัม เพิ่มเสถียรภาพการพลิกตัวได้เร็วขึ้นคล่องยิ่งขึ้น

แฮนด์ : ทรงทีบาร์ใช้ของ RENTHAL Fatbar แบบอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาสีดำ

ชิ้นงานบอดี้พาร์ทมีทั้งหมด 20 ชิ้น
– การ์ดแกนช็อคอับหน้าซ้าย/ขวา
– บังโคลนหน้า
– แป้นเบอร์ด้านหน้า
– แผงการ์ดรังผึ้งหม้อน้ำซ้าย/ขวา
– ถังน้ำมันเชื้อเพลิง
– ฝาครอบถังน้ำมัน
– ปีกหม้อน้ำซ้าย/ขวา
– แป้นเบอร์ด้านข้างซ้าย/ขวา
– เบาะนั่ง
– บังโคลนหลัง
– การ์ดครอบเครื่องยนต์ด้านล่างซ้าย/ขวา
– การ์ดสเตอร์หน้า
– การ์ดคาลิเปอร์หลัง
– การ์ดจานเบรคหลัง

มิติตัวรถ
– กว้าง/ยาว/สูง : 835/2,175/1,260 มม.
– ความสูงของเบาะ 960 มม.
– ความสูงจากพื้นถึงตัวรถ 330 มม.
– น้ำหนักรวม 112 กิโลกรัม
– ความจุของถังน้ำมัน 6.3 ลิตร
– ระยะฐานล้อ 1,480 มม.

ระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า เทเลสโคปิคหัวกลับ ขนาด 49 มม. ของ SHOWA ที่ปรับเปลี่ยนเป็นแบบคอยล์สปริงแทนของเดิมที่เป็นระบบ SFF-Air
– ด้านหลัง เป็นช็อคอับเดี่ยวพร้อมซับแท้งค์ SHOWA Balance Free Rear Cushion (BFRC) ซึ่งใช้เทคโนโลยีเดียวกันกับรถสปอร์ต GSX-R1000R 2018 สามารถปรับตั้งค่าต่างๆ ได้ตามความต้องการทำงานร่วมกับสวิงอาร์มอะลูมิเนียมแบบใหม่

ล้อ/ยาง
– ล้อหน้าเป็นแบบซี่ลวดที่เซ็ตมาไว้เพื่อลุยโดยเฉพาะขนาด 21 นิ้ว กว้าง 1.60 นิ้ว ยางขนาด 80/100-21
– ล้อหลังเป็นแบบซี่ลวดที่เซ็ตมาไว้เพื่อลุยโดยเฉพาะขนาด 19 นิ้ว กว้าง 2.15 นิ้ว ยางขนาด 110/90-19

ระบบเบรก
– หน้า เป็นดิสก์เบรคชนิดตายตัว  270 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ
– หลัง เป็นดิสก์เดี่ยวขนาด 240 มม. คาลิเปอร์ 1 ลูกสูฐ

ถือว่าเป็นฤกษ์งานยามดีที่ค่ายบ้าพลังอย่างซูซูกิได้เวลาปล่อยไม้เด็ดสายฝุ่นรุ่นใหม่ หลังจากที่ซุ่มเก็บข้อมูลและให้นักแข่งทีมโรงงานได้ทดสอบขับขี่มาได้ระยะหนึ่ง มาถึงช่วงครึ่งปีหลังก็ได้เวลาเปิดตัวกันเสียที นั่นก็คือ New SuZUKI RM-Z 450 ซึ่งปรับโฉมใหม่ทั้งหมดมาดูกันหน่อยว่าจะเด็ดขนาดไหน

ขอขอบคุณภาพประกอบ www.suzukicycles.com และ www.mcnews.com.au